ในใจกลางของป่าอมตะ ที่ซึ่งแสงแดดเต้นรำผ่านใบไม้และดอกไม้กระซิบเรื่องราวอยู่เสมอ โอลิเวอร์นกฮูกอาศัยอยู่ เขาฉลาดมีดวงตากว้างที่เปล่งประกายด้วยปัญญา วันหนึ่ง ขณะที่เขานั่งอยู่บนต้นโอ๊กเก่าแก่ เขาได้ยินการสนทนาระหว่างกระรอกขี้เล่นสองตัวเกี่ยวกับ สมบัติที่สูญหาย ที่ซ่อนอยู่ในป่า
“มีเรื่องเล่าอยู่นะ” กระรอกตัวหนึ่งพูด ขยับหางด้วยความตื่นเต้น “ว่ามันถูกซ่อนไว้โดยสัตว์ที่จากไปแล้ว ซึ่งมีพลังที่จะทำให้ป่ามีความสุขจริงๆ”
“สมบัติ? ลองคิดดูว่าถั่วงอกที่เราจะเก็บได้เยอะแค่ไหน!” กระรอกอีกตัวตอบด้วยดวงตาที่ส่องประกาย
โอลิเวอร์ขนของเขาพองตัวขึ้น สมบัติที่นำความสุข? เขาตัดสินใจว่าต้องค้นหามัน แต่เมื่อเขากำลังพิจารณาเรื่องนี้ เงาหนึ่งก็ผ่านไปเหนือศีรษะ มันคือเบลล่าน้องกระต่าย เพื่อนของเขาที่ดูวิตกกังวล
“เกิดอะไรขึ้น เบลล่า?” โอลิเวอร์ถาม ขยับตัวลงไปหาเธอ
“โอลิเวอร์! คุณได้ยินไหม? มีจิ้งจอกเข้ามาในป่า และเขาตั้งใจจะขโมยสมบัติของเรา!”
หัวใจของโอลิเวอร์จมดิ่ง สมบัตินี้สามารถทำสิ่งดีๆ ได้มากมาย แต่ถ้ามันตกอยู่ในมือผิดอาจจะเป็นหายนะ เขารู้ดีว่าเขาต้องค้นหามันก่อน และอาจใช้มันเพื่อหลอกล่อจิ้งจอก
“ผมจะออกเดินทางไปค้นหาสมบัตินี้” เขากล่าวอย่างมั่นใจ “คุณอยากจะไปกับผมไหม?”
“โอ้ใช่ได้โปรด!” เบลล่าร้องด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความโล่งใจ
ด้วยกันพวกเขาวางแผน หากสมบัติสูญหาย มันต้องมีเครื่องหมายหรือเบาะแสอะไรบางอย่าง และหลังจากการปรึกษานาน พวกเขาคิดว่าจะค้นหาใกล้ต้นหลิวที่ร้องไห้ ที่นั่นพวกเขาค้นพบแผนที่เก่าที่มีฝุ่นจับอยู่ครึ่งหนึ่งฝังอยู่ในรากไม้
“ดูสิ โอลิเวอร์!” เบลล่าร้อง ด้วยจมูกของเธอสั่นไปมาด้วยความตื่นเต้น “มันคือแผนที่สมบัติ!”
โอลิเวอร์ตรวจสอบมันอย่างใกล้ชิด แผนที่แสดงทางไปยังสี่สถานที่ โดยแต่ละแห่งมีเครื่องหมาย ‘X’ เขาแทบจะเก็บความตื่นเต้นไม่อยู่ “เราต้องเรียกเพื่อนๆ ของเรา! สมบัตินี้ไม่ใช่เพียงของเราก็จริง แต่ของทุกคนในป่า!”
ดังนั้นจึงมีการเรียกประชุมใหญ่ นกต่างๆ เกาะอยู่บนกิ่งไม้ กระต่ายและกวางมารวมตัวกัน ขณะที่สิ่งมีชีวิตในป่าทุกตัวมาร่วมกันในพื้นที่โล่ง นั่นแหละที่จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ปรากฏตัวขึ้น โดยแกล้งทำเป็นเป็นมิตร
“โอ้! การล่าสมบัติ!” เขากล่าว ดวงตาของเขาแวววาวด้วยความโลภ “ขอให้ฉันเข้าร่วมการค้นหานี้ได้ไหม? ฉันสามารถช่วยคุณด้วยการดมกลิ่นที่เฉียบคมของฉัน”
โอลิเวอร์จ้องมองเขาอย่างสงสัย เขารู้สึกไม่สบายใจแต่ไม่อยากทำให้เกิดความตื่นตระหนก “ยิ่งมากยิ่งดี” เขาตอบกลับ
รุ่งเช้าถัดมา เมื่อดวงอาทิตย์แตกส่องบนท้องฟ้า โอลิเวอร์และเบลล่าเดินออกไปโดยมีจิ้งจอกติดตามอยู่เบื้องหลัง สี่ก้าวแรกพาพวกเขาไปยังต้นโอ๊กเก่าแก่ต้นใหญ่ที่มีเครื่องหมายด้วยหิน เมื่อพวกเขาขุดไป ก็พบกล่องสมบัติใบแรก
“อืม แครอท! ของว่างที่สมบูรณ์แบบสำหรับเพื่อนร่วมป่าของฉัน!” นกกระจิบร้อง
“เย้! นี่มันสนุกจริงๆ!” เบลล่าขยับไปมาอย่างมีความสุข
ทุกกล่องที่พวกเขาพบมีเซอร์ไพรส์น่าตื่นเต้น เช่น เบอร์รี่สุก อะเคิร์นระยิบระยับ ก้อนกรวดที่ส่องแสงมีกลิ่นสีรุ้ง และขนที่อบอุ่น น finally พวกเขามาถึงจุดสุดท้ายซึ่งเป็นโพรง abandoned เมื่อพวกเขาผลักออกก็เจอประตูที่แตกลงไปข้างล่าง ข้างล่าง!
