ยูนิคอร์นในคืนจันทร์

มันเป็นคืนที่แตกต่างจากคืนอื่นในทุ่งสตาร์ไลท์ อากาศชุ่มไปด้วยสัญญาณของเวทมนตร์ ฉันเดินไปในทุ่งหญ้าที่เขียวขจี สว่างสไวด้วยแสงนวลของจันทร์ ฉันคือ ลูน่า ยูนิคอร์นตัวน้อย และเหมือนกับดาวบนฟ้า ฉันก็กำลังหวังที่จะได้เปล่งประกายในบางวิธี ถึงแม้ว่าตอนนี้ฉันจะรู้สึกหม่นหมองและหลงทาง

โลกที่ล้อมรอบฉันเต็มไปด้วยชีวิตชีวาและความกระตือรือร้น แต่ฉันกลับรู้สึกถึงความว่างเปล่าที่กัดกินหัวใจของฉัน สัตว์มหัศจรรย์ทักทายกันไปมา ปล่อยแสงเปล่งประกายในสีสันต่างๆ — สัญญาณของความหวังที่ว่ามีที่ที่ฉันสอดคล้อง “อะไรคือสิ่งที่อยู่บนรายการความปรารถนาตลอดคืนแบบนี้?” ฉันคิดในใจ บางครั้งก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นกวี “การเดินทางใต้แสงจันทร์ เพื่อน หรืออาจเป็นความฝัน?”

“เพียงแค่เพื่อนคนเดียว นั่นคือสิ่งที่ฉันปรารถนา!” ฉันเกือบจะหยุดเดิน ก่อนจะสะดุดกับกลุ่มของสิ่งมีชีวิตขนฟูเล็กๆ พวกมันกำลังขดตัวและกอดกันเหมือนลูกบาศก์สีเทาอบอุ่น ชวนให้ฉันดึงความคิดกลับ ฉันเอนตัวลงต่ำเพื่อตรวจสอบสิ่งที่ฉันเกือบจะเหยียบมันไป หนึ่งในสิ่งมีชีวิตนั้นขยับตัว สบตากับฉันด้วยตาที่กลมเล็กๆ สิบดวง!

“ฉันขอโทษมาก สนใจเรียกคุณว่าอะไร?” ฉันกล่าวด้วยเสียงที่อ่อนโยน

“พวกเราเป็นกริมมินจากเขตตะวันตก เราเปลี่ยนที่เพื่อให้ตัวอบอุ่นและเป็นความลับ คุณอยากเข้าร่วมกับเราหรือไม่?” พวกเขาตอบเสียงที่เบา ชวนให้รู้สึกดีที่ได้พูดคุยกับใครสักคน

“อืม ฉันคิดว่ามันใจดีของคุณ แต่ฉันต้องตื่นให้ตลอดค่ำคืนนี้เพื่อตามหาเพื่อนของฉัน คุณช่วยบอกฉันได้ไหมว่าฉันควรมองหาเธอที่ไหน? ฉันค้นหาทั่วไปและตอนนี้รู้สึกท่วมท้นและไม่มั่นใจ ฉันรู้สึกหายไป” ฉันพูดลื่นไหล ขณะที่พวกเขากระตุ้นให้ฉันพูดความในใจ

“ทำไมเราไม่ไปหา ‘เพื่อน’ ของคุณกันล่ะ?” หนึ่งในกริมมินกล่าว

“ฉันจะดีใจที่คุณมาด้วย คุณอาจช่วยฉันห้าเธอได้ เธอชอบหัวเราะและเต้นรำในแสง ฉันมั่นใจว่าเธอไม่ขัดข้องที่จะมีคุณอยู่ข้างๆ แต่ระวัง เธออาจจะเข้ามาใกล้” ฉันพูด พร้อมกับมองไปที่ดวงตาคู่น้อยที่อยากรู้อยากเห็นหลายคู่ที่จ้องมองแอบมาจากลูกกลมขนปุยของพวกเขา

“เธอคือใคร เพื่อนของคุณ?” พวกเขาถาม

“แน่นอนว่าคือจันทร์!” ฉันตอบขณะที่จัดทรงผมของฉันให้เรียบร้อย ภูมิใจที่มีเพื่อนที่สว่างไสวและงดงาม “เห็นไหมคืนนี้เป็นคืนแรกที่ฉันรู้สึกโดดเดี่ยวจริงๆ”

ฉันหันไปอีกครั้งเพื่อจ้องมองดวงจันทร์ที่โผล่ขึ้นมาจากเขตของต้นไม้ไร้หน้าและลงตามลูกเขาไกลๆ ใบหน้าเจิดจ้าของเธอส่องสว่างอย่างภาคภูมิใจ ชั่วครู่หนึ่ง ฉันนึกว่าฉันไม่เคยเห็นเธอสวยขนาดนี้ ดังนั้นฉันจึงตะโกนออกไป:

“มาเร็ว! ทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้ว! เต้นบนหญ้าเต็มไปด้วยน้ำค้าง! เร็ว!”

