ครั้งหนึ่งในบ่อเล็กๆ ที่สวยงาม มีเจ้ากบตัวเล็กสีเขียวชื่อทิมมี่ ทิมมี่ไม่ใช่กบธรรมดา; เขาเป็นที่รู้จักทั่วทั้งบ่อสำหรับหัวใจที่อยากรู้อยากเห็นของเขา เขามักจะนั่งอยู่บนแผ่นลิลลี่ที่เขาชอบ ฝันถึงสถานที่น่าตื่นเต้นทั้งหมดนอกเหนือจากบ้านเล็กๆ ของเขา ทิมมี่อธิษฐานว่าเขาอยากจะพบใครสักคนจากดินแดนอันไกลโพ้นหรือเดินทางไปยังช่วงเวลาอื่น แต่เขาไม่รู้เลยว่าคำอธิษฐานของเขากำลังจะเป็นจริงในวิธีที่น่าประหลาดใจที่สุด
เช้าวันหนึ่งที่แสงแดดส่องสว่าง ขณะที่ทิมมี่กระโดดไปตามขอบของบ่อ เขาสังเกตเห็นบางอย่างที่เปล่งแสงอยู่ในหญ้า มันคือ นาฬิกาโบราณทองคำที่ถูกสร้างอย่างสวยงามและมีเสียงติ๊กต็อกแม้ว่าจะไม่มีเข็ม! ดวงตาของทิมมี่เบิกโตด้วยความตื่นเต้นเมื่อเขาตระหนักว่านาฬิกาสามารถเปลี่ยนเวลาได้ โดยไม่ต้องคิดมาก เขาจึงดึงนาฬิกาเบาๆ ด้วยเท้าตีนแฉลบเล็กๆ ของเขา
ทันใดนั้น สิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้น! วงลมของสีสันรอบตัวเขา และก่อนที่เขาจะรู้ตัว เขาถูกพัดพาไป! เมื่อลงสีได้จางลงและโลกมีความสงบ ทิมมี่พบว่าตัวเองอยู่ในสถานที่มหัศจรรย์แห่งหนึ่ง
บทที่ 1: ความมหัศจรรย์ของอียิปต์โบราณ
ทิมมี่กระพริบตาเบาๆ และใช้เวลาสักครู่ในการปรับตัวกับแสงแดดที่สว่างจ้า เขาไม่อยู่ข้างๆ บ่อของเขาอีกต่อไป แต่ในใจกลางของสิ่งที่ดูเหมือนทะเลทราย! “ริบิต!” เขาเปล่งเสียงอุทานด้วยความตกใจ เขากระโดดไปข้างหน้าบนทรายร้อน หลีกเลี่ยงสายตาที่อยากรู้อยากเห็นของผู้คนที่เดินผ่านไปมา พยายามที่จะค้นหาว่าเขาอยู่ที่ไหน—ในโลกนี้—
ทันใดนั้น ทิมมี่เห็นโครงสร้างหินขนาดใหญ่ที่มีลักษณะเหมือนภูเขา และข้างๆ นั้นมีรูปปั้นขนาดใหญ่ที่มีหัวของสิงห์ เขาคิดว่าเขาอาจพบบันไดไปยัง“ภูเขาทราย” รู้สึกผจญภัย เขาจึงกระโดดเข้าไปใกล้ ในขณะนั้นเอง ใบหน้าที่อ่อนโยนได้ปรากฏขึ้นจากฝูงชน มันคือเด็กหญิงอียิปต์คนหนึ่ง และเธอคุกเข่าลง โดยมีผมสีดำของเธอเปล่งประกายอยู่ในแสงแดด
“โอ้ เจ้าสัตว์น้อยที่น่าสงสาร! เจ้าอาจจะหลงทาง!” เธอพูดด้วยความเห็นอกเห็นใจ และเต็มใจที่จะช่วย เธออุ้มเขาขึ้นเบาๆ และเริ่มอธิบายชีวิตของเธอในอียิปต์ เธอบอกเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับฟาโรห์ที่ทรงพลังและพีระมิดที่ถูกออกแบบมาอย่างชาญฉลาด ทิมมี่ฟังด้วยความตั้งใจและตระหนักว่าประวัติศาสตร์รอบตัวเขานั้นน่าดึงดูดใจมากกว่าที่เขาจินตนาการไว้
“เขาจะปลอดภัยในบ้านของฉัน” เด็กหญิงพูดขณะที่เธอใส่ทิมมี่เข้าไปในถุงนุ่มที่แขวนอยู่บนไหล่ของเธอ ในคืนนั้น ขณะที่ดาวเต็มท้องฟ้า พวกเขาได้แบ่งปันเค้กข้าวที่อร่อย ทิมมี่ได้เรียนรู้คำภาษาอียิปต์บางคำและเคี้ยวอย่างมีความสุข พยายามที่จะพูดตามคำเหล่านั้น
“ขอบคุณนะ ราเบียห์” ทิมมี่พูดด้วยความภูมิใจในภาษาใหม่ของเขา เธอหัวเราะออกมาด้วยความสุข “และขอบคุณนะ ทิมมี่! ฉันไม่ได้มีค่ำคืนอย่างนี้มานาน!”
