ในช่วงบ่ายที่มีลมพัด, คิกิและลีโอวิ่งไปยังสนามโล่งอย่างตื่นเต้น ทั้งสองถือสายของว่าวแน่น ในขณะที่ท้องฟ้าเป็นสีน้ำเงินสวยงาม มีเมฆฟูฟ่องลอยผ่านไปเป็นครั้งคราว ว่าวของคิกิมีสีสันสดใส ในขณะที่ของลีโอเป็นโครงสร้างที่เรียบง่ายแต่แข็งแรง
“ดูว่าวของฉันบินสูงแค่ไหน!” คิกิตะโกน ขณะที่ชี้ไปที่ว่าวของเธอที่ลอยอยู่เหนือ
“แล้วว่าวของฉันบินสูงกว่าซะอีก!” ลีโอตอบกลับ ขยับสายว่าวของเขา ทั้งสองยิ้มแย้มด้วยความสุข ขณะที่ดูว่าวของพวกเขาเต้นเป็นจังหวะในสายลม
เมื่อสายลมพัดแรงขึ้น พวกเขาทั้งสองก็ตัดสินใจที่จะปล่อยสายออกไปอีกนิด จู่ๆ ลมพัดแรงพัดพาว่าวทั้งสองเข้าหากัน คิกิและลีโอเห็นสายว่าวของพวกเขาสัมผัสกันในอากาศ ทั้งคู่ตะโกนพร้อมกันว่า “ระวัง!”
แต่เวลาผ่านไปเร็วเกินไป! ว่าวติดกันอยู่ และในช่วงเวลานั้น พวกเขาก็แค่จ้องมองความยุ่งเหยิงที่มีสีสันในอากาศ แล้วก็มองหน้ากัน
“นี่เป็นความผิดของเธอนะ!” คิกิตะโกน
“ความผิดของฉัน? มันจะเป็นไปได้ยังไง? เธอประมาทเกินไป!” ลีโอตอบสวน พร้อมกับกอดแขน
ทั้งสองยุ่งอยู่กับการตำหนิกันจนลืมไปเลยว่าวของพวกเขายังคงอยู่ในอากาศ ลมพัดทำให้ว่าวทั้งสองดึงกันจนเกิดเสียงน่ารำคาญ
ในที่สุด คิกิถอนหายใจ “เราลองมาช่วยกันแก้ปัญหานี้ได้ไหม?”
ลีโอคิดไปครู่หนึ่ง แล้วพยักหน้า “ตกลง แต่ฉันจะถือสายของฉันก่อนนะ”
พวกเขาทั้งสองจับสายของตนแน่นและยกจากพื้นขึ้นช้าๆ ในขณะที่พยายามทำให้ว่าวอยู่ในอากาศ ใกล้เข้ามาทีละนิดอย่างระมัดระวัง ไม่ให้สายพันกันเข้าไปมากขึ้น
ในที่สุด ด้วยความอดทน พวกเขาก็สามารถแยกว่าวออกได้ และด้วยลมพัดอย่างกะทันหัน ว่าวทั้งสองก็ลอยสูงขึ้นฟ้าอีกครั้ง คิกิและลีโอตะโกนออกมาด้วยความยินดี
“เธอรู้ไหม” คิกิพูด “มันสนุกมากขึ้นเมื่อเราทำงานร่วมกัน”
“ใช่” ลีโอตอบพร้อมกับยิ้ม “ความเข้าใจและการทำงานร่วมกันทำให้มิตรภาพของเราแข็งแกร่งขึ้นจริงๆ”
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ทุกครั้งที่พวกเขาออกไปเล่นว่าว พวกเขาก็ทำแบบข้างๆ กันเสียงหัวเราะของพวกเขาดังก้องอยู่ในสายลมเบาๆ ไม่มีครั้งไหนอีกเลยที่พวกเขาจะให้ช่วงเวลาแห่งความไม่เห็นด้วยเข้ามารบกวนกัน