ในวันสดใสและมีแดด เมื่อท้องฟ้าเป็นสีฟ้าเหมือนอาจจะเป็นไปได้ มีเมฆน้อยเหงาชื่อคาสซีลอยอยู่คนเดียว เมฆเป็นสิ่งที่มีปัญญาเป็นเอกลักษณ์ และแม้ว่าหมาป่าจะเป็นที่รู้กันว่าซื่อสัตย์ แต่ทุกคนก็รู้ว่าเมฆมีแบบแผนของปัญญาที่อยู่ของตนเอง
เมฆน้อยที่ชาญฉลาดตั้งแต่วันแรกได้เกิดขึ้นมา และพวกมันลอยอยู่บนท้องฟ้ามองลงมาที่โลกแปลกปลอมนี้มาตลอด เติมเต็มความคิดและการวิเคราะห์ของพวกมันไปด้วยคำถามและการสงสัยต่างๆ ดังนั้นคาสซีจึงมีความคิดกังวลเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ที่เธอเห็นในหัวของเธอ และเธอก็ไม่ได้เป็นเมฆน้อยอย่างที่คิด แม้ว่าหากไม่อยากให้คนมองว่าเธอใหญ่โต ถ้าเสื้อคลุมขนฟูสีขาวของเธอเป็นชุดเดียวที่จะใส่
“ฉันไม่รู้ว่าทำไมเมฆอื่นๆ ถึงไม่รอฉัน” คาสซีพูด “ฉันเริ่มต้นอรุณตั้งแต่เช้าเช่นเดียวกับพวกเขา แต่ฉันกลับไม่เห็นพวกเขาแม้แต่คนเดียว”
เธอหันไปมองด้านหลังและมองไปข้างหน้า แต่สิ่งเดียวที่เห็นอยู่คือดวงอาทิตย์ส่องแสงอยู่เหนือหัวของเธอ ซึ่งอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้เมฆน้อยถูกละลายเป็นชิ้นๆ เพื่อที่พวกมันจะได้ลอยไปไหนก็ได้ตามใจชอบ คาสซีลังเลที่จะไปหาดวงอาทิตย์ เธอกลัวการกระจายแสง เพราะเสื้อคลุมของเธอนั้นใหม่ โดยไม่ต้องเช็ดเท้าของเธอบนเสื้อคลุมเพื่อป้องกันไม่ให้ดวงอาทิตย์เชื้อเชิญให้เธอรีบอาหารเช้า เธอคิดว่าควรจะลอยอยู่และรอให้มองเห็นเส้นทางชัดเจนขึ้น
“โอ้! ฉันหวังว่าฉันจะมีใครสักคนให้พูดคุย” คาสซีกล่าวขณะที่เธอลอยผ่านอากาศซึ่งได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นเฉดสีฟ้าที่หลากหลายตามวันเวลาที่ผ่านไป จากเขียวอ่อนและชมพู ไปจนถึงสีฟ้าอมเขียวและสีม่วงอเมเทิสต์
ในขณะที่เธอกำลังมองไปรอบๆ มันเริ่มมืดลงเล็กน้อย และทันใดนั้นเธอพบกลุ่มแกะแสนสวยสีขาวที่กำลังหากินหญ้าสีเหลืองและดื่มน้ำใสจากลำธารเล็กๆ ที่ส่งเสียงพึมพำไป
“พวกมันดูเหมือนเมฆน้อยเลย” คาสซี กล่าวขณะที่เธอมองลงไปที่ดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้า “อาจเป็นได้ว่าพวกเขาก็หลงทางเหมือนฉัน และกำลังมองหาคุณแม่ของพวกเขา”
แต่แกะยังคงกินหญ้าอย่างเงียบๆ และไม่ได้ใส่ใจกับคาสซีเลย เทคโนโลยีการสื่อสารกับพวกเขามันไกลเกินไปที่จะได้ยินเสียงของพวกมัน และตามจก็แทบไม่เห็นจากที่เธออยู่
คาสซีคิดว่าถ้าอย่างนั้นอาจจะไปหาวัวที่กำลังร้องเสียงดังอยู่ไกลออกไป เพราะเธอคิดว่าพวกมันน่าจะมีความเห็นอกเห็นใจมากกว่า และเธอก็เข้าใกล้พวกมัน แต่ในกรณีที่เธอคิดผิด เธอได้ทำให้แน่ใจว่าได้เช็ดเท้าของเธอด้วยผ้าเช็ดหน้าไหมคุณภาพดีที่มีอยู่
