ใต้ผืนน้ำในบ่อน้ำที่สวยงาม มีปลาทองตัวน้อยที่น่ารักตัวหนึ่งซึ่งเล็กมากและขี้อายมากจนไม่มีใครรู้จักเธอเลย ร่างกายของเธอสุกใสเป็นสีทอง และครีบและหางเล็ก ๆ ของเธอซึ่งโปร่งแสงดุจไหมมีลูกไม้ประดับ
จนถึงตอนนี้ โกลดี ปลาทอง ยังไม่เคยเห็นสิ่งใด แต่เธอคิดว่าเธอได้ยินใครบางคนพูดวันหนึ่งว่าที่นั่นสวยงามมาก เต็มไปด้วยดอกไม้และต้นไม้แปลกๆ ที่เด็กๆ วิ่งเล่น และมีนกสวยร้องเพลงและเหมือนมีสัตว์บางชนิดที่มีขนเหมือนกับในมอฟของผู้หญิง มันคงเป็นสิ่งแปลกมากที่จะได้เห็น และโกลดีจะรู้สึกสนใจอย่างไรเมื่อได้เห็น
“โอ้ ถ้าฉันสามารถยกครีบเล็ก ๆ และหางของฉันขึ้นสู่ผิวน้ำได้แค่ครั้งเดียว ฉันคงจะสามารถมองดูเหนือขอบบ่อน้ำได้ บางทีที่นั่น ฉันอาจจะได้เห็นสิ่งที่มหัศจรรย์ที่อยู่ในโลกนี้!”
และเธอให้ตามองไปที่ผิวน้ำซึ่งเปล่งประกายเหมือนดวงดาวในท้องฟ้าสีฟ้า เธอเหยียดครีบเล็ก ๆ ออกมา ว่ายน้ำแบบปลายเท้า และยกหัวเล็ก ๆ ขึ้นเหนือผิวน้ำ ความปรารถนาของเธอ แม้ว่าจะใหญ่เพียงใด แต่ก็เป็นจริงครึ่งหนึ่ง จากที่นั่นเธอสามารถเห็นขอบของโลก แม้ว่าเบอร์รี่เก่า ๆ จะปิดมันอย่างแน่นหนาอยู่รอบๆ แต่เธอก็ยังเห็นใบสีเขียวสวยงามและดอกไม้ใหญ่ที่มีชุดสีขาวและเอวสีเหลืองตรงกลางซึ่งลมพัดจนหยดน้ำค้างตกลงมาดุจไข่มุก
“โอ้สวรรค์! ที่นี่มีสิ่งที่สวยงาม!” โกลดีกล่าวด้วยความตื่นตาตื่นใจและตาของเธอเปล่งประกาย ครีบของเธอขยับ ขนาดที่ต้องการจะเห็นมากมายยิ่งขึ้น
แล้วก็มีอีกาตัวใหญ่ตัวหนึ่งสีดำ มีคอหนาและยุ่งเหยิง และหางใหญ่เหมือนเตียงขนนก ที่กระโดดอยู่ขอบบ่อน้ำราวกับว่าที่นั่นมีไว้สำหรับมัน มันจิ้มและจิกที่ดอกไม้สวยงาม จนมันล้มไปยังขอบใบใหญ่สีเขียวของเบอร์รี่ที่น้ำค้างกลิตเตอร์อยู่ในแสงอาทิตย์เหมือนกับคริสตัล
“สวยงามจริง ๆ!” โกลดีพูดซึ่งไม่สามารถละสายตาจากนกได้เลย จากนั้นเธอลืมทุกอย่าง และไม่คิดถึงกิ้งก่าที่แสนชังที่จะต้องคุยกับเธอ ซึ่งอาศัยอยู่ในน้ำครึ่งชีวิต และจะกลายมาเป็นทั้งแม่และพ่อของเธอในภายหลัง
“นี่มันไม่สวยหรือบริเวณขอบบ่อน้ำ ป้าตะเคียน?” โกลดีถาม
“สวยงาม? ใช่ สวยงามมาก แต่ก็อันตรายด้วย” ป้าตะเคียนตอบ แล้วเธอก็ปิดปากเงียบ แน่นอนว่าป้าตะเคียนได้บอกเขาไว้แล้วว่าต้องพูดอะไร
“คุณรู้ไหม ป้าตะเคียน ทำไมผู้คนและสัตว์ถึงอาศัยอยู่ที่ฝั่งบ่อ?”
