ความลับของถ้ำโบราณ

ทอมมี่นักสำรวจไม่ใช่เด็กธรรมดา ความอยากรู้อยากเห็นที่ไม่มีที่สิ้นสุดของเขามักพาเขาไปสู่เส้นทางที่ไม่รู้จักและเข้าไปในป่าที่ไม่มีใครเหยียบย่ำ ในบ่ายวันหนึ่งที่แสนสบาย หลังจากมองออกไปยังเส้นขอบฟ้าจากยอดเขาที่เขาชอบ เขาเห็นสิ่งแปลกประหลาด—เป็นรูใหญ่เหมือนปาก กว้างอ้าอยู่ใต้กลุ่มต้นไม้หนา

“นั่นมันอะไรกันนะ?” เขาสงสัย “มันต้องเป็นถ้ำโบราณ”

แม้ว่าตำบลด้านล่างจะมีเรื่องราวเกี่ยวกับสถานที่นี้ แต่ไม่มีเรื่องไหนที่สามารถดับความกระหายในการค้นหาสิ่งที่แปลกใหม่ของทอมมี่ได้ มันบอกว่ามีเพียงไม่กี่คนที่กล้าไปที่นั่น และผู้ที่ไปนั้น มักจะกลับมาเป็นคนแปลกประหลาดกว่าที่เคย

“นี่แหละคือที่สำหรับฉัน!” เขาประกาศด้วยความกระตือรือร้น ไม่มีความกลัวใดๆ เข้ามาในใจ และขาของเขาก็แข็งแรงพอที่จะพาเขาไปยังที่ที่ต้นเกาลัดเก่าบิดตัวไปในทุกทิศทางเหนือรูที่อ้าอยู่ ยังโน้มตัวไปหามัน เด็กน้อยผู้กล้าหาญ!

เมื่อเขาเข้าใกล้ เขาได้ยินเสียงนกที่ร้องเพลงหวานภายใต้เงาลึกของมัน สายลมที่รำเพย และบรรดาลูกบอลของแสงแดดที่กล้าหาญก็แอบโผล่ผ่านพุ่มไม้ ไม่เคยมาก่อนที่เขาจะเห็นดอกไม้ป่ามากมายขนาดนี้ เขาเลี้ยงกิ่งไม้เพื่อมองเข้าไป ส่องและส่อง โดยไม่คิดเลยว่ามีอะไรอยู่ด้านล่าง

“ต้องมีอะไรที่ดีให้ดูแน่ๆ” เขากระซิบกับตัวเอง “ถ้าฉันมั่นใจว่าจะเข้าไปที่ขอบได้ ฉันจะลงไปที่นั่นให้ได้”

หยุดค่ะ ผู้อ่าน! คุณกล้าทำเช่นนั้นหรือ? ไม่เคยมีนักสำรวจคนไหนกระโดดเข้าไปในความไม่รู้ที่รุนแรงเช่นนี้ แต่ทอมมี่กล่าวคำอธิษฐานและโยนหมวกของเขาลงไปในรู ซึ่งทำให้เขารู้สึกกล้าหาญมากขึ้น

จากนั้นเขาค่อยๆ ลดตัวลง โดยเริ่มจากกิ่งหนึ่งไปอีกกิ่งหนึ่ง จนในที่สุดเขาก็มาถึงพื้นดินโดยไม่บาดเจ็บ

แต่เมื่อเขามองไปรอบๆ “โอ้ย! โอ้ย!” เขาร้องออกมา “ฉันหวังว่าฉันจะไม่มาเที่ยวที่นี่ ตอนนี้ฉันอยู่ห่างไกลจากที่ใด ไม่มีทั้งดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์มาช่วยส่องสว่าง อาจจะเป็นแบบที่คนอื่นรู้สึกก็ได้ ทำไมนะ นั่นมันอะไร?”

