เต่าฉลาดแก่

กาลครั้งหนึ่งเมื่อฤดูร้อนกำลังจะสิ้นสุด ในรุ่งอรุณที่สวยงาม สดชื่นและใสแจ๋ว เต่าฉลาดแก่ชื่อว่าโทบี้ยกหัวขึ้นมองไปรอบๆ ที่ป่าท้ายเขาความโชคดี มันช่างงดงามนัก ทะเลสาบคริสตัลเปล่งประกายเหมือนกระจกเงิน และยอดเขาภูมิทัศน์ประดับไปด้วยแสงหมอกที่น่าหลงใหล แต่ดวงอาทิตย์กำลังแผดเผาเหนือศีรษะ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้หมอกเล็กๆ กลายเป็นควัน ทำให้ใบไม้ทุกใบแห้งเหี่ยว

กระต่ายที่เลี้ยงไว้และกระต่ายป่ากำลังดื่มน้ำจากทะเลสาบ นกต่างๆ บินสัญจรไปมาในป่า มองหาน้ำใสหรือหนอนตัวอ้วนๆ โทบี้สังเกตเห็นว่าเพื่อนบ้านตัวน้อยๆ ดูกระวนกระวาย กระหายน้ำ และหิวโหย เขาเกิดความสงสารพวกมัน ดังนั้นเขาจึงโน้มตัวไปทางน้ำทะเลสาบที่เป็นสีฟ้า และจมจมดั้งจมูกยาวของเขาลงไปในน้ำ แต่ในขณะที่เขากำลังจะดื่ม เขาก็นึกถึงผู้อื่นนอกจากตัวเขา มีแม่กวางตัวน้อยซึ่งมีลูกสองตัวที่ยังเล็กเกินกว่าจะหาอาหารเองได้ และแน่นอนว่าเธอคงจะดีใจถ้าจะได้หยดน้ำ ดังนั้นเขาจึงพยายามเกาะกิ่งของต้นวิลโลว์ และปล่อยน้ำที่ดีไหลจากรูจมูกของเขาไปสู่กระถางดอกไม้ของกวางและตัวแบดเจอร์

จากนั้นนกตัวน้อยๆ ก็บินเข้ามา และโทบี้ได้โปรยน้ำหยดเล็กๆ ไปให้พวกมันดื่ม เขากำลังคิดว่าเขาจะดื่มน้ำเองเมื่อป่าทั้งหมดถูกทำให้ตกใจด้วยเสียงดัง

“ไปให้พ้นทางเต่า!” ราชสีห์ผู้โกรธจัดและหยิ่งยโสตะโกนเข้ามา มันเข้ามาเห่าหอนในป่าโดยที่มีขนของมันกลายเป็นรังต่อ “เต่า, กรุณาออกไปจากทางของข้าหรือข้าจะจัดการเป่ามันให้ระเบิดด้วยรังผึ้งที่น่าสะอิดสะเอียนนี้”

“โปรดยกโทษให้ชีวิตอันทรงเกียรติของข้า,” โทบี้ตอบ “ข้ารักษาน้ำไว้ไม่ให้ไหลเข้าสู่ท้องของตนเอง เพื่อให้เพื่อนบ้านตัวน้อยๆ ของข้าสามารถดื่มได้ ดูซิ! พวกเขารู้สึกขอบคุณเพียงใด ข้าขอให้ท่านมองดูฝูงสัตว์ขอบคุณที่อยู่รอบๆ ข้า”

“อย่าสร้างเสียงมากนักและขยับให้ห่างไป!” ราชสีห์คำราม “ไป!”

แล้วโทบี้ ซึ่งเป็นเต่าที่มีความรู้สึกนึกคิดอย่างมาก ขอให้คณะละครสัตว์ได้สังเกตความกตัญญูของสัตว์ที่อยู่รอบๆ เพราะสัตว์ทุกตัวที่ว่ายผ่านน้ำ, สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำที่ปีนขึ้นจากชายฝั่ง, เต่าและมัสกัตที่ยื่นจมูกออกมาจากน้ำ ต่างออกเสียงร้องเบาๆ ราวกับเป็นเพลงขอบคุณแก่สัตว์เลื้อยคลานผู้ใจดี