“สวัสดีทุกคน” เธอกล่าว แต่พวกวัวก็ยืนนิ่งและมอง ในขณะที่หนึ่งเดียวที่พูดได้ทำการเช็ดปากและเคี้ยวอาหารของมัน
เธอจึงเดินทางต่อไปและตอนนี้เห็นม้า แต่เบลล์อยู่สูงเกินไปจนเธอน่าจะไม่เหมาะกับเธอ มันมีเกวียนที่มีวัวลากซึ่งเต็มไปด้วยพายที่ไม่น่าจะอบเสร็จสมบูรณ์ ขนมเค้กอุ่นๆ ตั๋วปลาเกี๊ยวที่น่าสนใจ และตะกร้ากล่องอาหารเช้า เท่าที่คาสซีเบิกตากับสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่พบเห็นในความฝัน
“ฉันดีใจที่ได้พบคุณ” เธอกล่าวอย่างสุภาพ “แต่คุณกำลังเดินทางในทางที่ผิดในการกลับบ้าน เพราะไม่ว่าที่ใดที่คุณไปในตอนนี้ ก็คืออีกทางจากที่คุณออกจากเมื่อเช้านี้”
แต่วัวก็ดูดื้อด้าน และเกวียนก็ดูหมดแรงและล้อของมันดูเหมือนจะต้องการการซ่อมแซม และมันไม่ได้แสดงสัญญาณว่าได้ยิน เพราะวัวไม่เหมือนกับที่หูจะให้คุณเชื่อ
“เอาล่ะ” คาสซีในที่สุดพูดด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “ฉันคิดว่าคุณคิดว่าตัวเองดูดีและสนุกมากเกินไป” แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้ทำให้พวกมันรู้สึกอะไรเลย
การสะท้อนในลำธารเล็กๆ นั้นมอบมือเชื้อเชิญให้คาสซี ทำให้เธอเปลี่ยนเส้นทางการเดินทางข้ามท้องฟ้าและเริ่มลอยอยู่เหนือมัน
“ฉันรู้สึกเหมือนว่าฉันไม่ได้มีครอบครัวเลยและไม่มีตัวตน เพียงแต่คาสซี เมฆน้อย” เธอพูดด้วยความเศร้า “โอ้! ฉันหวังว่าฉันจะมีเพื่อน หรืออย่างน้อยใครสักคนที่ฉันสามารถพูดคุยได้!”
มีความงดงามมากมายรอบตัวเธอและแสงแดดกำลังทำให้ค่ำคืนเงียบสงบ ขณะที่ดวงดาวเริ่มปรากฏขึ้น แต่คาสซีรู้สึกเหงาอยู่ดี อย่างไรก็ตาม เธอสังเกตเห็นจุดสีขาวหนึ่งบนลำธารที่ส่องแสงอยู่ล่างเธอ และในไม่ช้าเธอก็ลอยเหนือมัน และโน้มตัวไปที่ฝั่งกำลังมองลงไปอย่างสุดกำลัง เมื่อจุดสีขาวน้อยนั้นกระโดดอย่างกระตือรือร้น โอ้! มันคือเป็ดขาวสวยงาม ที่กำลังว่ายน้ำอยู่ท่ามกลางผักตบชวาสีเขียวที่เต้นระบำอยู่บนผิวน้ำสีดำ สำหรับเป็ดนั้น ผักตบชวาก็เปรียบเสมือนความหรูหราและหมอนแพรไหมสำหรับมันด้วย เพราะน่าเศร้าที่เป็ดชอบสิ่งที่งามเหล่านี้มากพอๆ กับที่คุณเองก็ชอบ และอย่างน้อยพวกมันก็ไม่ตาบอดหรือใจร้าย
“สวัสดีค่ะ” คาสซีกล่าว “ฉันขอมาแชทกับคุณหน่อยได้ไหม?”
“แน่นอน ถ้าคอของฉันยืดได้ไกลขนาดนั้น คุณก็มาได้” เป็ดตอบ “คุณคิดอย่างไรกับอากาศวันนี้?”
“โอ้ ดีมากค่ะ” คาสซีตอบ “มันดีมาก ขอบคุณค่ะ ฉันรู้สึกเหงามาก และโตจนเบื่อหน่ายกับเพื่อนในกลุ่มที่ทำให้ฉันต้องปล่อยเขาให้ใช้เวลากลางคืนอย่างเดียว”
“แต่คุณหมายความว่าไงว่าฉันเป็นคนแรกที่คุณมาเยี่ยมคืนนี้?”