วันถัดมา ขณะที่พวกเขากินอาหารเช้ากัน เสียงฝุ่นก้อนใหญ่เริ่มสร้างความกังวล “เป็นพายุทราย! เราต้องกลับบ้าน!” ราเบียห์ร้องอย่างเร่งด่วน โลกภายนอกกลายเป็นสีเทาทั้งหมด และเม็ดทรายแทงเข้ามาที่ผิวสีเขียวของทิมมี่เหมือนกับลูกศรเล็กๆ เด็กหญิงจับทิมมี่ไว้แน่น แต่ลมพัดแรงมากจนสามารถฉีกถุงออกจากการถือของเธอ ทิมมี่รู้สึกสับสนและกลัวเมื่อเขาถูกโยนไปในอากาศ
หลังจากที่หมุนไปนานหลายชั่วโมง เขาก็ลอยลงอย่างปลอดภัยบนพื้นหินขนาดใหญ่เรียบๆ พอเขากลับมาพบ่าตัวเองเขาก็รู้สึกได้ทันทีว่ามีลมหมุนวนที่คุ้นเคยอยู่รอบ ๆ ตัวเขา
บทที่ 2: การเดินเล่นในยุคกลาง
ทิมมี่ขยี้ตาของเขาเพื่อกันแสง และเมื่อเปิดตาออกมาจริง ๆ สิ่งที่เขาเห็นเป็นภาพที่น่าประหลาดใจที่สุด คลังสินค้าและโรงนาเหยียดออกไปไกลแค่ไหนก็ไม่รู้ล้อมรอบด้วยทุ่งหญ้าเขียวขจีและเนินเขาที่คลื่นไส้ แต่ที่นี่กลับไม่เงียบเลย เสียงเกราะเหล็กกระทบกัน เสียงม้าพ่นอากาศและเสียงเชียร์อย่างตื่นเต้นเต็มอากาศอยู่เบื้องหน้าเขา
ทิมมี่กระโดดไปที่ขอบเนินเขาซึ่งตอนนี้รู้สึกเหมือนภูเขาที่ใหญ่โต! ไม่นาน หลังจากนั้นเขาก็เห็นปราสาทที่ยอดเยี่ยมหนึ่งหลัง ป้อมที่สูงของมันตั้งตระหง่านไปสู่ฟ้าสดใส และธงปลิวไสวอยู่บนยอด อย่างที่บอกกันว่า มงกุฎของกษัตริย์ริชาร์ดเปล่งประกายสว่างกว่าแสงอาทิตย์นับพัน นี่คือความคิดที่น่าตื่นเต้นสำหรับทิมมี่ที่จะเก็บไว้ในใจ
ทันใดนั้น เงาขนาดใหญ่เร็วๆ หนึ่งผ่านเหนือศีรษะเขา มันคือเหยี่ยวผู้สูงส่งบินอย่างใกล้ชิดกับเขา เหยี่ยววนรอบเหมือนกำลังตัดสินใจว่านี่เป็นขนมเขียวขนาดเล็กที่คู่ควรกับความหิวของมันหรือเปล่า โดยไม่คิดมาก ทิมมี่จึงกระโดดหลบเข้าไปใต้พุ่มไม้ที่หนาแน่น เหยี่ยวบินจากไปทั้งสับสน แต่หัวใจของทิมมี่เต้นระรัวขณะที่เขากดร่างเล็กๆ ของเขาลงไปในเงามืดอย่างลึกซึ้ง
“ทิมมี่ผู้กล้าหาญ!” เสียงดังสนั่นเรียกด้วยความสดใส เสียงนั้นทำให้ทิมมี่ตกใจจนต้องโผล่ออกมาจากพุ่มไม้เพื่อพบกับชายชราที่ใส่เสื้อที่ทำจากขนสัตว์สีสันสดใส ยิ้มแย้มแสดงความยินดีต่อเขา “เจ้าช่างโชคดีที่ไม่มีอะไรน่ากลัวเท่าม้ายืนเปิด!” ทิมมี่รู้สึกสนใจในคำพูดของเขาและกระโดดเข้าไปใกล้ “ท่านเห็นมั้ยว่าเมอริคคือเหยี่ยวแห่งราชวงศ์ของเรา และเป็นการปกป้องที่ดีที่เขาให้กับเจ้า!”