เมื่อเขาคุกเข่า เขาเห็นบันไดประเภทหนึ่งที่ถูกปกคลุมไปด้วยมอสและดอกไม้ เหมือนกับว่าธรรมชาติได้สร้างพรมที่จะให้สิ่งมีชีวิตในป่าได้เดิน

“มันอาจจะไม่ดีนัก” เขาพูดต่อตนเอง “แต่เป็นทางเดียว; ฉันกลับไปที่ที่ฉันมาไม่ได้ แต่ถ้าฉันระมัดระวังและก้าวอย่างเบาๆ ฉันอาจจะกลับไปสู่แสงแดดอีกครั้ง”

ดังนั้นเขาจึงเหยียบขึ้นบนบันได และสายตาของเขาก็ถูกสิ่งที่เปล่งประกายลึกในพื้นดินดึงดูด

“นั่นแหละคือสิ่งดีที่เรารัก!” ทอมมี่คิด “นั่นคือประเภทของปัญญาที่เราหามาที่นี่”

หัวใจของเขาเต้นรัวด้วยความยินดีต่อหินแปลกๆ ที่เขาเห็น—สีขาว แดง น้ำเงิน และเหลือง ดอกไม้ป่าหลายร้อยดอกทับถมอยู่ในมุมหนึ่งทำให้ขอบเขตกลายเป็นภาพของนางฟ้าผู้เฒ่ากำลังโปรยเลือกสรรที่สวยงามในชุดของหรูหราที่สุด

เมื่อเขามองเข้าไปใกล้ เขาคิดว่าตนเห็นมีสิ่งมีชีวิตเคลื่อนไหวอยู่ท่ามกลางก้อนหิน แต่พวกมันกลับเล็กลงเรื่อยๆ เมื่อเขาเข้าใกล้ จนกระทั่งเล็กกว่าขนนกของดอก thistle

อยู่ดีๆ ก็มีตัวหนึ่งพุ่งออกมาอย่างรวดเร็วจนหยุดอยู่ตรงหน้าเขา และเมื่อมันยกแขนเล็กๆ ขึ้นบนปีกขนาดใหญ่ที่มีสีสันสวยงาม มันอุทานว่า “เด็กน้อย ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่? เธอไม่พร้อมที่จะเข้าบ้านของเรา บ้านใต้ดิน? ระวังสิ่งที่เธอทำ มันคือรูแย่ๆ สำหรับมนุษย์” มันกล่าว “พวกเขาจะไม่มีวันกลับมาอีก”

ทอมมี่กลัวด้วยความสูงของตน และปีกของชายตัวเล็กๆ ก็สั่นไหวด้วยความปรารถนาวิ่งหนีออกไปจากโลกใบนี้ อาจจะดีที่เขาตอบด้วยคำพูดที่นุ่มนวล “ฉันไม่มีเจตนาร้าย” ทอมมี่พูด “ฉันแค่มาที่นี่เพื่อดูว่ามันเป็นยังไง”

“ถ้าเป็นเช่นนั้น” ตัวอื่นพูดต่อ “เธอสามารถกลับไปที่เดิมอย่างง่ายดายเช่นเดียวกับที่เธอลงมา เพียงแค่หันกลับไปทางที่เธอมา หรือ รอสักครู่! ฉันจะแสดงทางให้เธอ”

ทอมมี่นักสำรวจไม่มีความล่าช้า แต่เตรียมพร้อมที่จะเดินขึ้นบันไดใหม่ที่เปิดออกทางด้านข้างของบันไดที่เขาเข้าไป

เต็มไปด้วยความนุ่มนวล เสียงเพลงที่มีเสน่ห์ก็ถามเขาอยู่เสมอ “ยังไม่เข้าใจเลย ฉันแน่ใจว่าจะต้องมีใครสักคนที่นี่ ช่างเถอะ! ฉันกล้าบอกว่าพวกเขาจะมาที่นี่ในเร็วๆ นี้”

ตอนนี้ทอมมี่ทันใดนั้นได้ยินเสียงนี้พูดกับเขาจากเสียงที่เขารักมาก: “โอ้! ทอมมี่ ลูกชายของแม่ ที่พูดกับเธอ คือฉัน เพื่อนเก่า ผู้ส่งเสริมของบ้านเธอ ฉันขอให้เธอรีบออกมา สถานที่นี้ถูกทิ้งร้างอย่างสมบูรณ์ คนและสัตว์ก็ดี เมื่อพวกเขาเข้ามาที่นี่พวกเขาจะไม่กล้าที่จะแสดงตนอีก”

ทอมมี่มองไปทางขวาและทางซ้าย น้ำตาที่มีแสงทองพบเขา และตอนนี้เขาเห็นบางสิ่งที่ปรากฏขึ้นซึ่งดูเหมือนทำจากเส้นทองคำเงิน นกขับขานเหมือนลาร์กขณะที่พวกเขาบินอยู่ในอากาศ แต่ลึกลงไปปรากฏมีสิ่งมีชีวิตที่มีปีกครึ่งและร่างกายครึ่งหนึ่ง

“ทอมมี่” เสียงจากพวกเขาเรียก “ทอมมี่!”