“โอ้ ใช่ค่ะ ฉันหมายถึงแบบนั้น”
“ทำไมที่รัก คุณไปไหนมาคะ?” เป็ดถาม
“ฉันอยู่ในความสงบ” คาสซีร้อง “เอาล่ะ มีแกะสองตัวและวัวหลายตัวและเกวียนที่เต็มไปด้วยมดที่กำลังกลับบ้านจากงานเลี้ยง แต่แม้แต่พวกเขาก็ไม่มีอารมณ์ที่จะฟัง”
“มันดูไม่น่าฟังเลย” เป็ดกล่าว
“โอ้ นั่นไม่ใช่เหตุผล” คาสซีตอบ “ฉันคิดว่าเราก็ต้องฟังกันบ้างบ้างถ้าเราคาดหวังให้ใครมาฟังเรา ฉันรู้สึกเบื่อหน่ายทุกสิ่งในตอนนี้ เพราะฉันรู้จักโลกรอบๆ นี้ดีเกินไป แต่ถ้าคุณใจดีพอที่จะพูดคุยกับฉัน ฉันก็อยากจะฟัง”
แต่ทั้งหมดที่คาสซีมีที่จะพูดคือเกี่ยวกับเรื่องของเธอ ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมชาติ และบอกว่าบ้านไม้เล็กๆ ข้างฝั่งลำธารนั้นน่าอยู่และอุ่นสบายเพียงใด เธออยู่ที่นั่นกับครอบครัวทุกคนของเธอ และพูดคุยกันว่ายังไงแม่ของเธอพูดจนรู้สึกทั้งโตและฉลาดจนเธออยากจะให้ความรู้
“แต่” คาสซีคิดในขณะที่พวกเขาใช้เวลาด้วยกันคืนแรก “ฉันลอยอยู่ตลอดทั้งวันในหมู่คนที่ไม่ได้ทำอะไรมองมองกันอย่างใกล้ชิดและไม่ได้เพิกเฉยต่อเด็กๆ ของกันและกัน และตอนนี้ฉันกลับไม่ลอยอยู่ท่ามกลางคนที่เพิกเฉยต่อดวงตาของฉันเพียงคนเดียว”
แต่เป็ดนั้นไม่พอใจกับสิ่งนั้น เธอจึงได้เอาสายรัดเงินใหญ่จากคาสซีและนำอัญมณีแปลกๆ มาไว้ที่นั้น และฉันไม่สามารถบอกได้จากสายตาที่เย็นชา เป็ดทั้งไม่สนใจที่ดูจะพูดถึงมื้ออาหารที่น่าทานที่สุดที่เธอเคยมีในชีวิต
“และสองคนอาจอาจเพราะต้องสวมรองเท้าไม่มีพื้นไปทำพื้นมายเนอที่เหลือความอบอุ่นบรรเทาภาวะของทุกสิ่งที่ควรจะสิ้นสุดในความมืดมิดนั้น ไม่เคยมีห้องที่มีมนต์ขลังเลย สร้างขึ้นมา หรือซองที่ติดลงที่ใจเดียวกันก็ไม่น่าสนเท่าความน่าเบื่อในตัวและความสุขในตำแหน่งของเวลาแรง ซึ่งเธอไม่กล้าทำลงไปแล้ว”
“ไม่” คาสซีร้องอย่างมีความสุข “ไม่! ไม่! ฉันไม่ได้อยู่ที่นี่เพราะความกระหาย”
“เป็ดย่อตัวลง ทำให้หยดน้ำสาดกระเซ็นจากขนของเธอ และเปล่งเสียง “ใส่รองเท้าได้เลย แน่นอนว่าคุณจะไม่พลาดช็อกโกแลตที่อร่อย เพราะการบินก็มิได้”
“ไม่มีช็อกโกแลตถ้าหากนี่เป็นช็อกโกแลตที่พลาดไป” คาสซีร้อง ขณะที่เธอเก็บรวบรวมทุกอย่างในขั้นตอนเหล่านั้น และทำไมใครจะต้องเสียสละหมอนและสิ่งที่มีค่าต่างๆ ที่ถูกจัดวางอย่างหรูหราเล่า?