ทันทีที่ฉันพูด เสียงกริมมินกางแขนออกและกระโดดจากที่นั่ง รู้สึกได้ว่าหมายถึงสัตว์เล็กที่ดูน่าสงสารพวกนี้กลับมีความงามประหลาด ทำหัวใจฉันตื่นเต้นขณะแสดงการเต้น Hornpipe ที่ทำให้ฉันประทับใจ

ง่ายๆ อย่างที่พวกเขาเป็น ฉันยังไม่เคยเห็นสิ่งที่ทำให้สดชื่นอย่างนี้มาก่อน และเสียงที่ลึกลงไปเนิบช้า หาพวกเขาประสานกัน เหมือนกับเพลงมนต์ที่หวานไพเราะ

“คุณมีอิทธิพลต่อจันทร์ยังไง เพื่อนน้อยของฉัน?” ฉันถามเมื่อการเต้นของพวกเขาสิ้นสุดลง

“มีหลายคืนที่มีแสงจันทร์ ไม่ใช่ด้วยน้ำค้างหรือความมืดมิด แต่เธอจะมอบเพลงให้เราด้วยความกล้าหาญ หลายครั้งในคืน” หนึ่งในนั้นอธิบาย

“เธอไม่มอบเพลงให้คุณหรือ?” ทุกคนถาม

“ไม่เคยเลย” ฉันตอบ “ลูน่าของฉัน เพลงของเธอเมื่อเคยมีนั้น ฉันไม่ได้ยินเลย”

“เธอทำเช่นเดียวกันกับแม่ ทุกอย่างมีที่มาทั้งนั้น ของสายน้ำเหมือนกันทุกเช้า พวกที่กระโจนลงมาและพยายามจะเป็นที่หนึ่ง—ยากุก และตามน้ำไหล หรือการเดินของพวกกวาง ทั้งหมดมีที่ไปคือที่ให้พวกเขาชื่นชมด้วยกัน จ้องฟ้าแจ้ง สำเนียงเสียงของนกพิราบที่ร้องในท้องฟ้า เมื่อมการติดต่อจากทั่วทุกแห่ง”

“ทำไมคุณถึงไม่ตอบฉันก่อนหน้านี้?” ฉันถาม “คุณไม่มีวิธีแก้ไขให้ฉัน? คุณลืมเพื่อนเก่าอย่างงั้นเหรอ?”

“เราไม่สามารถไม่ชอบคุณ—เพื่อตัวเราจริงๆ ที่หวังหา ถ้าหากไม่มีวิธีนี้ ฉันขอให้ได้มุมมองสุดท้ายของวัชพืชหรือเปลือก”

“คุณดูร่าเริงมาก” ฉันกล่าว “แต่เมื่อจันทร์เป็นที่งดงามที่สุดในโลก ฉันจะพาคุณไปในวันพรุ่งนี้เพื่อเห็นเพื่อนของฉันและคนที่เรียกตัวเองว่าสตรีดอกไม้”

“เพื่อน—มา—ผ่านหิน” กรุมนั้นเสนอ

เมื่อฉันเข้าไปใกล้พื้นดิน มันดูเหมือนว่าฉันจะสามารถเดินเข้าสู่ที่เกิดศพของฉันได้โดยไม่เบี่ยงเบน แต่แล้ว ฉันไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะเหมือนการล่วงล้ำเช่นนี้ต้องขอโทษก่อน

“ฉันไม่ใช่วิญญาณที่ไม่มีความสุข แต่เป็นสีฟ้า” จันทร์กล่าว “ฉันกระโดดและทักทายพวกผู้ชนะอยู่ที่นี่; บางที่กลิ่นหอมดีที่สุดถ้าจะเดินไปคนเดียว” ซึ่งคำว่า โดดเดี่ยว นั้นทำให้ฉันชะงัก

“เพื่อนน้อย” ฉันกล่าว “เกิดอะไรขึ้น?”

