การเดินทางของเบนนี่ผึ้ง

วันหนึ่ง เบนนี่ผึ้งตัดสินใจว่าเขาถึงเวลาที่จะต้องเก็บเนกเตอร์และทำน้ำผึ้ง เขาชอบเสียงของมัน แต่ก็รู้สึกกังวลว่ามันจะยากเกินไป เขายังเป็นผึ้งตัวน้อยอยู่ดี และมีผึ้งที่เก่งกว่ามากมายที่จะสามารถเก็บเนกเตอร์และผลิตน้ำผึ้งได้ดีกว่าเขา แต่เบนนี่ก็แน่วแน่

“ฉันจะลองดู” เขาคิด “และถ้ามันยากเกินไปและฉันล้มเหลว ก็อย่างน้อยฉันก็ได้ลองทำ” และดังนั้นเขาจึงออกเดินทางไปพร้อมกับตะกร้าขนาดเล็กและขาของเขาที่น้อยนิด หวังที่จะเก็บเนกเตอร์สักหน่อย เขาบินผ่านกุหลาบสวยๆ เพราะคิดว่าพวกมันคงไม่มีอะไรจะให้เขา เขาบินผ่านเดซี่ ไวโอเล็ต และดอกไม้ต่าง ๆ จนในที่สุด เขาก็มาถึงสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยโคลเวอร์ที่เบ่งบาน

เบนนี่ยังไม่รู้เกี่ยวกับโคลเวอร์มากนัก ดังนั้นเขาจึงลงไปดู “สวัสดี! สวัสดี!” เสียงเล็ก ๆ สองเสียงพูด ซึ่งเป็นเสียงของผึ้งสาวน้อยที่นั่งอยู่บนโคลเวอร์

“รอสักครู่นะ” เบนนี่พูดด้วยความสุภาพ “ฉันแค่จะไปดูว่าเนกเตอร์มีอะไรบ้าง”

และเขาก็ลงไปพบกับน้ำผึ้งจำนวนมากหลับใหลอยู่ในถ้วยโคลเวอร์ เขาบินกลับขึ้นไปหามิตรของเขาอีกครั้งและบอกเธอว่าเธอรู้สึกโง่แค่ไหนที่ไม่ลองดู

“แต่ที่รัก” เพื่อนของเขากล่าว “เนกเตอร์อยู่ในเดซี่และในดอกไม้ทุกชนิดหากเธอรู้ว่าจะต้องมองที่ไหน แต่เธอต้องระวังนะ ผึ้งน้อย อย่าทำให้ปีกน้อยของเธอเมื่อยก่อนที่จะกลับบ้าน”

“ฉันจะไม่เหนื่อย” เบนนี่พูดและทำหน้าล้อเลียนใส่เธอ “ฉันยังมีเวลาอีกมาก ดังนั้น ลาก่อน” และเขาก็บินออกไปเก็บข้าวของเรื่อยไปจนมันเต็มไปหมด แล้วเขาคิดว่าควรจะหยุดพักสักสองสามนาที และบินขึ้นไปบนโคลเวอร์ที่เขาคาดหวังว่าจะพบเพื่อนของเขา

แต่เธอลืมเขาไปหมดแล้ว และตอนนี้เธอกำลังบินกลับบ้านเพื่อเอาไปมอบน้ำผึ้งในตะกร้าของเธอให้กับแม่ เพราะฉะนั้นเบนนี่เลยต้องอยู่ตัวคนเดียว

“ฉันจะทำอย่างไรดี?” เขาคิดและเริ่มร้องไห้น้ำตาผึ้งจริง ๆ “และตอนนี้” เขาคิด “ตอนนี้ฉันสามารถบินกลับบ้าน”

“ไม่, นายไม่สามารถ” เสียงจากทุ่งหญ้าสูงใต้พูด และเบนนี่พบว่าตนเองมองไม่เห็น เพราะมีเสียงอื้ออึงและหึ่งของปีกเล็ก ๆ อื่น ๆ มากมายตรงหน้าเขา และมีหนึ่งเสียงที่เกือบจะทำให้เขาลื่นจากดอกไม้ที่เขาพักอยู่ จนเบนนี่คิดว่าเขามีอะไรจะทำมากพอตามที่เคยเห็นอยู่แล้วโดยไม่ต้องเข้าไปยุ่งกับคนอื่น แต่เบนนี่ลืมไปว่าเขาไม่มีบ้านของตนที่จะกลับไป และไม่น่าจะไปไหนได้ที่รังของพวกเขา