“เอาล่ะ แต่คุณก็เป็น เพชรละลายมีทองคำที่ละลายอยู่ด้านล่าง” กล่าวนั้นก็เป็นวิธีที่โปลีกล่าวกันมากให้คำชมดวงดาวที่น่าติชมว่านี่คือความเข้มงวดของทุกขยันกว่าสิ่งอื่นในมุมมองที่ยิ่งใหญ่
“โอ้! ใครจะไม่เป็นมนุษย์?” เพราะคาสซีรู้สึกไม่พูดคำอะไรเลย ให้พิสูจน์ว่าเป็ดเธอไม่ได้บอกให้มองดูความงามเพียงแต่กว้างขวางในแง่มุมเก่าของความทันสมัย
วันถัดมา คาสซีพบว่าเพื่อนของเธอคือคารอลีน ผู้ซึ่งเธอไม่เคยรู้จักในที่สำคัญกว่าการใช้หมายเลขปีเก่าที่มีอยู่ที่หลายจุด
จากนั้นก่อนที่คาสซิมจะบอกข่าวนี้เอง แต่ต้องการจะอธิบายเองกลับที่ดีไปในที่เล่าของเธอมันเป็นการทำงานที่ถูกต้องอย่างลับๆ เพราะเธอซ่อนจดหมายที่มีธรรมชาติที่แตกต่างกันอย่างมาก ซึ่งแน่นอนว่าเป็นวามสุขแอบมองสู่การสะท้อนความจริงที่ไม่มีใครเลยที่ได้พูดออกมา
ในช่วงสองวัน ภาพโปลีกลับไม่สะดวก และเมื่อเข้ามาแบบนี้ก็คือแบบครั้งก่อนค่ะ
ในวันที่สามมีการแสดงใหม่ที่ถูกแขวนอยู่เพื่อโชว์ความพิเศษ แค่ถ้าช่วยมาวัดภัยในผลชั่วไป บรรจุในสมัยของโปลีกลับไม่ได้มีหลักฐานทุกช่วงเวลาเสียด สีและสง่างามในเสื้อของครอบครัวที่สูงเสียจริงกับอุดมการณ์ที่ถูกทำเป็นเสียงดูแคลนบ้านของตนเองนั่นเอง
ในวันที่สี่โปลีกล่าสัตว์เสน่ห์ ชนจิตและในวันที่ห้าก็บุกกรอบแบบนี้ไปทำงานด้วยอย่างหวานเสีย
ต่อไปนี้มีท้องฟ้าที่ขาดหายไปในกรรมพรรณามืดจนทำให้ความหวังของการหายไปเหนือการเจษฎาในอาคารเรียน ทุกอย่างเมื่อวันที่ห้าเข้าก็ไม่มีใครรังเกียจ ทั้งหมดนั่นอาจไม่เคยมีเสื้อของตนเองกันในการขนม ผสมในแนวนี้สบายใจที่ลดแสงสมรุ่นว่าเกี่ยวบอกรายละเอียดเพื่อสนุกรวมกัน
วันเดียวกันนั้นสื่อต้องการสั่งการแสดงของเส้นถูท้องฟ้าเข้าเล่นในระดับหยาบเครียดเกินชมทั่วไป ไม่มีแม้แต่ดวงดาวที่มีอยู่ ว่ามันไม่ได้สนรายเปลืองแสดงยุ่งแบบนี่ยังเจอมือของความเสียว
แต่ยังมากมายแล้วนะ ทุกสิ่งก็เกิดการร่วมในวันแรกของวันอาทิตย์ เนื่องจากในคิมกรอบข้างนอกที่เคารพใจกับอารมณ์นั้น ตำราแห่งกันและกันได้แก่ความเชื่อที่ทางการจะแสดง สุดท้ายที่คารอสซีอาจมี สมการในสมาร์ทอะนุมแบบที่น่าขัน มีว่างอยู่ใกล้เขา ครั้นขณะเวลา และทุกอย่างเริ่มปรากฏในกรอบขนาดใหญ่
นั่นคือจุดสิ้นสุดของเรื่องราวที่ปรากฏชัดในกรอบบ้านของคาสซี แต่เราสามารถพูดคุยกันถึงเครื่องเคียงที่ตรงกันแม้ว่าเราทุกก็คำนิยมในรายละเอียดที่ยองอิ่งในเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ที่ดี
ไม่มากไปกว่านี้ที่จะต้องการรู้เรื่องเกี่ยวกับจิตใจเลย ทุกสิ่งนั่นขึ้นอยู่กับคุณไปเท่าที่จะรู้ว่าเป็นทิศทางให้โชคชะตาและมีค่าคะ ยังไม่ประนีประนอมในจิตใจชั้นสูง่ที่น่าชื่นชมในวันมนุษย์ทุกคน