ในขณะที่ฉันเดินผ่านทางเดินที่กว้างขวางของปราสาทเก่า หัวใจของฉันเต้นรัวไปด้วยความตื่นเต้นและความอยากรู้อยากเห็น ใครเคยอาศัยอยู่ที่นี่? เรื่องราวใดบ้างที่กระซิบผ่านคานที่เก่าแก่ที่มีเสียงเคลื่อนที่? ทุกย่างก้าวทำให้จินตนาการของฉันสร้างเรื่องราวของอัศวินและมังกร ของเจ้าหญิงและห้องบอลรูมที่เต็มไปด้วยเสียงเพลง มันเป็นเรื่องราวของชีวิตของฉันเอง รอคอยที่จะถูกค้นพบ
บ่ายวันหนึ่ง ขณะที่ดวงอาทิตย์ทำให้ห้องมีสีทอง ฉันได้สะดุดเข้ากับประตูที่ซ่อนอยู่หลังจากผ้าทอที่ชำรุด ฉันรู้สึกถึงเส้นด้ายที่มองไม่เห็นพาความรู้สึกของฉันไปเมื่อฉันผลักประตูเปิดไป เผยให้เห็นห้องเล็ก ๆ ที่ปลายทางเดินที่ถูกลืม ในกลางห้องมีอยู่กระจกที่สวยงามไม่มีที่เปรียบ กรอบของมันประดับประดาด้วยเถาวัลย์ที่คลุมเคลือและดอกไม้ที่ละเอียดอ่อน ทั้งหมดเหมือนทำจากเงินที่เปล่งประกาย ฉันเชื่อว่ามันอาจเป็นเพียงภาพสะท้อนของจินตนาการที่ไม่หยุดยั้งของฉัน
เมื่อฉันเข้าใกล้ อากาศแปรปรวนไปด้วยพลังงาน และฉันได้ยื่นมือไปสัมผัสพื้นผิวของกระจก มันกระเพื่อมเหมือนน้ำ และในขณะนั้นเองบางสิ่งที่ไม่ธรรมดาเกิดขึ้น ภาพสะท้อนที่มองกลับมาที่ฉันเริ่มเปลี่ยนแปลง จู่ ๆ ฉันไม่เพียงแค่เห็นตัวเองในวัยสิบสองปี แต่ฉันได้เห็นทุกเวอร์ชันที่เป็นไปได้ของตัวฉัน – ศิลปินที่ขี้อาย นักสำรวจที่สนุกสนาน นักวิชาการที่ชาญฉลาด ทุกคนปรากฏตัวขึ้นอย่างมีชีวิตชีวา ราวกับเชิญชวนฉันให้ก้าวเข้าสู่โลกของพวกเขา
แต่มีภาพสะท้อนหนึ่งที่ทำให้ฉันตกใจ นั่นคือเวอร์ชันของฉันที่รู้สึกเหมือนคนแปลกหน้าอยู่เสมอ เธอยืนอยู่ด้วยความมั่นใจ สายตาของเธอมั่นคง และฉันเห็นในดวงตาของเธอมีความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับการรักและยอมรับตัวเอง ฉันรู้สึกอายทันที เชื่อว่าฉันจะไม่มีวันเป็นที่น่าทึ่งเท่ากับสาวในกระจกนั้น กระจกนั้นดูเหมือนจะรับรู้ถึงความรู้สึกของฉัน เพราะมันเปล่งประกาย แสดงให้ฉันเห็นมากขึ้น ฉันถูกพาไปยังฉากต่าง ๆ ของชีวิตฉัน – ช่วงเวลาของความเมตตา ความกล้าหาญ และเสียงหัวเราะที่ฉันมองข้าม
ฉันเห็นว่าการกระทำเล็ก ๆ ของความกล้าหาญได้สร้างแรงบันดาลใจให้คนรอบข้างอย่างไร ฉันจำได้ว่าฉันได้เรียนรู้การเล่นไวโอลินแม้ในช่วงแรกจะทำได้ไม่ดี ความสุขที่มันนำมาให้กับครอบครัวของฉัน และเรื่องราวที่การเล่นของฉันบอกเล่า ฉันเผชิญหน้ากับความกลัวเมื่อครั้งแรกที่ยืนอยู่บนหลังม้า แม้จะสั่นเทาแต่เต็มไปด้วยความตั้งใจ ฉันสังเกตเห็นรายละเอียดเล็ก ๆ ทุกอย่าง – เพื่อนที่คอยสนับสนุนฉันอยู่ข้าง ๆ รอยยิ้มที่ภูมิใจของแม่ฉันจากข้างสนาม
กระจกกระซิบผ่านภาพสะท้อนของมันว่า “คุณไม่ใช่แค่สิ่งที่คุณต้องการจะเป็น แต่ยังหมายถึงตัวตนของคุณในปัจจุบันอีกด้วย มันไม่ได้เกี่ยวกับการเลือก แต่เป็นการรับรู้และเห็นคุณค่าของตัวเองในตอนนี้”
ด้วยความรู้สึกใหม่แห่งจุดมุ่งหมาย ฉันถอยหลังออกมาซึมซับเวทมนตร์ของประสบการณ์นี้ และพึมพำว่า “ขอบคุณ”
เมื่อดวงอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า ส่งแสงสีอุ่นเข้ามาในห้อง ฉันตระหนักว่ากระจกได้เปิดเผยความจริงที่ฉันต้องการเห็น บางครั้งในการค้นหาเพื่อเปลี่ยนแปลงหรือเติบโต เรามักจะลืมความงดงามในสิ่งที่เราเป็นอยู่แล้ว ด้วยความรู้สึกขอบคุณเต็มหัวใจ ฉันปิดประตูห้องกระจก ลงนามว่าจะกลับมา แต่รู้ว่าการเดินทางค้นหาตัวตนของฉันเริ่มต้นขึ้นแล้ว
ทุกวันนับแต่นั้นก็เต็มไปด้วยการผจญภัยของมันเอง – ตื่นเต้น ท้าทาย และคุ้มค่า ขอบคุณกระจกเวทมนตร์นั้น ตอนนี้ฉันเข้าใจว่าตัวตนที่แท้จริงของฉันนั้นมีคุณค่าในตัวของมันเอง และความรู้นั้นเป็นสมบัติที่แท้จริง