ต้นไม้ที่กระซิบ

ในใจกลางของ ป่าโบราณ ที่ดวงอาทิตย์ทองคำกล่าวลาจากวันและพระจันทร์เริ่มขึ้นอย่างนุ่มนวล เสียงกระซิบอ่อนๆ เต็มไปในอากาศ มันไม่ใช่เสียงกระซิบของลม แต่เป็นเสียงของต้นไม้เอง ใบไม้แต่ละใบมีเรื่องราว พายุแต่ละเสียงดึงดูดกับทำนองของเรื่องเล่าที่เต็มไปด้วยความคิดถึง ทิมมี่ เด็กชายตัวน้อยที่มีหัวใจเต็มไปด้วยความฝันแต่กลับรู้สึกหนักใจ ยืนอยู่ที่ขอบป่า ตาเบิกกว้าง ฟังอย่างตั้งใจ

“เข้ามาใกล้ๆ เด็กน้อย,” เสียงลึกที่ดังก้องที่เต้นอยู่ในอกของทิมมี่ เรียกเขา เขาก้าวไปอย่างระมัดระวังผ่านรากไม้ที่เกี่ยวพันจนถึงต้นไม้ที่งดงามที่ใหญ่และเก่าแก่กว่าที่เขาเคยเห็นมาก่อน เปลือกต้นมีร่องลึก เหมือนมันได้เห็นเสียงหัวเราะและน้ำตามาหลายศตวรรษ

“ฉันคือ ต้นโอ๊กเฒ่า และฉันได้เห็นหลายวิญญาณที่หลงอยู่ในความคิด แบกภาระอะไรอยู่หรือเด็กน้อย?” เสียงของต้นไม้ให้ความรู้สึกอบอุ่น เต็มไปด้วยความอบอุ่นของตะวันขึ้นนับไม่ถ้วน

ทิมมี่ถอนหายใจ หน้าตาอ่อนเยาว์ของเขาเต็มไปด้วยความกังวล “ฉันมีความฝัน ความฝันที่วิเศษ แต่ฉันไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรหรือว่าควรจะทำหรือไม่ ฉันรู้สึกเหมือนไม่มีทิศทาง”

“อ่า,” ต้นโอ๊กเฒ่ากล่าวรู้ดี “หลายคนเคยยืนอยู่ที่จุดที่นายยืนอยู่ เต็มไปด้วยความฝันแต่ไม่แน่ใจในเส้นทางที่จะเดิน ฟังให้ดี”

เหมือนกับถูกมนตร์สะกด ทิมมี่นั่งลงที่โคนต้นโอ๊กเฒ่า โลกที่อยู่รอบตัวเขาค่อยๆ จางหายไป ต้นไม้เริ่มเล่าเรื่องราวด้วยเสียงที่ดังก้องเหมือนกับเสียงฟ้าที่อยู่ไกล:

“เมื่อหลายปีมาแล้ว เมื่อแผ่นดินนี้ยังเยาว์วัย จิตรกรชื่อว่า ลิร่า มาที่นี่ เพื่อมองหาความคิดสร้างสรรค์ วันและคืนเธอเดินอยู่ แต่ทุกครั้งที่ใช้แปรงวาดดูเหมือนจะไม่มีชีวิต เธอร่ำไห้ใต้กิ่งของฉัน และฉันกระซิบถึงสีสันที่ไม่เคยเล่า ด้วยชีวิตใหม่ เธอวาดแสงแรกของรุ่งอรุณ จับลักษณะของวันที่เกิดใหม่ที่เต็มไปด้วยความหวังและการเริ่มต้นใหม่ ตอนนี้ภาพวาดนั้นยังคงนำความสุขมาสู่ทุกวันนี้ในอาณาจักรที่ห่างไกล เตือนความทรงจำของทุกคนที่มองเห็นถึงความหวังและการเริ่มใหม่”

หัวใจของทิมมี่พองโตขึ้นเมื่อได้ยินแต่ละคำ ต้นโอ๊กเฒ่าต่อเนื่องเล่าเรื่องราวของนักดนตรี คนฝัน และผู้คิดค้น ที่ทุกคนค้นพบจุดหมายท่ามกลางการกอดของป่า ถูกนำทางโดยปัญญาที่กระซิบจากต้นไม้ของมัน

“เห็นไหม เด็กน้อยทิมมี่,” ต้นไม้สรุป “ความฝันของนายก็เหมือนเมล็ดพันธุ์ อาจหลับใหลอยู่จนกว่าจะพบดินที่เหมาะสม ความอดทน และการดูแล เชื่อในการเดินทาง พูดความปรารถนาของนายให้ลมฟัง และฟัง มันอาจทำให้นายแปลกใจกับคำตอบที่มันจะนำมาให้”

พลบค่ำเริ่มเข้ามาหามัน ดวงดาวเริ่มเปล่งประกายอยู่ในท้องฟ้าสีคราม ด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความขอบคุณ ทิมมี่ลุกขึ้น น้ำหนักของความไม่แน่นอนถูกปลดปล่อย ต้นโอ๊กเฒ่าก้มหัวลงด้วยกิ่งไม้ ทิมมี่กลับเดินไปทางบ้านด้วยแววตาใหม่ที่เต็มไปด้วยประกาย บรรยากาศจิตวิญญาณของเขาถูกพันธนาการกับปัญญาที่ไม่มีวันจางหายของป่า

เมื่อเขาผ่านขอบเขตของป่า เขาหันกลับไปมอง เห็นต้นไม้เคลื่อนไหวในแสงจันทร์เหมือนกับกำลังส่งคำบอกลาถึงเขา เสียงกระซิบจะยังคงอยู่กับเขา เป็นการเตือนเบาๆ ว่าเขาไม่มีวันหลง แต่เพียงแค่ยืนอยู่บนขอบของการค้นพบ.

English 中文简体 中文繁體 Français Italiano 日本語 한국인 Polski Русский แบบไทย