ในปราสาทเก่าที่ถูกลืมซึ่งปกคลุมไปด้วยเสียงกระซิบของลม มีห้องหนึ่งที่ถูกล็อคแน่นหนามานาน เป็นคืนที่เต็มไปด้วยความลึกลับเมื่อโซฟี นักดนตรีที่มีความหลงใหล ตัดสินใจสำรวจทางเดินที่น่าหวาดหวั่นของปราสาท ความคิดเกี่ยวกับทำนองที่ถูกลืมเต้นในใจของเธอเมื่อเธอเดินไปเสาะหารูปแบบใหม่ เธอรู้ว่ามันคือโชคชะตาที่สมบูรณ์แบบสำหรับผลงานที่ยังไม่มีอยู่จริง
ภายใต้แสงจันทร์อ่อนๆ เธอสังเกตเห็นรูล็อคที่มีฝุ่นจับอยู่ ซึ่งซ่อนอยู่ในกรอบประตูที่แกะสลักอย่างประณีต ความสงสัยเกิดขึ้นในใจเธอ; อะไรบ้างที่ประตูนั้นซ่อนอยู่? เมื่อเธอเบาๆ ใส่กุญแจเก่าที่เธอได้พบไว้ เธอรู้สึกว่าล็อกเปิดออก ประตูดังเอี๊ยดอ๊าดอย่างน่ากลัว, และเมื่อเธอผลักมัน เปิดออก ฟุ้งฝุ่นสีขาวก็พัดเข้ามาในทางเดินที่มีแสงจันทร์ส่องสว่าง ฝุ่นละอองเต้นระบำในอากาศ และโซฟีก็ห้ามจาม แต่หัวใจของเธอเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นและความหวาดกลัว
ภายในห้องมีเปียโนขนาดใหญ่ที่ท่วมไปด้วยใยแมงมุมเหมือนกับลูกไม้ที่ละเอียดอ่อน และมันก็สวยงามอย่างหลอนๆ แต่สิ่งที่ดึงดูดสายตาของเธอคือจุดศูนย์กลางของห้อง: กล่องดนตรีที่มีเสน่ห์ ตกแต่งด้วยนักเต้นจิ๋วที่หยุดอยู่ในช่วงเวลา โซฟีรู้สึกถึงการเชื่อมโยงที่แปลกประหลาดกับกล่องนี้ และรู้ว่าเธอต้องเล่นมัน
เมื่อเธอเปิดฝา กลับมีความเย็นยะเยือกไหลเข้าสู่สันหลังของเธอ—เสียงหัวเราะที่เยือกเย็นดังก้องอยู่ในอากาศ และกล่องเริ่มเล่นทำนองที่ไพเราะแต่ก็น่าหวาดหวั่น ในขณะนั้นบรรยากาศก็เปลี่ยนไป เงาเริ่มดีดตัวอยู่บนผนัง และลมเย็นๆ กระซิบความลับที่ถูกลืมไปนาน โซฟีหันไปมองรอบๆ หัวใจของเธอเต้นแรง
“ใครอยู่ที่นั่น?” เธอเรียกออกไป เสียงของเธอสั่นไหว หัวใจของเธอเต้นเร็วเมื่อเธอเผชิญกับความมืด พร้อมที่จะหนีไป
“ใจเย็นๆ เด็กน้อย…” เสียงนุ่มนวลลอยเข้ามาหาเธอ ดูเหมือนมาจากอากาศรอบตัวเอง ภายใต้ความหลงใหลแต่ก็เกรงกลัว เธอเหลือบมองไปที่กล่องดนตรีที่เปิดอยู่ โดยที่ถึงกับตกตะลึงเมื่อมีรูปร่างเริ่มปรากฏ—วิญญาณของเด็กสาวคนหนึ่งที่ถูกขังอยู่ในเวทมนตร์มืด
“เธอได้ปลดปล่อยฉันด้วยความอยากรู้อยากเห็นของเธอ, โซฟีที่รัก ฉันชื่อไลล่า เมื่อก่อนนี้ กล่องดนตรีนี้ถูกคำสาป ทำให้ฉันต้องติดอยู่ในนั้นตลอดไป ไม่มีใครกล้าเล่นมันเพราะความกลัว แต่ตอนนี้, เธอ… เธอได้ปลุกฉันขึ้นมา”
โซฟี แม้จะสั่นสะท้าน แต่รวบรวมความกล้าหาญ “ทำไมใครถึงต้องวางคำสาปเช่นนี้?”
รอยยิ้มเศร้าของไลล่าจางหายไป “พวกเขากลัวความสุขของฉัน ทุกโน้ตจากกล่องนี้สามารถขจัดความมืดได้ แต่ยังก่อให้เกิดความปรารถนาของหัวใจ และพวกเขาก็กลัวว่าความจริงนั้นจะนำมาซึ่งอะไรบ้าง ตอนนี้ ความมืดกำลังเข้าครอบงำปราสาทนี้และถ้าเธอไม่เล่นทำนองที่ถูกต้อง ฉันจะต้องเป็นเพียงความทรงจำเท่านั้น”
โซฟีพยักหน้า ความมุ่งมั่นและความสงสัยหลากหลายอยู่ในใจเธอ “ฉันต้องทำอย่างไร?”
