นาฬิกาเดินทางข้ามเวลา

นานมาแล้ว ในเมืองเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ระหว่างภูเขาสีเขียวชอุ่ม มีเด็กชายชื่อว่าโอลิเวอร์ โอลิเวอร์ไม่เหมือนเด็กคนอื่นๆ เขามีจิตวิญญาณนักผจญภัยและกระหายความรู้ที่ไม่รู้จบ ทุกวันหลังเลิกเรียน เขาจะไปเยี่ยมคุณปู่ของเขาซึ่งเป็นชายชราผู้มีปัญญา มีเครายาวสีขาวที่เล่าเรื่องราวของดินแดนที่ห่างไกล

วันหนึ่งในบ่ายที่มีฝนตก ขณะที่โอลิเวอร์ค้นหาของในหีบใบเก่าที่อยู่ในห้องใต้หลังคาของคุณปู่ เขาพบกับนาฬิกาอันแปลกประหลาด นาฬิกานั้นไม่ใช่นาฬิกาธรรมดา มันมีสัญลักษณ์แปลกๆ ข carved บนหน้าปัดและประดับด้วยอัญมณีสองเม็ดที่เปล่งประกาย เมื่อโอลิเวอร์โชว์ให้คุณปู่ดู ตาของชายชราเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ

“อ๋อ! นาฬิกาเดินทางข้ามเวลา!” คุณปู่ร้องอุทาน “ตำนานเล่าว่านาฬิกานี้สามารถพาคุณไปยังเวลาหรือสถานที่ต่างๆ ได้ แต่ระวังนะ โอลิเวอร์; การเดินทางข้ามเวลาเป็นเรื่องที่สำคัญมาก!”

เมื่อรู้สึกตื่นเต้นกับความเป็นไปได้ โอลิเวอร์สวมใส่นาฬิกา ขณะที่เขาทำเช่นนั้น อัญมณีเริ่มเปล่งแสง และทันใดนั้นทุกอย่างก็มืดสนิท แสงสว่างที่เจิดจ้ามาหล้อมรอบเขา และเพียงครู่เดียว เขาก็พบว่าตนยืนอยู่ในทะเลทรายกว้างใหญ่ มีดวงอาทิตย์ส่องแสงจ้าอยู่เหนือศีรษะ

“นี่ฉันอยู่ที่ไหน?” โอลิเวอร์คิดอย่างตกใจ ขณะที่เขามองไปรอบๆ โลกแปลกๆ ที่อยู่เบื้องหน้า ในระยะไกล เขาเห็นโครงสร้างใหญ่โตทำจากหิน และเมื่อเขาเข้าใกล้ เขาก็รู้ว่าพวกมันคือพีระมิด! ความตื่นเต้นไหลเวียนอยู่ในตัวเขา—เขาอยู่ในอียิปต์โบราณ!

เมื่อเขาเดินไปยังพีระมิด เขาเจอเด็กกลุ่มหนึ่งเล่นเกมแปลกๆ พวกเขาทอยลูกบอลที่ทำจากปาปyrus ขณะที่ยืนอยู่เป็นวง ขับร้องจังหวะเบาๆ โอลิเวอร์รู้สึกสนใจและเดินเข้าไปหา

“ฉันขอเล่นด้วยได้ไหม?” เขาถาม ขณะพยายามเลียนแบบการเคลื่อนไหวของพวกเขา

เด็กๆ มองเขาด้วยความสงสัยเล็กน้อยจากเสื้อผ้าที่แปลกประหลาดของเขา แต่พวกเขาก็ต้อนรับเขาเข้าร่วมเกม โอลิเวอร์เรียนรู้กฎของเกมได้อย่างรวดเร็วและสนุกสนานอย่างที่สุด พวกเขาเล่นจนดวงอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า ทำให้ท้องฟ้าเป็นสีส้มและชมพูที่สดใส

