ต้นไม้แห่งความเมตตา

ในป่ากว้างใหญ่สีเขียวที่เปล่งประกายด้วยแสงแห่งความสุข มีคิชิ โคอะล่าตัวน้อยอาศัยอยู่ ฤดูใบไม้ผลิมาถึงแล้ว ซึ่งเป็นฤดูที่มีความสุขที่สุดในปี ดอกไม้เล็กๆ เริ่มโผล่ขึ้นจากหญ้าเขียวขุ่น และมีนกสีฟ้าและทองที่บินไปมาระหว่างกิ่งไม้ พูดคุยกันเกี่ยวกับลูกๆ ของพวกมันที่ยังไม่เกิดมา

ทุกอย่างมีความสุขยกเว้นคิชิ โคอะล่า ดูเธอนั่งอยู่ในซอกต้นไม้ โดยมีอุ้งเท้าตัวน้อยยื่นออกไปเหมือนกับพูดว่า “ใครก็ตามที่เดินผ่านมา ขอให้หยุดฟังสิ่งที่อยู่ในใจของฉัน” หากคุณสามารถเห็นสีหน้าของเธอได้ คุณจะรู้ว่าเธอรู้สึกเศร้าใจมากจริงๆ

“โลกนี้เต็มไปด้วยความสุข” เธอกล่าว “และฉันรู้สึกตัวเล็กและโดดเดี่ยวมาก ฉันคิดถึงตอนที่พ่อค้นพบความลับในการทำเสื้อผ้าสีสันสวยๆ ของฉัน ตอนนั้นไม่มีตัวเล็กๆ ทั้งนั้น ทุกๆ ตัวที่เกิดใหม่ที่กระสับกระส่ายและเด็กทารกที่มีแก้มแดงและเด็กสนุกสนาน ทุกคนที่ฉันรักในโลกอันกว้างใหญ่ต่างเกิดขึ้นหลังจากนั้น และตอนนี้ผู้ใหญ่ทั้งหลายได้หายไปแล้ว และฉันรู้สึกเหมือนกับตอนที่ต้นไม้อื่น ๆ สูญเสียใจไป นกดูเหมือนจะพูดว่า ‘จงทำเพื่อคนอื่นเมื่อทำได้’ แต่ฉันจะทำได้อย่างไรในเมื่อไม่มีอะไรให้ทำ? โอ้ ที่รัก ฉันอยากจะเป็นต้นไม้สีเทาอีกครั้ง! ฉันจะได้มีความสุขในการเห็นพวกเขาทั้งหมดเติบโตขึ้น หากฉันมีเพียงลำต้นจุดเดียว ฉันจะรู้สึกเหมือนอยู่บ้านท่ามกลางพวกเขา แค่เหมือนกับเป็นลูกของพวกเขากลับมาหา พวกช้างสีเหลืองคงเดินเล่นใต้กิ่งของฉัน มดแดงจะปีนขึ้นไป ผีเสื้อที่สนุกสนานจะบินไปมาใกล้เท้าของฉัน และจิ้งจกสีเหลือง-น้ำเงินจะพาตัวเองมาเล่นภายใต้เงาของฉัน โอ้ นั่นคือความสุขของชีวิตฉัน! ไม่มีอะไรอื่นนอกจากนั้น! โลกนี้曾经เต็มไปด้วยมิตรของฉัน แต่ตอนนี้มันหายไปตลอดกาล และฉันรู้สึกตัวเล็กและโดดเดี่ยวมาก!”

ในเวลานี้น้ำตาของเธอได้ไหลเต็มตาและไหลลงไปที่ปากสีชมพูเล็กๆ ของเธอ ขณะที่เธอพยายามจะเช็ดน้ำตา อุ้งเท้านุ่มๆ ของเธอก็เริ่มรู้สึกหยาบกร้านที่ขอบตาของเธอ และดวงตาเหล่านั้นเคยมีความงดงามที่ยิ่งใหญ่—ถ้าเพียงจะให้ได้นำสีทองมาแกะสลักไว้! พวกมันไม่จำเป็นต้อง “เป็นประกายหรือมีหมอก” เพื่อจะงดงาม ความงามนั้นหมดไปเมื่อเธอไปบดบังอุ้งเท้าขนของเธอเข้ากับดวงตาและขยี้น้ำตาออกไป เป็นความจริงว่าความสว่างของดวงตาและความไม่ต้องการของชีวิตที่ผสมกันได้แสดงถึงสิ่งที่งุ่มง่ามอยู่ในตัวเธอ แต่ว่าตอนนี้ฉันคิดว่าเวลามาถึงแล้วที่จะบอกคุณว่า น้ำตาของคิชิ โคอะล่านั้น