มันคือนางฟ้าผู้ดี—ผู้ปกป้องที่ยิ่งใหญ่ของผู้กล้า ผู้ดี และผู้รัก ไม่กลัวใดๆ ทอมมี่วิ่งเข้าไปกอดเธอ แน่นอนว่าเขารู้จักเธอเป็นอย่างดี แต่เขาอยู่ในโลกที่ไม่รู้จักนานมาแล้ว ทำให้ด้านผีของเธอดูเหมือนจะหายไปจนร่างกายของเธอไม่น่าจดจำ และบางครั้งเธอก็เห็นโลกตามที่เขาเห็น

เด็กน้อยผู้ลืมๆ! เขาโอบรัดรอบเอวของเธอ และแขนที่หวานๆ รู้สึกเหมือนจริงที่สุด แต่ด้วยอุปสรรคธรรมดาหรือรั้วบางประการ มนุษย์จึงถูกดึงออกอย่างอันตราย ไม่มีสารใดๆ ที่สามารถจับคู่กับสิ่งประดิษฐ์ที่มีความสวยงามกว่าได้ในขณะใด

ถ้าสิ่งที่ไม่รู้จักด้านล่างเต็มไปด้วยความคิดและการสัมผัสหัวใจที่จะทำให้มนุษย์กลัว แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าสิ่งเหล่านั้นได้ครอบครองเด็ก!

เขาขอให้เธอให้ความโปรดปรานในการอนุญาตให้เขาได้กอดภาพลวงหลอก เขาได้รับ assure ว่าความโปรดปรานนี้มาจากสวรรค์ และไม่ต้องกลัว เขาเรียกออกไปว่า “แม่!” ไปยังภาพลวงตาที่เปล่งประกาย

“ไปเสียและอย่าแตะต้องเขา!” นางฟ้ากล่าว “ตอนนี้ที่เธอได้มารวมกับฉัน ให้เรารีบกลับไป ไม่เช่นนั้นประชาชาติจะมาและทำร้ายเธอ”

เหมือนลมร้าย漩涡 ปีกของวิญญาณแห่งความดีสาดส่องไปทั่วทั้งที่

“ตอนนี้ ทิ้งแขนไว้” เธอกล่าว กำลังยกมือของเขาขึ้นเหนือศีรษะ—“และลดลงไปที่นั่น” เธอชี้ไปทางสวรรค์ด้านล่าง “ทิ้งร่างเก่าของเธอไว้ที่นี่ แล้วออกมาเป็นของฉัน อย่าไปกลัวว่าฉันจะอยู่กับเธอตลอดไป จนกว่าเธอจะโตและแก่ขึ้น แล้วเราจะนอนที่ประตูที่มีระยะไกลและความเพลิดเพลินลึกลับของเราภายใต้สิ่งที่เล็กน้อยกว่าหมายเหตุที่จดจำนับล้านครั้ง ทุกคนจะพูดกับเธอยามเช้าและค่ำ เพราะจำนวนเด็กดีในหมู่บุตรหลานของพวกเขามีนับพันต่อหนึ่งของสิ่งดีๆ ทั้งนั้น และเราก็บอกพวกเขาไม่ว่าแต่ข่าวดีและความสนุกสนานเท่านั้น มีความคิดเดียว: ‘คำขวัญส่วนตัวของฉัน ถ้าทำได้ อย่าพูดอะไรเลย เกี่ยวกับการที่มีโซนการระบายน้ำที่ยังชีพให้อยู่ด้วยกัน สมองของเด็กนั้นเล็กมาก ด้วยการพูดคุยอย่างมาก เราจะทำให้สิ่งเล็กๆ เหล่านั้นเสียหายจากของเหลวที่ถูกฝนและดินที่ไม่ผ่านการเผาไฟของช่างปั้นดินเผาที่สวยงามเกินไป ไม่ได้มีที่ว่างมากมายเช่นนั้น” เธอกล่าว

ทอมมี่ไม่ได้พูดอะไรเพราะไม่อยากเบื่อในการอธิบายปรัชญา และเหมือนที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ มันแปลกที่เปลี่ยนไป ได้กลิ่นอ่อนๆ เมื่อตอนเขากลับขึ้นไปยังพื้นเก่า ไม่มีใครอยู่บ้านอีกต่อไป นกไม่ร้องเสียงอีกแล้ว ต้นไม้ก็รู้สึกเศร้า; หินยังคงอยู่ แต่ไม่มีดอกไม้อีกต่อไป พระอาทิตย์ยามเย็นที่ส่องลงมายังพวกเขานั้นทำให้หิมะขาวไหลออกไปอย่างนุ่มนวล ไล่ตามกันไปทีละตัวอย่างต้องตามช่วงเวลาและศักดิ์ศรีที่แยกจากกันของครอบครัวที่ขึ้นไปร่วมกันในเสียงหัวเราะเหนือบทเพลงศักดิ์สิทธิ์ “ดูพวกเขาแทงฉันสิ” กล่าวตามคำของพระ

