การเดินทางของเรือสายรุ้ง

ในมหาสมุทรสีฟ้าที่ไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งน้ำระยิบระยับด้วยความลึกและเสน่ห์ที่ไร้ขอบเขต มีเรือที่รู้จักกันในชื่อว่า เรือสายรุ้ง เรือใบของมันเต้นรำด้วยสีสันที่ร้องเสียงเพลงแสนสุขในสายลมอ่อน และใบเรือของมันสัมผัสกับท้องฟ้าราวกับว่ากำลังแลกเปลี่ยนความลับกับเมฆบนฟ้า ที่หางเสือยืนอยู่ กัปตันสี ชายผู้มีผมสว่างดุจวันฤดูร้อนและต twinkling eyes เฉกเช่นดวงดาวที่สวยที่สุด แต่วันนี้มีเงาของความกังวลลอยอยู่เหนือสีหน้าที่เบิกบานของเขา

“สมบัติที่เราแสวงหาถูกซ่อนอยู่บนเกาะที่รู้จักกันในชื่อ ทะเลแห่งสีสัน” กัปตันสีประกาศกับเพื่อนของเขาที่ได้มารวมตัวกันบนดาดฟ้าเรือเพื่อฟังการประกาศที่สำคัญ “ฉันต้องการความช่วยเหลือจากพวกคุณ และแต่ละคนจะต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัวในการเดินทางครั้งนี้ น้ำเงินจะลอยและมองสิ่งต่าง ๆ จากด้านล่าง เขียวจะเชื่อมต่อกับโลกใบนี้ เหลืองจะนำความอบอุ่น แดงจะเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น และม่วงจะสร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่น ๆ”

ด้วยความตื่นเต้นที่เต้นอยู่ในใจ พวกเขาวางแผนงานให้เสร็จโดยรวดเร็ว น้ำเงินขัดล้างลำตัวเรือ ขณะที่ แดงและ เหลืองดูแลใบเรือ และคนอื่น ๆ เตรียมตัวสำหรับการเดินทางที่น่าตื่นเต้นนี้

หลังจากเดินทางมาหลายวัน พวกเขาพบว่าตัวเองล่องลอยเข้าไปในส่วนลึกที่แปลกประหลาดในทะเล ที่คลื่นเสมือนร้องเพลงด้วยทำนองที่ไม่เหมือนใครที่พวกเขาเคยได้ยิน บรรยากาศเต็มไปด้วยพลังที่กลมกลืนและเสียงกระซิบของมนต์ขลัง充滿空氣

“นี่มันเป็นสถานที่ที่แปลกประหลาดจริง ๆ,” ม่วงเริ่มพูดพร้อมมองออกไปยังความว่างเปล่า

“แปลกประหลาดจริง,” น้ำเงินเห็นด้วย ขณะมองอาหารที่เตรียมมา “แต่สมบัติอยู่ที่ไหน?”

“อาจจะมันยังรอเราอยู่ให้ค้นหา,” เขียวเสนอ

เมื่อทุกคนพิจารณาความลึกลับนี้ ความเงียบสงบของทะเลได้ถูกทำลายโดยการปรากฏตัวอย่างกระทันหันของหกเกาะ เกาะแต่ละแห่งมีสีสันที่สดใสและงดงาม: หนึ่งมีสีฟ้าในเฉดสีฝัน อีกอันมีสีม่วงที่สง่างาม อันที่สามอุดมไปด้วยดอกไม้สีส้มสดใส และอื่น ๆ ที่บานสะพรั่งในทุกเฉดสีที่สามารถจินตนาการได้

“อาจจะพวกมันคือเกาะแห่งสี ที่จากซึ่งมีสีจำนวนมากในโลก!” ม่วงสังเกต

“เราได้พบสมบัติแล้วหรือ?” เสียงของแดงเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์

ด้วยการถอนหายใจอย่างพอใจ กัปตันสีประกาศว่า “ให้เกาะเหล่านี้เป็นบ้านใหม่ของเรา ที่นี่เราจะอาศัยอยู่จนกว่าดาวในฟ้าและทรายบนฝั่งจะปฏิเสธเรา เราจะไม่ทำข้อตกลงใด ๆ นอกจากสีของเราจะไม่มีวันพบกัน”

พวกเขาทุกคนเห็นด้วยกับเงื่อนไขของกัปตันสี เนื่องจากพวกเขาชื่นชมซึ่งกันและกันมากเกินไปที่จะอยากอยู่ใกล้กันเกินไป

ในช่วงแรก ชีวิตของพวกเขาเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความสุขจากการใช้ชีวิตร่วมกัน อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ได้ตระหนักว่า ถ้าไม่มีซึ่งกันและกัน สีของพวกเขาค่อย ๆ เริ่มจางหายไป วันเดือนหมุนไปเป็นสัปดาห์ และพวกเขเริ่มรู้สึกถึงความเหงาลึกซึ้งที่ทำให้ภูมิประเทศที่สดใสของพวกเขาหม่นหมอง