โอลิเวอร์หันไปหาสัตว์ที่อยู่ข้างหลังเขา ดวงตาเปล่งประกาย “นี่ไม่ใช่แค่สมบัติ แต่เป็นหัวใจแห่งการแบ่งปันสำหรับป่าทั้งหมด!”
แต่ขณะที่พวกเขาออกมาจากโพรงด้วยสมบัติทั้งหมดนั้น จิ้งจอกหัวเราะอย่างเย้ยหยัน “เป็นการสูญเสียเวลาที่น่าเสียใจ ใช่ไหม? ลองคิดดูเกี่ยวกับความมั่งคั่งที่ฉันสามารถสะสมได้!”
“อา” โอลิเวอร์ตอบ ในดวงตาของเขามีความเข้าใจ “แต่สมบัติที่แบ่งปันจะนำความสุขที่มากกว่าความมั่งคั่งเท่านั้น”
เสียงของพวกเขาดังขึ้นด้วยเสียงหัวเราะ ที่กลบเสียงความหงุดหงิดของจิ้งจอก พวกเขาทานอาหารอย่างมีความสุขและร้องเพลงจนป่ากลับมาดังก้องเต็มไปด้วยความสุขอีกครั้ง แต่โอลิเวอร์ยังคงมองจิ้งจอกเก่าตาเหล่เบลล่า ด้วยความกลัวว่าเขาจะกล้าที่จะขโมยสมบัติของพวกเขาหรือไม่?
คืนวันนั้น แสงเทียนเต้นระบำในพื้นที่ใต้รังของโอลิเวอร์ เบลล่านั่งอยู่กับเขา กินเบอร์รี่ที่เหลือจากวันแห่งความอร่อยของพวกเขา
“ฉันไม่คาดคิดเลยว่าสมบัติจะมีเวทมนต์แบบนี้ โอลิเวอร์” เบลล่าเอ่ยด้วยความคิด “มันเหมือนอะไรบางอย่างในนิทาน”
โอลิเวอร์หัวเราะอย่างเบาๆ สลับระหว่างความฝันและความตื่น “ความฝันในบางครั้งมีเนื้อหาหลายแบบ พวกเขาเริ่มสึกขาดในหนึ่ง และพวกเขาสวมอีกอย่าง จนกระทั่งพวกเขาเก็บรักษาไว้สำหรับรุ่นต่อๆ ไป”
ทันใดนั้น เสียงกรนด้านนอกขัดจังหวะคำพูดของเขา เงาหนึ่งลอยผ่านสายตาของเขา “เบลล่าตัวนั้น!” เขากระซิบ เตือนตัวเองครึ่งหนึ่งและกลัวครึ่งหนึ่ง
แต่ก่อนที่จิ้งจอกจะพุ่งไปหยิบสมบัติที่เขาเก็บสะสมไว้อย่างระมัดระวัง โอลิเวอร์บินตัดต่ำและทำให้เขาตกใจหนีไป “คุณลืมไปหรือว่าเพื่อนเจ้าเล่ห์ ฉันไม่ใช่คนที่ถูกหลอกง่ายๆ!” เขาฮู้ตออกมา
จิ้งจอกกระตุกด้วยความโกรธ “สิ่งนี้จะไม่ถูกลงโทษง่ายๆ นกฮูก!”