ชายผู้นี้ แนะนำตัวว่าเป็นอัตวา หัวเราะอย่างมีความสุขและพูดชื่อของนกอีกครั้ง ทิมมี่ก็พูดอย่างภูมิใจว่าเขารู้จักชื่ออื่นในสองภาษาอื่นแล้ว
“ฉันกำลังมุ่งหน้าไปยังปราสาท” อัตวาประกาศอย่างกะทันหัน ขัดจังหวะความสุขของทิมมี่ เขาบอกว่าเขาคือผู้ส่งข่าว ราชาของเขาต้องการให้ใครสักคนไปถึงราชินีซึ่งอยู่ที่กรุงฝรั่งเศส ทิมมี่เรียนรู้ว่าอัตวาหัวเราะด้วยความสุขขณะพูดต่อไป “ถ้าจำเป็นชายชราท่านนั้นก็สามารถส่งข่าวได้!”
กล่าวลา สุดท้ายทิมมี่สังเกตเห็นว่าชายสูงอายุคนนี้มีกระเป๋าใบโตที่เต็มไปด้วยผลไม้สีแดงเล็กๆ อัตวาดูแก่และหลังของเขาค่อนข้างงอ ทำให้เจ้ากบอบอุ่นใจ เมื่อเห็นเหตุการณ์ดีๆ เช่นนี้ ทิมมี่กระโดดเข้าไปในกระเป๋า ตั้งใจจะช่วยมากเท่าที่จะทำได้
ทั้งสองเดินทางอย่างมีความสุขร่วมกันผ่านป่าและทุ่งหญ้า บางครั้งก็ฟังเสียงเพลงที่อยู่รอบตัวพวกเขา ขณะที่พวกเขาเดินทางเข้าใกล้ปราสาท ทิมมี่เห็นธงที่มีลายขาวและเขียวกระพืออยู่เหนือประตูที่กล้าหาญ
“เปิดให้กับผู้ใดไม่ใช่เซนต์จอร์จ!” อัศวินตัวสูงตะโกนเตือนเสียงดัง ถ้าเช่นนั้น ประตูได้เปิดค้างในขณะที่พื้นสะเทือนชีวิต เมื่อเสียงสงบ ทิมมี่ได้ยินเสียงดนตรีที่มีความสุขลอยอยู่ในอากาศ เขาแทบจะไม่สามารถเก็บความตื่นเต้นของเขาไว้ได้ เขากำลังจะเข้าไปในปราสาท!
อัตวาและทิมมี่รีบวิ่งผ่านทางเข้าประตูและขึ้นบันไดที่ใหญ่โตไปยังห้องจัดงานเลี้ยงชั้นบน รอบๆ ตัวมีผ้าม่านสีต่างๆ แขวนอย่างสง่างามเหนือผนังสูง เพื่อป้องกันลมหนาวที่พัดเข้ามา แต่สิ่งที่ทิมมี่เห็นจากมุมมองที่สูงนั้นคือโต๊ะยาวที่เต็มไปด้วยแก้วส่องประกายที่เต็มไปด้วยน้ำดื่มอันอร่อยและเนื้อสัตว์ที่เลือกสรรมาอย่างดี เขารู้สึกไม่เข้าท่าเมื่อเปรียบเทียบกับเกราะของอัศวินผู้สูงใหญ่รอบตัวเขา แต่ในที่สุดเขาก็รวบรวมความกล้าหาญและกระโดดไปอย่างกล้าหาญที่สุดเท่าที่จะทำได้ไปหากษัตริย์ริชาร์ด
ทิมมี่มาถึงโต๊ะของราชาอย่างมีชัยและด้วยความตื่นเต้น เขาเผลอต้องเทแก้วใกล้ตัวเขาล้มลง ทำให้ไวน์ไหลไปทั่วโต๊ะ จนทำให้เจ้าผู้ชายหนุ่มสองคนที่ใหญ่โตอาละวาดไปอย่างไม่เป็นระเบียบ ในทันใดนั้นเขาก็จับแก้วไว้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ที่ยังคงตั้งอยู่!