“และฉันก็เห็นหินด้วย” ทอมมี่กล่าว “แต่ฉันไม่ต้องการพูดถึงมันถ้าคุณอนุญาต”

ไม่มีใครอยู่บ้าน ทอมมี่ถอดรองเท้าของเขา แต่กลับไปในก้าวห้าฝรั่งเศส และใส่ลงไปในต้นไม้ข้างๆ ไม่มีความหมายใดที่จะให้กับต้นไม้ “จิตวิญญาณของเวลานี้จริงๆ สำหรับแมว และทอมมี่ออกจากที่นั่นแข้งขาดสำหรับการทำให้เขาเป็นสนุกและการสนทนาอย่างสนุกสนาน

ในคืนหนึ่งในความฝัน แม้แต่คนดีๆ ก็ไม่รู้ถึงสิ่งที่คุณทำ บอกเขาเสียงที่เปล่งออกมาลึกๆ ถึงความรู้มากมายที่คนแก่โบราณไม่รู้ และการวาดภาพทั้งหมดก็นำไปสู่การสิ้นสุดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเคารพสูง ไม่จำเป็นต้องอธิบายเพราะน้ำตาที่มองเห็นทำให้ตัวเองขึ้นไปบนขอบของโลกลึกและข้อกำหนดของแม่ ผู้เป็นนางฟ้าคุณดี นำทุกอย่างไปสู่ทุ่งหญ้าสีเขียวและที่ที่ไม่มีคนเหลือระยะทางยาวบนมหาสมุทร ไปในทิศทางที่มีความไม่ชัดเจนหลัก

การคิดพาผู้ผู้ชื่นชมไปไป มันสูงกว่าอีก ทั้งๆ ที่เป็นเอเจนซี่ของบุคคลมากมายที่มานั่งอยู่ในใจกว้าง—และยังมีเกาษรที่นำเข้ารวบเข้ามาเพื่อให้ชัดเจนเมื่อสื่อนี้มาเยือน การ์ตูนท่อจะสั่นสะเทือนเหนือการควบคุม

ใช่! และมันเป็นแบบนี้จนกระทั่งวันที่ถูกฉีกขาดด้วยความกระหาย ทอมมี่ตื่นขึ้นมา มองไปรอบๆ ทำอะไรไม่ได้ วางอยู่เฉยๆ “มันสนุกดีเลย” “อา!” กล่าวโดยโมนา แต่เมื่อทอมมี่รู้สึกเหนื่อยหน่อย เขาจึงไปโดยไม่ให้ความคิดเพิ่มเติมเพื่อทำให้การรับรู้ของเราเชื่อมโยงกันไปสู่ความเต็มใจ ขณะที่ธรรมชาติเองมักจะปรากฏให้เห็นในโลกแห่งจิตวิญญาณ

โอ้! โชคร้ายสำหรับผู้ที่สร้างรูปปั้นบนโลก! เธอมักจะต่อสู้กับพวกเขาไม่ว่าจะมีการทรยศต่อกันอย่างไร “บิ๊กเกิล! คุณมองเห็นชายคนนั้นไหม? ดูว่าโค้งนั้นอยู่ฝั่งตรงข้ามสู่อพยพของความอยากรู้อยากเห็นและขมึงอยู่ในความตะลึงอยู่ที่หนึ่งในความคบค้าขาย มันจะไม่เกลียดคุณเลย แต่บ้านของคุณก็จะเข้าข่ายความงามที่แตกแยกออก และหาญกล้าบอกเราว่าเราใช้ชีวิตอย่างไรด้วยขาเดินซ้ายที่ล็อคไฟติดไฟนั้น หยุดๆ!”

ทอมมี่! ฉันเห็นเอฟที่รักการเสกสรรค์ เชื่อฉันเถอะว่าฉันควรจะพูดซ้ำๆ ว่าเสมอ

English 中文简体 中文繁體 Français Italiano 日本語 한국인 Polski Русский แบบไทย