เธอนึกถึงบทเรียนจากผู้สอนของเธอ ว่าผลงานชิ้นเอกทุกชิ้นเริ่มต้นการเดินทาง เปิดเผยอารมณ์และเรื่องราวไปตลอดทาง แม้ว่าเธอจะเล่นเปียโนให้คนอื่นฟังอยู่เสมอ แต่ครั้งนี้รู้สึกแตกต่าง กดนิ้วของเธอบนคีย์ เธอปล่อยให้หัวใจของเธอเล่าขาน
ทันใดนั้น เงาเริ่มตรึงตัว รเหมือนไหวแปลกประหลาดเหมือนพยายามกลืนกินแสงสว่าง เธอเล่นต่อไป เรียกเอาความรู้สึกที่อยู่ลึกที่สุดในใจ ความทรงจำเกี่ยวกับความรัก การสูญเสีย และความสุขส่องลอดผ่านนิ้วของเธอ จิตวิญญาณของเธอปรากฏในความกลมกลืนที่เหนือจริง
เงาต้านกลับด้วยเสียงหวีดร้องที่แก้แค้น แต่พลังของดนตรีกลับเข้มแข็งยิ่งขึ้น วิญญาณของไลล่าหมุนวนอย่างมีความสุข ตอบรับความกล้าหาญของโซฟี และแสงจันทร์แผ่สัญญาณผ่านความยุ่งเหยิงนั้นและห่อหุ้มไลล่า ด้วยโน้ตสุดท้ายที่ชัยชนะ เงาก็แตกสลาย สลายไปสู่อดีต
กล่องดนตรีที่เคยหลอนเริ่มส่องสว่างนุ่มนวล และความเงียบสงัดก็ปกคลุม โซฟี แม้ว่าจะเหนื่อยแต่รู้สึกชัยชนะ มองไปรอบๆ ห้อง—มันเปลี่ยนไปแล้ว ชูแบร์ต, บราห์มส์, และเบโธเฟนสะท้อนอยู่ในสีสันที่หมุนวน เครื่องดนตรีทุกชนิดกระจายอยู่บนพื้น และอากาศเต็มไปด้วยความเป็นไปได้
“เธอทำได้แล้ว โซฟีที่รัก!” ไลล่าตะโกนด้วยความสุขที่หลั่งไหลออกจากวิญญาณของเธอ “เธอได้ทำลายคำสาปอย่างถาวรแล้ว ไม่เพียงแต่สำหรับฉัน แต่สำหรับกล่องดนตรีนี้ด้วย!”
โซฟี ยังหายใจไม่ทัน รู้สึกถึงความรู้สึกสำเร็จอย่างลึกซึ้ง “แล้วเธอจะทำอย่างไรต่อไป?”
“ฉันfinally สามารถออกจากโลกนี้ด้วยความสงบ ดนตรีจะเชื่อมโยงจิตวิญญาณของเราเสมอ เด็กน้อย เธอถืออำนาจ เครื่องมือแห่งความจริง ที่ดนตรีสามารถข้ามผ่านอุปสรรคที่ยากที่สุดได้” ด้วยคำพูดสุดท้ายเหล่านั้น วิญญาณของไลล่าหายไปในสายน้ำของแสงทองที่ระยิบระยับ ก่อตัวเป็นพื้นผิวเหนือห้องที่มีชีวิตชีวา
เตรียมพร้อม โซฟีตัดสินใจที่จะอยู่ในปราสาท ซึ่งตอนนี้สั่นสะเทือนด้วยพลังกระฉับกระเฉง เธอได้เปลี่ยนมันให้เป็นที่หลบภัยสำหรับผู้ที่รักดนตรีและนักดนตรีผู้พยายาม ทุกคืน เธอเล่นใตแสงจันทร์ และจัดงานที่ทำนองไหลออกมาเหมือนแม่น้ำ
ปีต่อมา มันกลายเป็นตำนาน—การเยี่ยมชมปราสาทเก่าในคืนที่มีแสงจันทร์ก่อให้เกิดมนตร์สะกดสำหรับผู้ที่เชื่อ พวกเขาบอกไว้ว่าใครที่เข้าไปอาจได้ยินเสียงหัวเราะของเด็กๆ และเสียงดนตรีที่ละเอียดอ่อนราวกับว่าไลล่าเองกำลังเต้นด้วยความสุข แต่คนที่เข้าไปหาความมีชื่อเสียงหรือโชคลาภกลับพบเพียงความเงียบสงัด เพราะมันต้องการความเชื่อในมนตร์ของดนตรี เพื่อเปิดเผยสิ่งมหัศจรรย์ที่ซ่อนอยู่
และเช่นนี้ เรื่องราวของโซฟีจึงมีชีวิตยืนยาว เป็นนิทานที่เกี่ยวกับความเชื่อ ความกล้าหาญ และมนตร์แห่งดนตรีที่ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มืดมนใดสามารถทำลายความหวังที่มันนำมา,使得ทำนองที่เหนือจริงนั้นจะดังก้องไปตลอดกาล