“รับฟังคำพูดสุดท้ายของข้าเถอะ เต่าผู้เป็นที่รัก จงหายไป!” ราชสีห์ตะโกนด้วยเสียงที่ดังราวฟ้าผ่า

“ขอโทษท่านอันสูงส่ง ในขณะที่ข้าจะขอบคุณท่าน ข้าจะส่งหยดน้ำนี้ไปเพื่อบอกว่าท้องฟ้าที่มีเมฆหมอกจะพัดฝนมาช่วยคืนความเป็นอยู่ของเรา”

แต่ราชสีห์ไม่เชื่อ

“เงียบ! จงเชื่อฟัง!” มันนำคำพูดนี้กลับมาอีกครั้ง

ช้างที่มีอาการปวดท้อง ยังไม่ได้กินอะไรมาแล้วสามสิบหกชั่วโมง เพราะมันไม่ยอมให้หยดน้ำที่มาจากรูจมูกของโทบี้ ตอนนี้ด้วยงวงขนาดใหญ่จึงพยายามรับทุกหยดที่เจย์จะเทลงมา

เมื่อคณะละครสัตว์เสร็จสมบูรณ์ จากความมึนเมากำลังเกิดขึ้นในหัวของราชสีห์และขาของมัน ซึ่งตอนนี้เริ่มมีเนื้อตายนั้น สัตว์ทั้งหลายจึงมุ่งไปที่ทะเลสาบคริสตัล

“โอ้!” โทบี้ครวญครางดื่มน้ำด้วยความยากลำบาก “ข้าแน่ใจว่าเราต้องมีฝน”

ในขณะนั้นจริงๆ มันเริ่มมีฝนตกหนัก ราชสีห์ยกขาหน้าขึ้นซึ่งเต็มไปด้วยของเหลวดำคล้ายกับเมฆลมฟ้าฟาดเพื่อเช็ดตาตัวเอง ซึ่งเปียกโชกจนดูเหมือนคนที่จมน้ำ

“ฝนที่มีความกรุณานี้ทำให้ข้าหายดีแล้ว” มันกล่าว ส่าย kepala ของมันราวกับว่ามันเพิ่งยิงนกพิราบ “สาธุ! ขอบคุณ เต่าผู้ดี ข้ามีของเหลวสำหรับแผลที่ข้าจะสร้างให้กับท่าน” และมันก็จากไป

โทบี้หวิวๆ แต่เต็มไปด้วยความคิดที่ศักดิ์สิทธิ์ นอนดึกแนบอยู่กับกอหญ้า ฟังเพลงอันขอบคุณจากสิ่งมีชีวิตทั้งหมดรอบตัวเขา และเมื่อเขาหลับตา ฝนอีกครั้งเริ่มตกลงมาที่ยุ้งข้าวของราชา ปิ้น แต่ไม่นานเขาก็ต้องตื่นอีกครั้ง ฟ้าผ่ากรีดร้องไปทั่วทะเลสาบคริสตัล ฟ้าผ่าลงไปตามต้นไม้ แบดเจอร์และกวางเดินผ่านเขาไปด้วยความสั่นกลัว ครึ่งหลับครึ่งตื่น เขานอนในวิหารเล็กๆ ของไดอาน่า โดยที่เท้าของเขาอยู่ในน้ำ มองไปยังภาพอันงดงามของกรอบทองที่สูงตระหง่านอยู่เหนือเขา เมื่อละก็! แมวตัวหนึ่งโผล่ออกมาจากกอคลับ

ดวงตาของมันจดจ้องไปที่ศีรษะของโทบี้ ซึ่งมีเนื้อชิ้นหนึ่งติดอยู่ระหว่างเปลือกและเนื้อของเขา

น่าสยดสยอง! ไขมันจากเนื้อทำตกลงไปในน้ำ ทั้งหมดหนอนต่างพากันมาลงไปในน้ำและเลื้อยไปใต้จมูกของโทบี้เพื่อมาเพลิดเพลินกับมัน

“เงียบไว้ เต่า! เงียบไว้!” ตัวเลื้อยคลานและกบร้องบอก ซึ่งกำลังค่อยๆ แบกเฉลี่ยช้อนชิ้นใหญ่ ๆ ไป “โชคชะตาจะเอาคุณไปทำอะไร? หากแมวนักกินมาเจอคุณ มันจะฉีกคุณจนเหลือแต่ซาก คุณจะลอยไปในทะเลสาบคริสตัล หลังจากอาหารมื้อใหญ่ของเรา ยังจะต้องการเนื้อของคุณในช่วงค่ำคืนอีกทำไม?”

