ในใจกลางของฤดูหนาว ท่ามกลางแสงไฟระยิบระยับและการตกแต่งที่สวยงาม มีลูกแก้วหิมะที่งดงามนั่งอยู่ มันเป็นที่รู้จักกันในชื่อห้องที่มีแสงระยิบระยับ ซึ่งภายในมีหมู่บ้านเล็กๆ ที่เปล่งประกายด้วยแสงอบอุ่นแม้ในคืนที่หนาวที่สุด ในกลางหมู่บ้าน มีบ้านไม้เล็กๆ ที่มีช่องปล่องไฟที่ปล่อยควันขาวออกมา สร้างสรรค์ที่น่ารักนี้มีชื่อว่า เอลซ่า ซึ่งเหมือนกับเจ้าหญิงที่อาศัยอยู่ในบ้านที่ถูกถ่ายทอดในโลกทรงกลมของเธอ
เมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ผู้คนที่เดินผ่านไปมาจะหยุดเพื่อชื่นชมภาพที่สวยงามในลูกแก้วหิมะ เด็กๆ จะกดใบหน้ายิ้มของพวกเขาแนบกับกระจก โดนมนต์สะกดจากตุ๊กตาหลายตัวที่เต้นรำรอบๆ บ้าน สร้างภาพลวงตาที่สมบูรณ์แบบของโลกมหัศจรรย์ในฤดูหนาวที่ถูกแช่แข็งในเวลา แต่ในลูกแก้วนั้น ไม่ใช่เด็กที่มองออกไป – เป็นเอลซ่าที่มองโลกภายนอกด้วยความปรารถนา
“Oh, ฉันหวังว่าฉันจะได้เห็นเด็กๆ Dance และเล่นข้างนอกในหิมะ!” เธอมักจะถอนหายใจด้วยน้ำเสียงที่เบาเหมือนกระซิบท่ามกลางเสียงไฟที่ crackling ในบ้านของเธอ แต่โชคชะตากลับทำให้เธอยังคงติดอยู่ภายในมิติของโดมเวทย์มนตร์ของเธอ ตลอดกาลในการเฝ้าดูโลกที่ผ่านไป
คืนหนึ่งที่อากาศหนาวจัด มีสุภาพบุรุษวัยแก่คนหนึ่งที่มีดวงตาเป็นประกายเดินเข้ามาในร้านที่เอลซ่าอาศัยอยู่ เขามองไปที่ลูกแก้วและส่ายหัวด้วยความผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด “มันสมบูรณ์แบบในทุกทาง แต่ฉันจะให้ลูกสาวที่รักของฉันเห็นมันได้อย่างไร?” เขาพูดออกมาเบาๆ
ทันใดนั้น เริ่มเกิดการสั่นสะเทือนใต้พื้นไม้ของร้าน และลูกแก้วเริ่มเขย่า เกล็ดหิมะที่ระยิบระยับเริ่มหมุนวนลงมา และเปลี่ยนฉากที่งดงามในลูกแก้ว ให้ตุ๊กตาเริ่มเคลื่อนไหวเร็วขึ้น เต้นตามจังหวะที่มีเฉพาะพวกเขาที่ได้ยิน คลี่ทำให้เกิดพายุหมุนหิมะ ก่อนจะกลับเข้าที่
ในขณะที่นั้นเอง ประตูเปิดออกและเด็กหญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งเข้ามา ดวงตาของเธอเป็นประกายด้วยความพอใจเมื่อเห็นลูกแก้วหิมะ ในขณะที่เธอกดจมูกของเธอแนบกับกระจก โลกภายในนั้นเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง – แสงจากบ้านเปล่งประกายสว่างขึ้น และตุ๊กตาไม้ตัวเล็กๆ โบกมืออย่างมีความสุขให้กับผู้ชมใหม่
“กรุณาขายให้ฉันเถอะค่ะ ซานต้า! กรุณา!” เธอขอร้องด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น และด้วยเหตุนี้ ลูกแก้วจึงถูกวางไว้ใต้ต้นคริสต์มาสในวันคริสต์มาส เชื่อมโยงใบหน้าของเด็กๆ ที่มองด้วยความอัศจรรย์
เมื่อดวงอาทิตย์ลับฟ้า เด็กหญิงยกลูกแก้วหิมะขึ้นด้วยความระมัดระวัง รอยยิ้มอ่อนโยนปรากฏบนใบหน้าของเธอ “สุขสันต์วันคริสต์มาสค่ะ เอลซ่า!” เธออุ้มลูกแก้วอย่างระมัดระวัง และเหมือนกับตอบสนองต่อความรักของเด็กหญิง ลูกแก้วก็สั่นเล็กน้อย และข้างนอกนั้น หิมะเริ่มตกลงมาจากท้องฟ้าที่หนาวเหน็บ เต้นระบำอย่างมีความสุขในแสงสว่างของค่ำคืน
ด้วยความตื่นเต้นของฤดูกาลและความอ่อนโยนของช่วงเวลา เอลซ่ารู้สึกร้อนจากไฟในบ้านอีกครั้ง โดยที่พวกเขาไม่รู้ว่าในโลกของเธอ ตุ๊กตาเหล่านั้นสามารถรู้สึกถึงความเย็นของคืนฤดูหนาว ทำให้พวกเขาสั่นเล็กน้อย พอเด็กหญิงตัวเล็กเริ่มจะหันหลังกลับ ลูกแก้วก็กระพริบ และตุ๊กตาตัวเล็กทั้งหมดในหมู่บ้านก็เริ่มเต้นระบำอย่างมีความสุขไปรอบๆ บ้านที่เปล่งประกาย พายุหิมะขนาดจิ๋วล้อมรอบพวกเขา แต่พวกเขากลับไม่รู้สึกกลัว แต่กลับหัวเราะและโบกมือ
จากวันนั้นเป็นต้นมา เมื่อใดก็ตามที่เด็กหญิงหรือลูกคนอื่นๆ เขย่าลูกแก้ว มันก็จะมีชีวิตชีวาขึ้น นำความสุขและเวทย์มนตร์ที่มากกว่าที่พวกเขาจะเห็นได้ ทุกวันนำมาซึ่งการผจญภัยใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมงานเฉลิมฉลองของชาวเมืองที่ยุ่งเหยิง หรือสัตว์เล็กที่วิ่งไปมา เอลซ่าได้เรียนรู้ว่าเวทย์มนตร์สามารถพบได้ในโลกอันน่าหลงใหลของเธอ และมันยิ่งงดงามยิ่งขึ้นในทุกครั้งที่มีคนแบ่งปันกับมัน
และดังนั้น ในอ้อมแขนของครอบครัวที่รักของเธอ เอลซ่าจึงพบกับบ้านที่แท้จริง มันไม่ได้เกี่ยวกับการมองเห็นโลกภายนอกเพียงอย่างเดียว แต่เกี่ยวกับความสามารถในการแบ่งปันเวทย์มนตร์ของเธอกับผู้ที่รักเธอ เวทย์มนตร์มีชีวิตชีวามากที่สุดในหัวใจของผู้ที่เชื่อ และบางครั้ง มันก็เพียงแค่ต้องเขย่าลูกแก้วเพื่อที่จะตระหนักว่าความมหัศจรรย์นั้นรออยู่เสมอ ไม่ว่าสถานที่ไหนก็ตามที่คุณอยู่