“เจ้าเด็กน้อย! จะทำให้กันหรือเปล่า?” กษัตริย์ริชาร์ดทำเสียงหัวเราะลำบากใจ ขณะที่เขาลูบหลังของกบด้วยแรงที่ทำให้ทิมมี่กระเด็นไปยังจานเมื่อกี้ด้วยความบังเอิญ เบอร์ติลไม่อยากถูกย่ำยี ก็เลยในขณะที่เขาลงทั้งสองด้าน เขาได้เหวี่ยงมะ Olive เข้าที่สุ่มโพล่เข้าไปหาราชาอย่างหยาบๆ หลังจากนั้น ประชาชนในห้องก็หัวเราะและตีแก้วของกันและกัน พร้อมกับเชียร์กบผู้มีอัศจรรย์ในการกระโดดของเขา
ทิมมี่ก้มตัวศีรษะอย่างสุภาพให้กับกษัตริย์ และเมื่อเขากระโดดกลับไปหาอัตวา คืนนี้เต็มไปด้วยเกมและเรื่องราวที่สนุกสนานของอัศวินผู้กล้าหาญที่ช่วยแม่หญิงจากอันตราย ต่างก็เล่ากันให้ฟังอย่างเหลือเชื่อยิ่งขึ้นไปอีก แต่ในที่สุด อัตวาก็เริ่มเงียบ และทันใดนั้นอากาศก็ได้ยินเสียงของกษัตริย์ริชาร์ด ทำให้ทุกคนตั้งใจฟัง “ฝรั่งเศสกำลังต้องการเจ้าหญิง!” อัศวินผู้สูงเกียรติ! ออกมาและเตรียมตัวเอง! วันนี้เราทุกคนจะเสนอให้กับการยอมรับของเธอ”
ห้องโถงเงียบสงบและเงียบ หลังจากเวลาผ่านไปนาน ขึ้นตรงถึงเพดานทอง ทุกคนนั้นก็ยิ้มแหล่งกับความกังวลที่มีระบำของเหล่าทหารทั้งหมดที่หลั่งไหลเข้ามาใหม่
อัตวายกทิมมี่ในมือ และอย่างที่ไม่รู้สึกตัว เขาเดินออกมา ทิมมี่ถามด้วยความสับสนว่าทำไมอัศวินถึงดูวิตกกังวล “ในระหว่างนี้ อัตวาก็พูดอย่างจริงจังว่า “กษัตริย์ของเราเป็นผู้นับถือศาสนาคริสต์ ที่มีเกียรติต่อศาสนาของเหล่าศักดิ์สิทธิ์”
อัตวาอธิบายต่อไปในระหว่างที่พวกเขาเดินอยู่ หลายคนที่นั่นมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะทำในสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อเอ็ดวินผู้เป็นผู้สมัครที่ได้รับการเลือกเป็นกษัตริย์ในฝรั่งเศส—“เพราะว่าเจ้าสาวที่หลบหนีนั้นตั้งใจจะแต่งงานกับใครก็ได้” อัตวาอุทาน พร้อมทั้งบีบแขนของทิมมี่อย่างอ่อนโยน “แต่ ฉันทำผิดอย่างร้ายแรงหากฉันทำนายว่าจะปล่อยมาช่วยเขา!”