“เราได้ทำอะไรลงไป?” เขียวร้องไห้วันหนึ่ง, “สีของเรากำลังจางหาย! ความงามของโลกนี้กำลังสูญหายเนื่องจากความหยิ่งยโสของเรา”

น้ำเงิน หมูชมพู น้ำตาล โอลีฟ อินดิโก และเพื่อนอีกหลายคนที่มาหาได้ตะโกนซ้ำกันว่า “เรากำลังจะตาย! เรากำลังจะตาย ขณะที่คนอื่นๆ จะเบ่งบาน”

เมื่อได้ยินเสียงนี้ เกาะเริ่มสั่นคลอน และจากในความลึกได้ปรากฏผู้หญิงสูงวัยแห่งมหาสมุทร เป็นสัตว์ที่เช่นวาฬ มีท้องใหญ่พอสมควร มีครีบข้าง และเสียงที่ดังกังวานราวกับกระดิ่งโบสถ์ ด้วยเสียงที่หนักแน่นสะท้อนผ่านน้ำ เธอถามสีเหล่านั้น “ทำไมพวกเจ้าถึงโศกเศร้าเช่นนี้?”

สีเหล่านั้นรู้สึกอับอายแต่สิ้นหวัง เล่าย้อนเล่าถึงเรื่องราวของความไม่ลงรอยและระยะห่างที่ถูกบังคับจากกัน

“แต่เด็กดีของข้า,” วาฬตอบ “สีไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่มีซึ่งกันและกัน จะไม่มีโอกาสที่จะพบกันอีกหรือ?”

สีต่าง ๆ มองหน้ากันอย่างไม่มั่นใจ ในที่สุดกัปตันสีพูดขึ้นว่า “เราเคยสัญญากันว่า สีของเราจะไม่มีวันพบกันอีกในโลกนี้”

“ความโง่เขลานั้น!” วาฬร้อง “จงไปจากเวลานี้สู่จุดที่ใกล้ที่สุดของเกาะสายรุ้ง และเทสีจากกล่องของแต่ละคนลงในทะเล แล้วพวกเจ้าจะมีความสุขอีกครั้งในที่ที่กำลังเศร้าและตายอยู่”

สีต่าง ๆ ไม่ต้องการคำเชิญสองครั้ง พวกเขารวบรวมสิ่งที่ยังมีอยู่ในจิตวิญญาณที่กำลังจะตายและทำให้มันเป็นกองใหญ่หกกอง โดยที่ม่วงเอาส่วนของตนเพื่อให้ได้ใกล้ชิดเพื่อนที่กำลังจะตายให้ได้นานที่สุด และพวกเขาทุกคนจึงจูบกันและกล่าวคำอำลาเกาะบ้านของพวกเขาที่จะไม่มีวันเห็นอีกในโลกนี้

และไม่นาน เกาะแห่งสีซึ่งเดิมเคยเป็นเพียงอนุภาคที่โดดเดี่ยวปรากฏขึ้นอีกครั้งผสมผสานกันในผิวน้ำของทะเลสีฟ้าที่ระยิบระยับ

กัปตันสีและเพื่อน ๆ ทุกคนยืนอยู่บนดาดฟ้าของเรือสายรุ้ง เติมเต็มด้วยความสุขจนปลายนิ้วของพวกเขาขณะชมคลื่นที่กระตุกและเปล่งประกายเป็นเสียงสีรูบี้ มรกต อำพัน และทับทิม

ตั้งแต่นั้นมา ความงามของเรือสายรุ้งก็สดใสดังเดิม; แต่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีใครจากชายฝั่งของอเมริกาเห็นเธอหรือการเดินเรือที่เบิกบานอีกเลย เพราะเธอกลายเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ตายของสายรุ้งที่มหัศจรรย์ที่สุดที่เคยเห็นในเช้าวันต้นเดือนกันยายน!

เรื่องราวของกัปตันสีและเรือสายรุ้งนี้เตือนใจเราทุกคนถึงความสำคัญของความหลากหลายและการทำงานร่วมกัน เมื่อเรายอมรับความแตกต่างของเรา เราจะสร้างโลกที่มีความหลากหลายและมีชีวิตชีวาได้มากขึ้น เช่นเดียวกับที่แต่ละสีช่วยเสริมความงามของสายรุ้ง ทุกคนต่างมีส่วนร่วมในสังคมที่มีชีวิตชีวา ขอให้เราปรารถนาและเฉลิมฉลองคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ของเราเพื่ออนาคตที่กลมกลืน.

English 中文简体 中文繁體 Français Italiano 日本語 한국인 Polski Русский แบบไทย