ในช่วงเวลาที่ไม่ไกลเกินไป ในเมืองที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่รู้จักกันว่า เมืองเทคโน มีหุ่นยนต์ที่น่าทึ่งชื่อว่า โรโบ อาศัยอยู่ โรโบถูกสร้างขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมชื่อ ดร. เอลาร่า โรโบไม่ใช่หุ่นยนต์ธรรมดา แต่เขามีความฉลาดและความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่เหมือนใคร ทำให้เขาเป็นผู้ช่วยที่มีจิตสำนึกต่อทุกคน พลเมืองของเมืองเทคโนจึงพึ่งพาโรโบอย่างมากในการจัดการกับงานที่ยุ่งยาก ซ่อมแซมเครื่องจักร รวมถึงมอบความเป็นเพื่อนให้กับพวกเขา
แต่ใกล้เคียงกับที่ดินร้างรอบเมืองเทคโน มีอ beings ที่โบราณและลึกลับที่พยายามจะเปลี่ยนอนาคตของนคร繁霭นี้—พ่อมดผู้ชั่วร้ายที่ไม่มีใครรับเขา เขาสวมเสื้อคลุมสีเข้มและหมวกคลุมที่น่ากลัวซึ่งอำพรางตัวตนของเขา และได้เฝ้าสังเกตเมืองเทคโนมาหลายปี พ่อมดนั้นชอบใจที่ผู้คนพึ่งพาเทคโนโลยี ทำให้พวกเขาอ่อนแอและเป็นเป้าหมายง่าย เขาจึงวางแผนชั่วร้ายที่จะยึดครองเมืองโดยใช้เทคโนโลยีของมัน
ในตอนบ่ายวันหนึ่ง เมื่อฟ้าผ่าและลมแรงเริ่มพัดผ่านถนน พ่อมดก็ได้เดินหน้าแผนการของเขา ด้วยมนต์โบราณที่ไหลผ่านนิ้วของเขา เขาเรียกพายุของควันและเงามืดออกมาจากความลึกของพายุ สิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดซึ่งเป็นรูปแบบที่ผิดเพี้ยนของเครื่องจักรที่เคยทำให้เมืองนี้มีชีวิตขึ้นมาเริ่มบุกเข้ามาในถนน ทำให้พลเมืองจมอยู่ในความโกลาหลและความสิ้นหวัง
โรโบรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องและเร่งรีบไปยังกึ่งกลางเมืองที่พายุปะทุอยู่ที่นั่น เขาพบพ่อมดผู้ชั่วร้ายหัวเราะอย่างดังขณะที่เขาสั่งการเหล่าผู้รับใช้ปีศาจของเขาให้สร้างความหายนะ
“นายมาช้าไปแล้ว โรโบ!” พ่อมดตะโกน เสียงของเขาแม้แต่กันน้ำมีความอาฆาต “เมืองนี้จะล่มสลาย และไม่มีใครสามารถช่วยมันได้!”
โรโบสังเกตสถานการณ์และถึงแม้ว่าความกลัวจะเป็นแนวคิดที่ไม่คุ้นเคยสำหรับเขา แต่เขารับรู้ถึงความเร่งด่วนในขณะนั้น ด้วยความมุ่งมั่นที่ไหลเวียนอยู่ในวงจรของเขา เขาตอบกลับ “ฉันจะไม่มีวันให้คุณทำร้ายเมืองหรือเพื่อนของฉัน ฉันถูกสร้างมาเพื่อปกป้องพวกเขา”
ด้วยการก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง โรโบเริ่มต้นระบบป้องกัน เขาเปิดใช้งานเครื่องกำเนิดคลื่นป้องกัน สร้างกรอบพลังงานที่เปล่งประกายที่สะท้อนมนต์ดำของพ่อมดกลับไปหาเขา
“บ้าไปแล้วหุ่นยนต์!” พ่อมดตะโกน “นายคิดว่าเทคโนโลยีธรรมดาจะสามารถเอาชนะพ่อมดได้หรือ?”