ในขณะที่อัตวายืนอยู่หน้าผู้ที่สวมเสื้อคลุมของเขา ทิมมี่ไม่สามารถขัดขืนจากการกระโดดไปหาผู้ชายสองคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ สุดท้ายเขาตัดสินใจว่าเขาควรจะยังคงอยู่กับราชาของเขา และมองไปที่ซ้ายและขวาอย่างกลัว เขาเริ่มไปรอบๆ เส้นที่ยาวนานซึ่งอยู่ติดกับพระราชินีริชาร์ด
พวกเขาทั้งสองหัวเราะเสียงดังเมื่อทิมมี่กระโดดเข้าหาพวกเขา โบกมือให้เขาและยิ้มอย่างมีความสุข
“ไม่มีมนุษย์ธรรมดาที่จะกล้าทำแบบนี้; จอห์นสัน!” หัวหน้าพูด “Но come here!”
โดยการกลับตัวเมื่อพวกเขาขยับจากด้านขวาไปทางซ้าย ทิมมี่กระโดดเข้าไปตรงไปที่พระราชา; และเมื่อเขามาถึงยืนอยู่ในกลุ่มแฟนคลับที่ประหลาดใจข้างหน้าเขา มองไปทางซ้ายและขวากระโดดไปยังล็อคยาวของเขาและก็ตบมือให้โดยไม่รู้
“ไม่มีคนที่หวั่นกลัว!” เขาหัวเราะอย่างอารมณ์ขัน แต่พออีกสักไม่กี่วินาทีต่อมา อัศวินที่ดีก็ได้ข้ามไปยังคิงได้ทันที ด้วยความพยายามในการกระโดด และได้ตะปบกันจนร่างของเขาสั่นไปทางนั้น
โชคดีสำหรับทิมมี่ หมายเลขของหมายเลขทั้งหมดก็อยู่ในทั่วกัน อัตวาฟังข่าวจากกษัตริย์เอ็ดวิน แต่ก่อนที่เขาจะได้ยิน “เรือของเขาจมลงนอกชายฝั่งของฝรั่งเศส กองพลของเขาต่อสู้อย่างเต็มที่ แต่ก็ยังไม่สามารถไปถึงพระราชาซึ่งรอการเข้าถึงได้จากที่นี่; แถมคิดถึงอีกครั้ง ทิมมี่ ฉันต้องหนีไปคนเดียว!”
อีกครั้ง เหยี่ยวบินผ่านหัวของทิมมี่ ทำให้เขาต้องตั้งใจรับรู้ถึงสายตามากมายที่มองมาที่เขา มีหลายคนที่ยืนอยู่รอบๆ ต้น oak ขนาดใหญ่ เจ้านกเมอริคได้ขยับขนและร่อนลงด้วยเสียงเรียกร้องในเวลาเดียวกัน การลั่นของทุกคนทำให้รู้สึกถึงความสนุกสนานในเวลาเดียวกัน
“ฮูเร่! ฮูเร่ เห็นนักสู้! ให้เขามีมีดหนึ่งเล่ม! ที่นี่! โอ้ เขาเยอะแยะ!” ฝูงชนที่สนใจตะโกนอยู่เรื่อย
โดยตื่นเต้นจากการที่อยู่รายรอบดันทิมมี่ กระโดดไปบนผ้าทอสีสวยในทันพัด เขาแทบไม่ตระหนักถึงอันตรายที่กำลังคอยอยู่ข้างกายขณะนี้ ข้างๆ ตัวเขาอีกสองคนที่ขวักไขว่วุ่นวายก็แสดงความกล้าเริ่มซบเข้าหาเขาทางเดินเฉียดเป็นเสียงขอบกัน
“ทิมมี่” ทั้งสองชายหัวเราะเสียงดังกระหึ่มอย่างเด็ก “อดีตแห่งให้่กับความเร็วของเขาคือที่ยอดเยี่ยมเกินกว่าตามขี่เป็นใครกัน!
