ในหมู่บ้านเล็กๆ ที่ล้อมรอบด้วยภูเขาที่สูงและทุ่งนาอันสดใส มีศิลปินที่มีความหลงใหลชื่อว่า อัลลี่ ทุกสุดสัปดาห์ เธอมักจะเอาชนะความหนาวและออกไปวาดภาพในจัตุรัสเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ใจกลางหมู่บ้าน เธอหลงรักสถานที่นี้ ที่ซึ่งผนังของบ้านหินเก่าดูเหมือนเป็นผืนผ้าใบว่างเปล่าที่รอการจรดแปรงของเธอ
เช้าวันเสาร์ที่หนาวเหน็บ ในขณะที่ห่อหุ้มตัวเองให้อบอุ่นในเสื้อโค้ตฤดูหนาว อัลลี่ยืนอยู่ перед ผนังสีเท้าใหญ่ที่คาดหวังดูดสีที่ชุ่มชื่น “ฉันอยากวาดสิ่งที่เฉลิมฉลองมิตรภาพ” เธอถอนหายใจเบาๆ ราวกับพูดกับตัวเองขณะมองไปที่กระป๋องสี “แต่ทำไมวันนี้สีถึงไม่พูดกับฉันเลย” ลมเย็นพัดกรดที่นิ้วมือของเธอในขณะที่เธอถือแปรงอยู่เหนือผนัง “ฉันอยู่ที่นี่คนเดียว” เธอกล่าวด้วยความรู้สึกไม่เต็มใจ “มันมีประโยชน์อะไร?”
โชคดีที่เพื่อนของอัลลี่ คือ เอเวอร์กรีนและลูนา กำลังเดินทางมาหาเธอ เอเวอร์กรีน ผู้มีพลังไม่รู้จักหมดสิ้นและมีผมสีเขียวสดใส วิ่งเข้ามาหาเธอ ในขณะที่ลูนาเดินเข้ามาข้างๆ อย่างสง่างาม ผิวของเธอมีลักษณะคล้ายผ้าคลุมที่มีแพทเทิร์นสีฟ้าลึกที่ทำให้ระลึกถึงท้องฟ้าที่เงียบสงบในคืนฉ่ำ หลังจากนั้น เธอมักดูเปล่งประกาย เหมือนกับเป็นสิ่งมีชีวิตจากความฝัน
“เกิดอะไรขึ้น?” เอเวอร์กรีนถามเมื่อพวกเขาถึงเธอ
“ถ้าฉันจะคิดสิ่งสวยงามที่จะวาดได้บ้าง” อัลลี่ตอบด้วยความไม่พอใจ “แต่มองดูสภาพอย่างนี้มันเทาและไม่มีชีวิตชีวาเลย”
“จะดีไหมถ้าวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังที่เล่าเรื่องราวของมิตรภาพของเรา?” เอเวอร์กรีนเสนอ “เมื่อเธอมองไปที่มัน เธอจะจำได้ถึงความซื่อสัตย์และจริงใจของความสัมพันธ์ของเรา และทุกคนที่เดินผ่านไปก็จะเห็นมันด้วย!”
“เยี่ยมมาก! แต่เราจะวาดอะไรดี?” อัลลี่ถามอย่างตื่นเต้น
เพื่อนทั้งสามยืนมองไปที่ผนังเย็นที่ว่างเปล่า จากนั้น เอเวอร์กรีนได้ร้องออกมา “ฉันสามารถวาดสิ่งที่มีสีเขียวมากมายที่กำลังเติบโต และนั่นจะเป็นตัวแทนของความหวังและชีวิตใหม่!”
“ฉันจะวาดอาณาจักรสีฟ้าลึกแห่งคืนและดาวที่มันอาบไว้ แม้ว่าอยากจะให้ดูเหมือนถูกซ่อนด้วยแสงสว่างจากกลางวัน” ลูนากล่าวอย่างฝันลอย “ดวงดาวเหล่านั้นจะเล่นและเต้นรำไปด้วยกัน”
“ขอบคุณทั้งคู่ ฉันไม่สามารถลืมแนวคิดของพวกคุณได้เลย!” อัลลี่กล่าวด้วยความสดใส “แต่สิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกที่สุดก็คือมิตรภาพของเรา ไม่ใช่สิ่งนี้ก็ควรเป็นส่วนหนึ่งของภาพจิตรกรรมของเราหรือ?”
ดังนั้น เพื่อนทั้งสามจึงหาวิธีแสดงถึงความสัมพันธ์อันเป็นแรงบันดาลใจของพวกเขา พวกเขาวาดนิ้วยาวๆ ที่เล่นสนุกยิ้มถึงกันบนผนัง ในขณะที่เอเวอร์กรีนเติมสีเขียวที่น่ารื่นรมย์ และลูนาเติมสีน้ำเงินที่มืดมิดซึ่งโรยด้วยดาวเล็กๆ หลายล้านดวงในการเต้นรำตลอดกาล
เมื่อชาวบ้านเดินออกจากบ้านของพวกเขา ความประหลาดใจและความมหัศจรรย์ผสานกันทำให้ช่วงเช้าของพวกเขาหยุดหมดสิ้น
“ภาพใหม่ที่ยอดเยี่ยม!” พวกเขาตะโกนด้วยรอยยิ้ม “มันบอกเล่าเรื่องราวความซื่อสัตย์และความกลมเกลียวที่แบ่งปันในหมู่บ้านนี้ได้อย่างงดงาม”
ภาพจิตรกรรมของอัลลี่ได้ถูกตั้งไว้ในที่ที่ได้รับเกียรติในจัตุรัส ซึ่งอยู่ที่นั่นมาตลอดหลายปี เป็นความทรงจำที่คงอยู่เกี่ยวกับความหมายของมิตรภาพ