โอลิเวอร์ก็แค่ฮู้ตตอบกลับ และกลับไปยังสมบัติของเขา
ตั้งแต่เพื่อนในป่าของเขาเริ่มแบ่งปันกับเขาในทุกอย่าง พวกเขาก็เริ่มรู้ถึงเสน่ห์ของสมบัติ วันรุ่งขึ้นหลังจากที่โอลิเวอร์ฮู้ตที่จิ้งจอก พวกเขาเติมแสงแดดในบ้านเล็กๆ ที่เบลล่าน้องกระต่ายอาศัยอยู่ พวกเขาร่วมเป็นครอบครัวของนกดาวที่เร่ร่อนรวมถึงเด็กมนุษย์สี่คน ที่เรียกวันสนุกสนานแห่งความสุขส่งไปถึงแคนาดาทั้งหมด
ในขณะนั้น จิ้งจอกเก่าก็ยังคงฟังเสียงของกล่องสมบัติที่อยู่ด้านนอกบ้านของโอลิเวอร์
เขาไม่เคยมีโอกาสได้เข้าใกล้ ซึ่งมันก็เหมือนกับการเล่นวงแหวน ต้นไม้โค้งทิ้งเป็นสิบๆ ต้นเรียงแถวตั้งอยู่ด้านข้างแม่น้ำ ห่างกันเป็นไมล์และอีกฟากของแม่น้ำ
ดังนั้นวันนั้นจึงผ่านไป ทำให้เจ้าเบลล่าหัวเราะวนไปรอบๆ ที่เขาอาจจะได้นอนถึงตอนเช้า หลังจากนั้นเขาไปยังฝั่งที่ตรงกันข้ามกับพื้นที่ว่างที่โอลิเวอร์อยู่ ทางนั้นลาดชันและเต็มไปด้วยโคลน แต่เจ้าจิ้งจอกแก่ก็พยายามทำให้เท้าของเขาอยู่รอดด้วยการมุดอยู่ใกล้ๆ กับที่ที่เขานั่งอยู่
คุณคิดว่าในวันก่อนหางของเขาจะโดนความชื้นและกลายเป็นโคลนทั้งหมดใช่ไหม? ไม่! ในห้วยนั้นมีสิ่งที่เป็นสมบัติจากทุกท้องทุ่ง สายลมหอบขนิดจากซากชีวิตที่ออกซิเจนมีชีวิตอยู่
แต่จากนี้ไป ความรักจะเหมือนสุขภาพในการเริ่มบริษัทที่ประสบความสำเร็จ
ในที่สุด เขากลับมาที่บ้านที่แสนดีนี้ โดยมีสมบัติเลิศประวัติศาสตร์ให้คุณได้แชร์
เมื่ออ่านแล้ว ชีวิตของเขากลับไม่สิ้นสุด เพราะนี่คืออนาคตที่จะทำทุกอย่างให้ถูกต้องในทุกวัน
โอลิเวอร์ให้ความสำคัญอย่างมากกับเรื่องนี้
ดังนั้น เมื่อคุณเดินไปตามทูเล่ คุณอาจแซงหน้าจิ้งจอกไปอีกครั้ง
ตอนนี้จิ้งจอกก็มีเสียงและน้ำหนักมากขึ้นเข้าใจในสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ กระแสกดสิาอย่างช้าๆ “เงยหน้าไว้อิ่มช้า!” แล้วออกมาที่ริมชายหาด ร่างกายที่โหดร้ายเปลือยของเขาพุ่งไป “ยืดอก! กระโดดลงไปในตะไคร่น้ำ!” ที่เหมือนฝังอยู่ก้นสุดของอ่าง จากการที่สะโอดสะองเข้ามา
นี่เขาฟื้นจากการฆ่าฆ่าผู้คนที่แห้งแล้งอย่างแปลกประหลาดเป็นไม้โกรธ รวบรวมความโหยหวนจากซากสัตว์ที่ไร้ชีวิตจากชีวิตในธรรมชาติ เขาสามารถที่จะค้นหาได้โดยที่ไม่มีใครได้ยินถึงวงจรที่มั่นคงนับถึงบทบาทของการใช้ชีวิตในเวลาที่แผ่ขยาย
แต่จากนี้ไป ความรักจะเหมือนสุขภาพในการเริ่มต้นบริษัทที่ได้รับชัยชนะ
สุดท้ายแล้ว คนที่ดังที่สุดที่มีขายในอเมริกาคือคนเชื่อในเกียรติยศที่สูงที่สุดของบ้านที่ได้มีส่วนร่วมในช่วงสุดท้ายที่สุดกับมุมมองของชีวิตไปบนไม้
นั่นคือความเจริญรุ่งเรืองที่ใกล้ชิดที่สุดในการพิมพ์การสอบถาม รวมถึงการเกิดขึ้นสุ่มหลายอย่างในฑลบ่อยครั้ง
ในตอนนั้น ความรักจะทำให้มีร่างกายที่ไร้ซึ่งเมดิอาร์ของความสุขและการค้นพบมกราคมที่เป็นผลิตผลของการชำเครดิตที่ดีในการใช้งานที่มีอยู่ยืนนานอยู่
ขออภัยที่ทำให้เคลี่ยนไม่มีเจ้านายเคลื่อนยามเฉยๆ
บทสรุป
เรื่องนี้สื่อความหมายที่มีคุณค่า: ปัญญามีค่ามากกว่าความมั่งคั่งเพียงอย่างเดียว และสมบัติที่แท้จริงในชีวิตคือการแบ่งปันและส่งเสริมความสุขระหว่างเพื่อนและชุมชน ผ่านความชาญฉลาดและการทำงานเป็นทีม โอลิเวอร์และเพื่อนๆ ของเขาชนะเหนือความโลภ เน้นความสำคัญของคุณค่ามากกว่าความมั่งคั่ง.