เต่าจึงกล้าโผล่หัวออกจากบ้านที่เก่าแก่

“จะให้ข้าแบ่งให้หน่อยมั้ย? โอ้ ไม่! มันจะไม่ยุติธรรมสำหรับคนอื่นๆ อา, อาหารนี้ช่างอร่อยจริงๆ!”

และในขณะที่ตัวเลื้อยคลานกำลังถกเถียงกันเกี่ยวกับว่าใครจะได้ขึ้นนำไปก่อนในมื้ออาหาร ก็มีปูตัวหนึ่งเข้ามา “ใหญ่ราวกับวัว” ตามสไตล์ทำอาหารในอเมริกาใต้

“และคุณเรียกว่านี่คือนก?” มันพูด “มันไม่มีความเห็นใจเลยที่จะขโมยจากเต่า”

แมวตัวนั้นเดินเข้ามา มันเลียเล็บของตนอย่างระมัดระวัง ใช้ฟันที่รากเล็บในมือมายีรูในใจที่ตกลงมาตามเขา พลิกหูที่แหลมคมของมันไปทางโทบี้และพูดกับเขาอย่างเคร่งขรึม ใส่ใจกาไม้แท้ๆ แบบสูงกว่าตน:

“น่าเสียดาย! น่าเสียดาย! คุณกำลังทำอะไรอยู่ลูกน้อยกลางบึงเน่า? คุณจะทำให้เนื้อของคุณเสียสละแบบนั้นไม่รู้ตัว”

แล้วทันใดนั้นก็ขยายลูกกวาดของมัน “ที่เปลือกของท่านนั้นคืออะไร? ท่านไม่อนุญาตให้ข้าคว้ามันออกมาให้ดอกหรือ? มานี่แล้วอย่าตอบปฏิเสธ ข้าจะให้เพื่อนรักไม่อยู่ตามลำพังกับเรา เต่า, คุณรู้ไหม, เพชรนั้นไม่ได้ทำมาสำหรับคนธรรมดาอย่างเรา”

เต่าสะดุ้งอย่างอาย มีขาหลังขาหนักจนเดินไม่สะดวกเนื่องจากโชคร้ายของบิดามารดาในอนาคต

“ระวังด้วยนะลูก!” เธอตอบ ยิ้มให้และลูบตัวเขาเบาๆ “เมื่อมันฟื้นฟูกลับคืนอีกครั้ง ดวงตาของท่านจะเจ็บปวดโดยไม่คำนึงถึงรูปร่าง, ธรรมชาติรับประกันสิ่งนี้ จะไม่มีอะไรช่วยได้”

แมวที่ถูกจับกุมด้วยโรคซึ่งแสนสะดวกใจจึงเดินจากไปด้วยเสียงกรีดให้น้อยลง

จากนั้นโทบี้ ซึ่งตอนนี้ถูกทอดทิ้งอยู่คนเดียว หมุนตัวไปยังแม่กวางซึ่งได้ล้มตัวอยู่ใต้เขาของเขา จากความเหนื่อยล้าทางโจมตี

“หลับเถอะ เพื่อนบ้านผู้รักสงบ มันไม่ดีที่จะปลุกให้คุณลำบาก”

แล้วเขาก็เงียบไป น้ำตาไหลน้อยๆในหญ้า ในการเห็นคำแนะนำที่วัดไส้ถูกปฏิเสธ เพื่อนบ้านที่เคยเป็นมิตร ตอนนี้กลับกลายเป็นผู้กินเนื้อและกำลังกลับคืนความเป็นมาย้อนหลังของเขา แต่ความง่วงเข้ามาเพื่อปลอบใจเขา และค่อยๆ คืนสู่ความเงียบสงัดในโรงฆ่าสัตว์ที่มีนักค้าขายเนื้อมากเกินไปกำลังชำแหละศพเจ้าใจดี.

English 中文简体 中文繁體 Français Italiano 日本語 한국인 Polski Русский แบบไทย