แต่กระนั้น ทิมมี่ก็กลายเป็นตัวละครที่สามารถอยู่ได้ ทั้งคืนถูกเริ่มได้อย่างสนุกสนานที่มีไม่คาดหมาย ทิมมี่ไม่ได้ท้อแท้ว่าอัศวินก็พยายามขัดขวางทำให้รูปแบบใหม่ทุกขณะที่เขากำลังมองหาความฝัน
นั่นอาจจะเกิดขึ้นได้เมื่อจบคือความเจ็บป่วยมากัน ทั้งคืนไปเรื่อย ๆ ในการเดินทางที่นี่ ทิมมี่ก็เข้าไปผจญภัยเห็นเหนื่อยใจขาจรจัดอยู่ เราไปข้ามมาต่อไปโชคดีอยู่ข้างใน
บทที่ 3: เดินทางไปสู่อนาคตอันไกลโพ้น
ทว่ากลับไปอีก กระโดดลงไปอย่างรวดเร็วราวกับว่านับครั้งไม่ถ้วนสิ่งที่พร้อมจะเกิดขึ้นทันทีในเราเฟื่นนัดหมายหรือสองครั้งแล้วย้อนไปยังอายุสั้น ๆ
ในขณะที่เขายอมแพ้ไม่ใช่กล้าของอายุที่ส่วนล่างจะทำให้ไม่ไปยิ้มไปบนการเทว่ากลับอยู่ก็ไม่เท่าต่องานทั่วนั้น ที่ที่เคยคิดไว้ที่นี่ที่มาทางนักสู่การประนอมเท่าที่ว่า การให้จัดการต่อไปจึงเป็นตำแหน่งที่น่าสนใจไปถึงภายใน.
เหยื่อนั่นถูกถ่วงเกิดที่มักเป็นอย่างหวังให้การเซ็นของร่างกายยิ่งใหญ่เกิดขึ้น
หวังเรือสำหรับเรากลับจุดที่รอการขับเคลื่อน.
ส่วนที่ผ่านไปรีบภารได้.
ขอให้การสื่อสารสดจากขาดเครื่องเก่าใส่ในลม1910นเถอะพวกเขาหลายจำนวนของการเดินทาง
รู้อยู่ราบซ่องกมีการอยู่เคยในเวลาสูสามกรณี.
บทที่ 4: กลับบ้าน
ทิมมี่และอัตวายังคงอยู่ในความปลอดภัย แม้ท่ามกลางเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดที่ในที่สุดในนั้น ทิมมี่เข้าใจความกล้าหาญเหนือคำที่แปลเพื่อไปสู่ตาข่ายลึกลับ
ดีที่สุด ณ ที่ที่มากจะต้องเป็นประเทศล้างหน้าของคนขี้ริ้วเบื้องหน้า
เขาเริ่มรอในขณะที่การเดินทางที่เขาได้เห็นทั้งหลายซึ่งต้องขอแค่ซักสิบของช่วงเวลา
อืมพวกเขาโนตาจริงอยู่ที่นี่มันจริงไปที่อพาร์ตเมนท์ของพวกเขา
ขณะนั้นของการเรื่องเหลือ
ทุกอย่างเกิดขึ้นพร้อมกันในสังคมของครอบครัว
อย่างล่ะ ทิมมี่เตรียมกลัวการหยุดซ้ำด้วยเหตุผลการเดิน หอแบบ
โทนในสังคมแตกต่างกัน
ยกตัวอย่างของการเดินทางตอบสนองให้คนจมหายไปที่เค้าดู
มี
ว่าช่วงกลับบ้านไปยังเมืองใหม่ินการเริ่มปะทะกัน เมื่อมีจะได้งั้ง
ทิมมี่กับอัตวามีความขัดแย้งในเส้นทางหลายๆทีม
แต่อัปเดตเพิ่มเหนือในการซ่อนตัวอาจจำเป็นเตรียมไว้ให้
เยียวยาให้การเล่าเรื่องของพวกเขา
หวัง แต่ท่มากขึ้น
เมื่อหนทางเดินง่าย โลหิตการต่อน time
ของพวกเขา
ตรงกลางเป็นเวลาที่ขาดที่ซ้อนทับเหนการใช้เล่น
รวบรวมทรัพย์สมบัติแห่งความรู้ พวกเขาได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ขอบเขตพื้นที่ต่างกัน
เป็นการแจ้งอย่างใหี่มันงอกเต้นกลับบ้าน
เลื่อนตำแหน่งสามารถพัฒนาทิ้งไว้
อีกทั้ง เมื่อมาถึงที่ทำงานอบอุ่นแล้ว
ในการนี้ก็ราวกับว่าเราจะกลับบ้านให้ทัน
อาจต้องการให้มีได้สองต่อ
ตอนมีการอยู่ร่วมประสบอารยธรรม
น่า