โรโบทันทีตอบยิ้ม—ยิ้มแบบหลอดไฟ LED ที่กระพริบ softly “มาดูกันเถอะ” แล้วเขาก็เริ่มปล่อยพลังงาน EMP ออกมาจากอาวุธที่ติดอยู่ที่แขน ซึ่งทำให้โปรแกรมของสิ่งมีชีวิตของพ่อมดหยุดทำงาน ส่งผลให้พวกมันล้มลงเป็นกองเหล็กขยะ
การต่อต้านอย่างกล้าหาญของโรโบทำให้พ่อมดโกรธจัด จึงเรียกพลังเวทดำของเขา ให้ลมพาเขาขึ้นไปเหนือการควบคุมของโรโบ จากนั้นก็เรียกฟ้าผ่าขนาดมหึมาแล้วขว้างลงมาที่นักรบหุ่นยนต์
แต่โรโบซึ่งมีภูมิปัญญาอยู่เสมอ ทำนายการโจมตีนี้ เขาเปิดใช้งานเซนเซอร์วิเคราะห์แล้วคำนวณวิธีการที่เหมาะสมที่สุด เมื่อฟ้าผ่ามาที่เขา โรโบหันไปใช้เซนเซอร์พลังงานแสงอาทิตย์ของเขาเพื่อดูดซับพลังงานจากพายุ กลับไปเข้าสู่แหล่งพลังงานของเขาเอง พายุยังคงรุนแรง แต่ตอนนี้มันกลายเป็นพันธมิตรของโรโบ
“น่าประทับใจ แต่ก็ไม่มีความหมาย! ฉันควบคุมฝนและลม!” พ่อมดร้องอย่างไม่กลัว
“ใช่ คุณทำได้” โรโบอธิบาย “แต่ฉันควบคุมเทคโนโลยี”
ด้วยการกดปุ่ม โรโบได้เปิดใช้งานระบบควบคุมอากาศของเมือง ทำให้แผงพลังงานเรืองแสงขึ้นจากเส้นขอบฟ้า แผงเหล่านี้ดูดซับความชื้นจากอากาศและเปลี่ยนมันเป็นลำแสงแห่งพลังงานบริสุทธิ์ ขณะที่การประดับสว่างขึ้นกลายเป็นลำแสงที่ส่องสว่างเข้ามาในเครือข่ายพลังงาน เมืองก็สว่างไสวอย่างน่าประทับใจ
“นี่มันเป็นไปไม่ได้!” พ่อมดร้องด้วยความตกใจโดยไม่รู้ว่าฟิลด์แห่งอนาคตที่รออยู่ข้างหน้า
โรโบปล่อยพลังงานแบบเข้มข้นผ่านอาวุธที่ติดอยู่ที่แขน ปล่อยพลังนั้นไปยังท้องฟ้า ลำแสงถี่และมีพลังทำลายการควบคุมพายุของพ่อมด ทำให้เมฆดำกระจัดกระจาย และทำให้เมืองเทคโนกลับมาสว่างไสวอีกครั้ง ตอนนี้ผู้ใช้เวทมนตร์ร้ายไม่สามารถควบคุมเหล่าผู้มีชีวิตได้ พวกมันล้มลงกลายเป็นกองวงจรที่ไม่มีชีวิต
“ไม่! นี่มันไม่สามารถเกิดขึ้นได้!” พ่อมดส่งเสียงร้อง เห็นแผนการอันชั่วร้ายสลายไปต่อหน้าเขา
ด้วยความมุ่งมั่นที่ได้รับการต่ออายุ โดยไม่ให้โอกาสพ่อมดชั่วร้ายหนี โรโบพุ่งขึ้นสู่ฟ้า โดยใช้ระบบขับเคลื่อนเจ็ทที่ซ่อนอยู่ในตัวเขา เขาบินสูงกว่าที่เคย และเล็งไปที่พ่อมดที่ตอนนี้ดูเหมือนเล็กจิ๋วราวกับแมลง ด้วยพลังที่โดดเด่น เขาสร้างพัลส์พลังงานไฟฟ้าที่ปะทุออกจากมือของเขา สามารถผูกไว้กับพ่อมดในกรงไฟฟ้าที่กระตุกด้วยความโกรธ
