ในเย็นวันหนึ่ง ที่พระอาทิตย์ตกสวยงาม นกหนุ่มรูปหล่อจำนวนมากบินข้ามไปยังพื้นที่湿ที่ที่กลุ่มนกฟลามิงโก้นั่งอยู่ พวกมันโบยบินรอบๆ กันหลายครั้ง ก่อนจะเข้าใกล้นกฟลามิงโก้และติดปีกหมุนไปรอบๆ ในขณะที่เริ่มร้องเพลงปาร์ตี้ด้วยเสียงที่แตกพร่า นกที่มาใหม่นั้นไม่สามารถร้องเพลงได้ตรงจังหวะ และที่แย่กว่านั้นคือพวกมันมีนิสัยที่น่าขยะแขยงคือหยุดร้องเพลงกลางคำ โดยเฉพาะเมื่อคำนั้นมีพยางค์ที่ยาวที่สุด
นกฟลามิงโก้เองก็พยายามจะเลียนแบบพวกมัน พวกมันยกหัวขึ้นแล้วเริ่มร้องในแบบที่แปลกประหลาด แต่ก็ทำหัวหมุนไปมาถึงสามครั้งเกินไป ดังนั้นจึงยืดคอยาวออกไป แล้วโยกหัวไปมาและโน้มไปข้างหน้า แต่ในที่สุดพวกมันก็ตกหัวไปข้างหน้าอยู่ดีและดูโง่เง่า
“ดูนกพวกนั้นก้มหัวขุดดินอยู่” นกที่มาใหม่กล่าว “ทำไมพวกมันไม่ทำเหมือนที่เราทำ? พวกมันไม่มีสัญชาตญาณเหมือนนกน้ำเลย มาเราจิ้มเบ็ดๆ ลงไปที่จงอยปากของพวกมันดีกว่า แล้วดูว่าจะมีผลอะไรหรือเปล่า”
ดังนั้นพวกมันจึงลงไปที่พื้น และแบบบังเอิญก็ตีๆ ลงไปที่จงอยปากของนกฟลามิงโก้แต่ละตัว และมันก็ทำให้พวกมันรู้สึกเจ็บปวดมาก
จากนั้นนกฟลามิงโก้ก็สะดุ้งขึ้นและยืนอยู่ที่ขอบน้ำ พวกมันยกหัวขึ้นไปทางนกที่มาใหม่ เพราะอยู่ตรงใต้พวกมัน จากนั้นก็งอร่างกายเพื่อหยุดอีกครั้งแล้วร้องด้วยน้ำเสียงที่มีพลัง
ต่อมานกแปลกก็กระโดดและมีนกเพลีแคนตัวใหญ่เกาะอยู่บนตลิ่งโคลนใกล้ๆ
“ใครสั่งให้คุณไปทำลายนกฟลามิงโก้พวกนั้น!” มันตะโกน “ผู้ที่รู้ดีจริงๆ และผู้ที่ถามฉันว่าต้องร้ายแรงกว่านี้ไหม?”
“ตอนนี้” ถูกประกาศไปยังนกตัวอื่นๆ “ว่านกเพลีแคนตัวนี้เป็นนกที่มีการศึกษา และมันแค่รอดูนกฟลามิงโก้ที่มีขาเรียวยาว และรออีกสักนิดจนมันคิดว่าพวกมันจะหลับอีกครั้ง แล้วจึงทำให้พวกมันยืนขึ้น อย่างไรก็ตามเพื่อสอนให้พวกมันรู้จักสามัญสำนึก มันจึงปรากฏตัวในชุดที่เหมาะสมเมื่อเวลาผ่านไปกว่าเรื่องที่จะต้องการซึ่งคือแค่ครึ่งชั่วโมงก่อนอาหารค่ำ”
นกฟลามิงโก้ก็ควรจะได้รับสิ่งที่มาถึงเมื่อได้รับการบอกกล่าว แต่เมื่อใดก็ตามที่นกเพลีแคนที่มีความน่าเคารพอย่างเหลือเชื่อได้สูญเสียการฝึกฝนที่ให้ความเคารพและได้แสดงออกในชุดใหม่ และกลายเป็นอาจารย์ที่ชาญฉลาดให้กับกลุ่มนกฟลามิงโก้ พวกมันมักจะมีอำนาจในการเข้าฝึกในทุกโรงเรียนที่ได้ถูกนำไป
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมตั้งแต่นั้นมา จนถึงวันนี้นกฟลามิงโก้และนกเพลีแคนจึงเป็นเพื่อนกันเสมอ และอพยพเข้าร่วมกันไปยังประเทศอินเดีย