“เพื่อมาเยี่ยมฉัน” ป้าตะเคียนกล่าว
“ไม่ ไม่” โกลดีพูด “แต่เพื่อเป็นพยานว่าพระเจ้าผู้มีชีวิตได้สร้างโลกนี้”
กิ้งก่าชราแหวกว่ายขึ้นไปที่ผิวน้ำอย่างรวดเร็ว “พระเจ้าผู้มีชีวิต! อา อา- - -!”
เขาสะบัดหัว ยิ้ม พร้อมกับยื่นลิ้นยาวที่น่ากลัวจนทำให้โกลดีกลัวจริงๆ โดยเฉพาะเมื่อคิดว่าลิ้นยาวนั้นสามารถเข้ามาในน้ำได้
“ฉันบอกคุณ ป้าตะเคียน ฉันต้องเห็นมัน” เธอกล่าวพลอยสั่นสะท้านในครีบทุกอัน
“มันมีอะไรที่น่าสยดสยองในนั้น” กิ้งก่าชราเอ่ย
ป้าตะเคียนก็เช่นกัน
“แต่ทำไม? คิดดูแค่ข้ามเวลา ถ้าออกห่างจากน้ำมันจะต้องตายเร็ว เมื่ออยู่กับเรา มันยังมีชีวิตอยู่ และมันสามารถมีชีวิตได้แม้ปราศจากเรา มิฉะนั้นพระเจ้าผู้มีชีวิตจะไม่ทำให้มันมีอยู่ที่นั่น และดูสิว่าทุกสิ่งยืนต้นอย่างสดชื่น มันเบ่งบานและเจริญงอกงามที่ขอบบ่ออย่างไร! ป่า พืช สัตว์ก็ขอให้ได้ถูกพาไปที่นั่น!”
“คุณพูดไร้สาระ! ตอนนี้คุณรู้ความเห็นของฉันแล้ว และคุณต้องกระโดด”
แล้วเธอก็ว่ายน้ำลงไปที่ก้นบ่อและนอนหลับตลอดทั้งวัน และทุกสิ่งที่กิ้งก่าชราพูดก็ส่งกลับไปหาสิ่งเดียวกันในค่ำนั้น ทุกสิ่ง”
“ฉันบอกคุณว่ามีอะไรน่าสยดสยองในนั้น” ป้าตะเคียนกล่าว
ดังนั้นวันถัดมา โกลดีจึงพูดถึงโลกและพระเจ้าผู้มีชีวิตอีกครั้ง
“โกลดี คุณยังมีชีวิตอีกหลายปี และเมื่อคุณมีประสบการณ์ คุณจะพูดว่าฉันพูดถูก คุณมีชีวิตอยู่ที่นี่อย่างสะดวกสบายและมันไม่คุ้มค่าที่จะเสี่ยงออกไป”
แต่เธอรู้ดีและว่ายน้ำไปตามขอบบ่อ ผ่านกิ่งก้านและใบไม้ ว่ายสูง ว่ายต่ำ จนวันหนึ่งเธอพบฝั่งบ่อที่ไม่มีต้นกิ่งและหญ้าเลย และตรงเหมือนกำแพง แล้วยังมีพื้นที่เปิดที่ปกคลุมไปด้วยดอกไม้สีแดง สีน้ำเงิน และสีม่วง รวมถึงต้นไม้ดอกสวยที่มีโรงเรือนและสวนพืช
ที่นี่เธอปรารถนาอย่างแรงกล้าว่าปลาในบ่อจะได้มีความปรารถนาที่จะไปสุดขอบโลก กระโดดและกระโดดไปชั่วนิจนิรันดร์ โกลดีนั่งอยู่ที่นั่นเหมือนปลานอกน้ำ และกระโดดออกจากบ่อขึ้นไปจนเธอนั่งอยู่ที่ขอบบ่อนได้เต็มที่และตอนนี้เธออยู่ในที่ที่ไม่มีทั้งกิ่งไม้หรืออ้อ แต่มีตะกร้าดอกไม้หนาขนาดที่ตั้งเรียบร้อยและเหมาะเจาะนั่นเอง