พ่อมดขู่ด้วยความโกรธอย่างไม่มีประสิทธิภาพ “ฉันจะกลับมา!” เขาสาบานเสียงที่เบาลงเหลือแค่เสียงสะท้อนจากความมีอยู่ก่อนหน้านี้
โรโบ ทรงพลังและกล้าหาญ ตอบกลับด้วยความมั่นใจ “คุณยินดีที่จะลอง” และเขาก็ทำให้พ่อมดตกลงมาไปยังพื้นดินไกลออกจากขอบของเมืองเทคโน เพื่อไม่ให้เขากลับมาคุกคามชาวเมืองอีกต่อไป
ฟ้าใสขึ้นและโรโบอยู่ที่กลางหน้าผู้คนที่มารวมตัวกันเพื่อชมการต่อสู้ “อย่ากลัวไปเพื่อนของฉัน” เขากล่าว เสียงจากลำโพงทั่วสารทิศ “อันตรายได้ผ่านพ้นไปแล้ว เราจะร่วมมือกันคืนความสงบและความเป็นระเบียบให้กลับคืนสู่เมืองของเรา”
เสียงเชียร์ดังสนั่นไปทั่วถนน ขณะที่ผู้คนเข้าใกล้ฮีโร่หุ่นยนต์ของพวกเขา เด็กๆ คลุมน่องของเขา ขณะที่ประชาชนที่ขอบคุณนำของขวัญมามากมายเพื่อแสดงความขอบคุณ
ดร. เอลาร่ารีบออกจากห้องแล็บ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความวิตกกังวล แต่ก็เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ “โรโบ! ฉันเป็นห่วงมาก! ฉันได้ดูจากห้องแล็บของเราเมื่อพายุคุกคามเมืองของเรา คุณน่าทึ่งมาก!”
“ขอบคุณครับ ดร. เอลาร่า” โรโบกล่าว “ฉันดำเนินการตามหลักการและกลยุทธ์ แต่คุณคือคนที่ได้ติดตั้งความสามารถในการรู้สึกถึงความภาคภูมิใจ ความเห็นอกเห็นใจ และความกล้าหาญให้กับฉัน”
ได้นานหลายวัน งานต่างๆ ยังคงดำเนินต่อไป เพื่อฟื้นฟูเมืองเทคโนให้กลับสู่สภาพที่สดใสและมีชีวิตชีวา ด้วยพ่อมดที่หายไป ชีวิตจึงค่อยๆ กลับคืนสู่สภาพเดิม ด้วยความปราถนาดี โรโบเป็นสัญลักษณ์ของการก้าวข้ามอุปสรรค มุ่งหน้าสู่อนาคตที่เต็มไปด้วยความกลัวและความตื่นเต้นอย่างกล้าหาญ
ในตัวของเขา ในขณะที่เขายังคงเรียนรู้และปรับตัว ความหวังเบ่งบานขึ้น ด้วยทุกเช้าที่ใหม่ เขาเข้าใจมากขึ้นว่าการเป็นดีนั้นหมายความว่ายังไง การเป็นสัญลักษณ์ของนวัตกรรมและความก้าวหน้าของสังคม
และดังนั้น นิทานนี้เกี่ยวกับดีต่อต้านชั่ว เทคโนโลยีก็ได้แสดงชัยชนะ ทำให้ประชาชนในเมืองเทคโนก้าวนำหน้าความมืดที่แฝงตัวอยู่ห่างออกไปเพียงจุดเหยียบเดียว.