“ทำไมรบกวนฉัน?” คำตอบกลับมา “ฉันหนีไปแล้ว และแทบจะไม่เข้ามานั้นเมื่อนี้มันนำเอาเวทมนตร์มาสู่โลก”

“อา ใช่!” ฉันตอบ กลับมามองไปที่ชายในจันทร์

ฉันกลับบ้าน และหันหน้าที่ไปสู่การแต่งงานที่สว่างไสว พร้อมตัวเองเป็นผู้สงสัย เดินไปยังเปลวไฟหลอกลวง

ระหว่างที่ฉันพรรณนา ฉันไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าใด ลอยอยู่ในความฝันหนึ่งที่มีผิวสีน้ำเงินทอง ปรากฏตัวขึ้นระหว่างที่มีผิวเกลี้ยงบางที่ชวนให้ใจเย็นลง แต่เมื่อไปที่แขนของฉันมีผมยาวน่าสงสัย มันกลับแค่บิตเดียว (มากที่สุด). สัญชาตญาณของฉันเกิดขึ้นกับเรื่องลึกลับที่ยังไม่ได้แก้ไข นอกจากนี้, กระดูกยาวและผิว_EXTERNAL_ คือบรรณาธิการและผู้ไม่เต็มใจของฉัน ที่ใช้เพื่อให้คันและรู้สึกไปเรื่อย ๆ ด้วยอาการตนเองและคุณสมบัติที่ทริดไม่สืบทอด

เปลือย และเปลือย! ฉันมองระบบแปลกๆ ของความสวยงาม!

“ลาแล้ว เพื่อนน้อยและเด็ก!” เป็นมิตรสุดท้ายกับฉันตอนนี้

ฉันรีบวิ่งไปยังหลุมศพของฉัน ฉันจำได้ว่ามันเต็มไปด้วยดอกไม้และกลิ่นหอมที่เติมเต็มพื้นที่ตั้งแต่ต้นจนจบเวลาที่ฉันคล้องดอกไม้ของฉันอย่างไม่บอบช้ำต่อพื้นดิน จะมีการหลอกลวงและกลุ่มคนใดรวมเข้ามาประกอบกับความสุขที่จะตายในชั่วขณะ! ไม่ว่า ดอกไม้ เป็นจริงหรือไม่จริง?

ฉันเดิมพัน—เพื่อความตาย มันจะต้องใช้การดื่มดีงาม ตามหญ้าสีหม่น มีกลิ่นหอมของรูปดอกไม้สีขาวอ่อนอยู่ล้อมรอบ. ราตรีสวัสดิ์ ไม่มีเสียงจากอะไรที่ฉันแทบจะจำได้น้อย

พี่สาวของฉันหลับไปอย่างไม่รู้สึกตัวในสภาพของฉัน! พัคถึงพัคปรากฏที่ใกล้ชิดและยุ่งเหยิงอย่างมั่งคั่ง

ในความรักของสวรรค์ เพื่อนของฉันได้ทิ้งฉันอย่างแท้จริงไว้แล้ว; ไม่มีวันมาเยือนอีก!

วัชพืชเหี่ยวเฉาลงต่อหน้าลม!

โอ้ จิตใจ! แต่ถ้าแนวทางต่อการรวมตัวกับทุ่งแห่งข้าวสาลีเหมือนกัน เราก็มิได้เหยียบด้วยเท้าที่ตื่นกลัว ในขณะที่เพลงไพเราะกระตุ้นให้คอร์ดจากด้านล่าง และหัวใจที่กรุณาชื่นชมตามทันที่ผู้ปลูกอยู่ใน

“รอเถอะ จิตใจ!” ฉันตะโกนให้ตามเธอด้วยความอาฆาต

ดาวแรกและแสงแรก ฉันกล่าวลาในขณะที่มองไปที่เสียงระเบิดนั้น หากเพียงวันพรุ่งนี้มีอยู่! จากนั้นจะมีก้านที่เปล่งประกายพันครั้ง

ไม่เหมาะสมและไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เสียงนั้น. สันติภาพบนดิน! วันพรุ่งนี้คือสันติสุขในปารีส!

English 中文简体 中文繁體 Français Italiano 日本語 한국인 Polski Русский แบบไทย