กาลครั้งหนึ่งในโลกที่ห่างไกล ดาวน้อยดวงหนึ่งตื่นขึ้นในท้องฟ้ายามค่ำคืน โลกนี้ไม่มีเมือง ไม่มีบ้าน และไม่มีคน มีเพียงโดมสีน้ำเงินและดาวนับพันนับหมื่นดวง แต่ลูน่าเป็นดาวน้อยเพียงดวงเดียวที่สว่างที่สุดในสวรรค์
ทุกเช้าตอนที่ดวงอาทิตย์ขึ้น เธอต้องไปนอน แต่ทุกคืนเธอตื่นขึ้นมาเล่นกับดาวอื่นๆ ดาวใหญ่พาเดือนทั้งหลายโบยบินในตอนกลางวันและกลางคืน ดาวน้อยร้องเพลงอยู่ทุกวัน ซึ่งการร้องเพลงนั้นจะเหมือนเดิมเสมอ แต่เปลี่ยนแต่คำร้อง แต่ลูน่าเพียงลำพังเล่นกับสีสันของรุ้ง และบางครั้งเต้นรำในเส้นไฟที่ทิ้งไว้โดยดาวที่ตกลงมา
วันเวลานั้นยาวนานสำหรับเธอ เพราะดวงอาทิตย์มีเวลาที่จะดับดาวทั้งหมด ดาวใหญ่มีเวลาไปนอนและฝันถึงการแสดงของพวกเขา ดาวน้อยร้องเพลงมากมาย จนลูน่ามักปรารถนาที่จะมีเมฆขาวที่เธออาจจะไปนอนและพักผ่อนนานๆ
ในท้องฟ้ายามค่ำคืนมีดาวนับพันดวง และทุกดวงคิดว่าตนเองคือดวงเดียว! นั่นเพราะไม่มีใครบอกพวกเขาให้ดีขึ้น พวกเขามักจะคิดว่าตนเองเป็นดวงเดียว แต่ลูน่ารู้สึกว่าเธอไม่สามารถเต้นรำได้ ต้องคอยส่องแสงตลอดเวลา ทำอะไรไม่ได้เลย! เธอไม่ถูกสร้างมาอย่างเหมาะสม!
วันหนึ่ง ดาวเก่าดวงหนึ่งเดินผ่านมาใกล้ที่ที่เธอส่องแสงอยู่ และเขาบอกว่า “ทำไมเจ้าถึงมองไปข้างล่างแทนที่จะเล่นกับคนอื่นๆ?”
“ถ้าฉันเล่นกับคนอื่น ฉันจะไม่มีใครคุยด้วย” ลูน่าตอบ เขาเห็นว่าเธอจริงๆ แล้วเป็นดาวน้อยที่หายไป เขาจึงนำเอาเดือนทั้งสิบสองอันมาผูกไว้กับเธอซึ่งเขาพาไปร่วมกับเขาทั้งในวันและคืน; จากนั้นเธอไม่สามารถส่องแสงได้อีกต่อไป แต่มีเมฆขาวเคลื่อนผ่านมาในแถวยาวและพักอยู่บนเธอและดูมีความรู้มาก
ดาวอื่นๆ ทุกดวงกลัว จึงรวบรวมเดือนทุกดวงเพื่อติดต่อกับเดือนเกี่ยวกับเรื่องนี้ และมีการทำริบบิ้นและเขียนคำแนะนำไปยังดวงอาทิตย์! คืนนี้จะเป็นคืนที่น่าสะพรึงกลัว คืนที่เจ็ดคนฉลาดจะมาซึ่งทำให้ดาวน้อยต้องประสบกับสิ่งแย่ๆ ทั้งหมดนี้!
และทุกสิ่งที่ถูกเขียนก็ถูกเขียน แต่ก็ยังอยู่ที่พื้น นี่ไม่ดีสำหรับอนาคตของดาวน้อยที่หายไป แต่เมื่อดวงอาทิตย์ตื่นขึ้นและจะไปนอน เขาจึงวางมาลัยทองคำของเขาบนโดมสีน้ำเงินที่ตายแล้ว ตอนนี้เขาจะไปนอน!
“ราตรีสวัสดิ์! ราตรีสวัสดิ์!” ดาวน้อยกล่าว
“ตอนนี้ฉันจะไม่หายไปอีกแล้ว” ลูน่าพูด
และเธอก็ไม่เคยหายไปอีก!