ดังนั้นเขาจึงบินกลับไปหามิตรของเขา ที่กำลังพยายามบินผ่านโคลเวอร์ให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเบนนี่ก็ขอให้เธอบอกแม่และพยาบาลเกี่ยวกับเขา และบอกว่าตนเองหลงทาง อันนี้ทำให้เบนนี่รู้จักเธอมากยิ่งขึ้น และเธอก็รู้สึกเสียใจอย่างมากที่เห็นเขาอยู่แบบนี้

แต่เธอก็บอกว่าโคลเวอร์ทั้งหมดนั้นเต็มไปด้วยละอองเกสร และเมื่อเธอบินไปที่อีกด้าน ก็พบมอดและดอกเดซี่ใหญ่ ๆ ที่นั่น เพราะเธอจึงได้เก็บของที่เหลือจากพวกเขา มอดและดอกมันฝรั่งเกลียดผึ้งตั้งแต่เมื่อพวกเขาได้ยินข่าวร้าย คุณรู้ไหม ว่าใครก็ตามที่มีครีมเมื่อเธอถาม แต่เมื่อถึงเวลานอน และผึ้งเยาวชนเดินอยู่ในหลาย ๆ ส่วน เธอก็เรียกออกมาว่า “ฉันบอกเธอว่าถุงของนายเป็นยังไง เบนนี่? นายน่าจะได้ทำสิ่งที่ดีด้วยไหม?”

“ฉันไม่เคยเห็นถุงหนักขนาดนี้ในชีวิตของฉันเลย” น้องชายของเธอพูด ซึ่งเป็นผึ้งที่ฉลาดมาก “มันหนักมากจนเมื่อแม่เปิดมันและมองเข้าไป มันยังติดอยู่ด้วยน้ำผึ้งเหนียว และเจ้าตัวน้อยก็หลุดออกมาที่ใบหน้าสีน้ำตาลของแม่และติดอยู่ที่นั่น ฉันอยากเห็นมันจริง ๆ แต่คุณจะคิดอย่างไร? ฉันได้ออกไปก่อน เพราะฉันรีบเกินไปที่จะไปโคลเวอร์ ดังนั้นคุณสามารถบอกเขาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่รัก เพราะฉันไม่ได้ช่วยเขา”

เอาล่ะ กลับไปที่เบนนี่ เมื่อเพื่อนของเขาเล่าให้เขาฟังทุกอย่างที่เกิดขึ้น คืนวันถัดมาที่เขาได้ยินนั้น เขารู้สึกซาบซึ้งในความกุศลที่ได้รับ และเมื่อเขาบอกกับใครสักคนเกี่ยวกับสิ่งที่เขาทำ ก็มีปู่เบี้ยนั่งอยู่ในที่ประชุมลับ ที่สามารถทำให้ทุกอย่างเป็นจริงได้ และเขาได้บอกเพื่อนของเขามากหรือน้อย

“โอ้ แต่ฉันแค่อยากกลับบ้าน” เบนนี่ตัวน้อยพูด “แต่ถ้าฉันจะทำให้พ่อหรือแม่ของฉันสูญหาย?” และเขาบอกเธอเกี่ยวกับความรักที่หายไปของเขา คุณจะรู้ไหม ว่าเขาถูกฝากไว้บนพุ่มไม้ที่เขาต้องการไป

“มันช่างโง่เขลาเหลือเกิน” เขาพูด “ที่ฉันอยากจะไปคนเดียวในครั้งแรกนี้ อืม! ครั้งต่อไปฉันจะบินไปกับพี่น้องและน้องสาวของฉัน เพราะจะมีถุงเกือบเต็มหลายถุงที่จะให้ฉัน และมันจะไม่เหนื่อยเลย”

นี่เป็นการลงโทษที่บอกถึงการทำใจดีสู้คน ที่เป็นไปไม่ได้ในชีวิต แต่จงจำไว้อย่างเสมอ เด็ก ๆ ที่รัก ผึ้งก็ทำมัน และนั่นคือเหตุผลที่ฉันบอกคุณ คุณจำได้ไหม?

English 中文简体 中文繁體 Français Italiano 日本語 한국인 Polski Русский แบบไทย