ในบ่ายวันหนึ่งที่มีแดดจ้า รถเข็นสีแดงขนาดเล็กยืนอยู่ในสนามเด็กเล่น ชื่อของเธอคือเวนดี และเวนดีรู้สึกเศร้า เด็กๆ ทุกคนเล่นเกมและ กระโดดเชือก หรือให้นมลูกแมวตัวน้อย—เด็กๆ ทั้งหมด ยกเว้นหนึ่งคน
คุณเห็นไหม เด็กผู้หญิงตัวเล็กคนนี้ถูกบอกว่า “ไม่” ทุกครั้งเมื่อเธอขอใช้รถเข็นนี้; เด็กสาวคนนั้นร้องไห้เพราะเวนดีและกล่าวว่า “โอ้ ที่รัก ทุกคนอื่นมีอะไรให้ขี่ คาร์จดอลล์หรือม้า และโอ้ ที่รัก! ฉันอยากได้”
แล้วเด็กชายสองคนก็มาและพูดว่า “เราไปเล่นรถไฟของเราที่ก้อนหินใหญ่กันเถอะ” พวกเขานำรถไฟออกจากบ้านของเล่นและแต่ละคนก็นั่งบนจักรยานสามล้อ
“โอ้ ที่รัก! โอ้ ที่รัก!” เด็กสาวที่อยากได้ขี่ร้องครวญ; “ทำไมฉันถึงไม่มีรถให้ขี่ด้วย ถ้าฉันได้ขี่จักรยานสามล้อหรืออะไรสักอย่างหนึ่ง ฉันไม่สนใจถ้าเวนดีจะอยู่คนเดียวที่นั่น”
ดังนั้นเด็กสาวจึงไปยืนอยู่ข้างเด็กชายสองคนและกล่าวว่า “ฉันอยากได้ขี่!”
แต่ว่าเด็กชายบอกว่า “ไม่.” พวกเขาไม่ต้องการให้เด็กผู้หญิงมาเล่นด้วย
ในขณะนั้นเด็กชายอีกคนหนึ่งกำลังมองดูและฟังอยู่และโจอี้พูดว่า “ฉันมีเชือกสำหรับของเล่นลมของฉัน นี่ ใช้ได้ไหม?” ดังนั้นเขาจึงผูกมันเข้ากับเวนดีแน่น และออกไปผจญภัย ทั้งของเล่นลมนั้นลอยขึ้นในอากาศ และเวนดีไปตามพื้นดิน
เด็กชายคนอื่นๆ ไม่มีเชือกสำหรับของเล่นหรืออะไรอื่นที่จะผูกกับเธอ แต่พวกเขาก็มาช่วยจับไม้ขวางที่ด้านปลายของลิ้นของเธอและช่วยโจอี้ดึงเธอไปด้วย
จากนั้นหัวใจของเด็กสาวรู้สึกอบอุ่นและมีความสุข เพราะเธอได้ขี่หลายครั้ง—ขี่มากมายจนเธอลืมความปรารถนาอื่นๆ ทั้งหมด
ในบ่ายวันแดดจ้าหลายคู่ของเด็กๆ ได้เล่นกับเวนดีและพาเธอไปขี่หลายครั้งและหลังจากนั้นพวกเขาทั้งหมดนั่งลงด้วยกันเพื่อพักผ่อน จากนั้นทันใดนั้นเด็กสาวเห็นว่าเธอกำลังร้องไห้ อ้าว ที่รัก! อะไรคือปัญหา? เด็กทุกคนไม่สนุกกับการเล่นกับเวนดีในวันนี้หรือ? บางทีพวกเขาก็ทำ แต่ก็ยากที่จะรู้ว่าจะทำให้มีความสุขได้อย่างไร
และทันใดนั้นเด็กสาวก็พูดว่า “โอ้ ที่รัก! ฉันอยากได้ตุ๊กตา.”
คุณเห็นไหม เด็กๆ หลายคนก็อยากได้ตุ๊กตาเช่นกัน และเมื่อพวกเขานึกถึงและนึกถึง การมีตุ๊กตาอีกหนึ่งตัวที่จะเล่นด้วยก็ถูกหล่อหลอมในหัวใจเล็กๆ ของพวกเขา และตุ๊กตาทุกตัวในวันนั้นต้องการหรืออะไรใหม่ๆ ที่จะอยู่ในเตียงของเด็กๆ ในคืนนี้
เพราะการแบ่งปันนำความสุขมาสู่ทุกคน
และสามเสียงเชียร์ให้กับรถเข็นสีแดงขนาดเล็กที่หาได้จากทุกๆ ร้านหรือในสนามเด็กเล่นของเด็กๆ!