เมื่อเด็กๆ ลาออกไปทีละคน โอลิเวอร์ก็รู้ว่าเขาไม่รู้ว่าจะกลับไปยังที่ที่เขามาอย่างไร ถนนกลายเป็นเขาวงกตของซอย และไม่นานความเครียดก็เริ่มมาเยือน ในขณะที่เขากำลังจะหมดหวัง ชายชราผู้ใจดีคนหนึ่งเดินเข้ามา เขาสวมเสื้อคลุมหรูหราและมีเครื่องประดับเป็นสัญลักษณ์อมตะทองคำที่คอ

“เจ้าดูเหมือนจะหลงทางนะ เด็กน้อย” เขากล่าวด้วยความใจดี “เจ้ามาที่นี่ทำไม?”

โอลิเวอร์อธิบายเกี่ยวกับสถานการณ์ของเขา และใบหน้าของชายคนนั้นก็ยิ้มอบอุ่น “ฉันสามารถช่วยเจ้าได้ ชื่อของข้า คือ อาเมนโฮเทป และข้าเป็นนักบวชของรา มาเถอะ ข้าจะให้เจ้ากินอะไรและช่วยเจ้าไปหาบ้านของเจ้า”

โอลิเวอร์ตามอาเมนโฮเทปไปยังบ้านของเขา ซึ่งเป็นบ้านที่เรียบง่ายประดับด้วยภาพฮิเออโรกลิฟฟิคที่สวยงาม นักบวชแบ่งปันขนมปังและน้ำผึ้งอร่อยในขณะที่พวกเขาคุยเกี่ยวกับโลกของโอลิเวอร์ อาเมนโฮเทปพยักหน้าเห็นด้วยกับเรื่องราวของเขาอย่างตื่นเต้น

“โลกนี้กว้างใหญ่และเต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์” เขากล่าว “เจ้าช่างโชคดีที่ได้สำรวจมัน แต่จงจำไว้ ว่าไม่ว่าเจ้าจะไปที่ไหนหรือเดินทางไกลแค่ไหน บ้านของเจ้าจะอยู่ในใจเสมอ”

หลังจากที่พวกเขากินเสร็จ อาเมนโฮเทปพาโอลิเวอร์ไปยังฝั่งแม่น้ำไนล์ ใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดาว เขาใช้แผนที่ดวงดาวเพื่อช่วยเด็กชายคิดหาวิธีกลับบ้านโดยใช้นาฬิกาของเขา

“ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ อาเมนโฮเทป” โอลิเวอร์กล่าวด้วยความขอบคุณ “ท่านได้แสดงสิ่งดีๆ ให้ฉันเห็นหลายอย่าง”

“จงจำเวลาที่เราอยู่ด้วยกันไว้” นักบวชชราตอบด้วยประกายตา “การเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์สามารถดื่มด่ำได้ไม่ต่างจากการผจญภัย”

เมื่อได้กล่าวลา โอลิเวอร์กดนาฬิกาและพร้อมกับแสงจ้าก็พบว่าตนกลับมาที่ห้องใต้หลังคาของคุณปู่แล้ว ฝนยังคงตกกระทบกับหน้าต่างอย่างต่อเนื่อง หัวใจของเขาเต้นแรงเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเมื่อเขาเล่าการผจญภัยของเขาให้คุณปู่ฟัง ซึ่งคุณปู่ก็ดีใจมาก

ตั้งแต่นั้นมา ทุกครั้งที่ฝนตก โอลิเวอร์จะปีนขึ้นไปที่ห้องใต้หลังคา หวังว่าจะได้ไปผจญภัยอีกครั้งผ่านกาลเวลา ด้วยนาฬิกามหัศจรรย์ที่ติดอยู่ข้อมือ เขาเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไม่เพียงแค่จากการอ่าน แต่ยังจากการใช้ชีวิตในมัน การผจญภัยของเขาเปิดใจและจิตใจของเขา พิสูจน์ให้เห็นว่าการเรียนรู้เกี่ยวกับอดีตอาจเป็นการผจญภัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดทั้งหมด

English 中文简体 中文繁體 Français Italiano 日本語 한국인 Polski Русский แบบไทย