น้ำตามของคิชิโคอะล่าหรือ “น้ำนมสี” อันอ่อนโยนในชีวิตที่มารวมตัวกันในดวงตาของมนุษย์เมื่อร้องไห้—มีความเมตตากว่าความร้อนของแสงแดดที่อบอุ่น มีความเมตตากว่าลำธารที่ไหลไปเหนือ แค่ความยิ้มของใครซักคนทั้งมีลิ้นหรือมีตัว! คิชิ โคอะล่าที่ดีปล่อยน้ำตาออกมาเพื่อรดเมล็ดของต้นไม้ต้นหนึ่งที่เติบโตที่ไม่มีใครรู้ว่าอยู่ที่ไหน ทำให้รู้จักเพียงแต่ในหมู่นกในแถบนั้น และFather Time และคิชิ โคอะล่า นี่คือความลับพิเศษของคิชิ โคอะล่า เหมือนกับเลือดหรือน้ำหล่อลื่นในอารมณ์ของคุณเป็นความลับที่เป็นของคุณคนเดียว คุณอาจจะมั่นใจได้ว่าหากคิชิ โคอะล่ารอดชีวิตจากชะตากรรมของเผ่าพันธุ์ของเธอ ความลับนี้จะถูกส่งต่อไปยังเด็กซึ่งมีแนวโน้มว่าจะสืบทอดมาจากคิชิ โคอะล่า ความลับนั้นคือ น้ำตามของเธอมีความเมตตากว่าความอบอุ่นของแสงแดดที่ใต้ ถิ่นใต้ มีความเมตตากว่าลำธารที่ไหลไปเหนือ มีความเมตตากว่าชายหญิงที่มีลิ้นหรือมีตัว!

และถ้าคิชิ โคอะล่าสามารถเห็นสิ่งที่เติบโตจากน้ำตาที่เหมือนน้ำหยดเหล่านั้น เธอจะพูดว่า: “ฉันช่างโง่เขลาที่ได้! มีสิ่งมีชีวิตที่มีความเมตตาในโลกนี้ที่ไม่อยู่บนสี่ขา! ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันจะไม่มีวันตาย เพราะนกเหล่านั้นจะถูกฝังอยู่ในใจของฉัน ความเขียวที่อ่อนโยนที่สุดที่เคยมีจะเติบโตทั่วตัวฉันจนกว่าจะถึงวันสิ้นสุด!”

นำต้นไม้นั้นออกเป็นชิ้น ๆ ตั้งแต่เปลือกไปจนถึงน้ำยางและไข่ที่เปล่งประกายและน้ำหอมที่น่าสบาย ทุกสิ่งที่จำเป็นคือการให้อย่างอ่อนโยนแห่งความมีน้ำใจ—แล้วคุณจะได้ต้นไม้แห่งความเมตตานี้ ซึ่งฉันได้เขียนบทกลอนเล็ก ๆ เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่ยากจนที่ต้องการความเมตตาในสภาวะที่ไม่ดีในช่วงสุริยุปราคาอันยิ่งใหญ่ที่เคยเกิดขึ้นที่ประตูหลังของฉัน

“เราไม่รู้จะหันไปทางไหนเพื่อค้นหาต้นไม้ที่มีเปลือกแข็งมาก พวกมันเต็มไปด้วยเลือดที่ละเอียดอ่อนมากมายและการพึ่งพา และอีกอย่าง—ความเมตตาทั้งหมด! แต่อดีตเพื่อนบ้านของเรา โคอะล่า กำลังเรียนรู้มากขึ้น เหมือนกับสุนัขของเรา เอาล่ะ ทั้งหมดที่เรารู้สึกคือความปราถนาที่ยิ่งใหญ่”

English 中文简体 中文繁體 Français Italiano 日本語 한국인 Polski Русский แบบไทย