เมื่อใบไม้เปลี่ยนเป็นสีทองและอากาศเริ่มเย็น เบนนี่หมียุ่งอยู่กับการเก็บเบอร์รี่ในใจกลางป่ากระซิบ ขณะนั่งดึงดูดภาพงานเลี้ยงที่เขาจะมี เขาเดินลึกเข้าไปในป่า ลืมไปว่าสิ่งที่เขาเดินไปไกลแค่ไหน จนกระทั่งเขาตระหนักว่าถึงเวลาแล้วที่จะกลับบ้าน เขาก็สังเกตเห็นว่าเขาหลงทาง
“อืมมม,” ท้องของเบนนี่ร้อง ทำให้เขารู้สึกว่าหลงทางและมีความกลัวนิดหน่อย ป่าที่เคยตื่นเต้น ตอนนี้กลับกลายเป็นมืดและพิศวง เขาจึงเริ่มตะโกนเรียก “ริกกี้! ลีล่า! ทอมมี่!”
เมื่อเพื่อนของเขาได้ยินเสียงเรียก ริกกี้กระต่ายรู้ว่าเขาคงต้องการพวกเขา ริกกี้นำทางไปอย่างรวดเร็ว หูของเขากระดิกไปมา ข้างหลังเขาคือลีล่าแลบลิซาร์ด หางของเธอกระทบพื้น ทำให้มีจังหวะดนตรีในระหว่างการเดินทางของพวกเขา ทอมมี่เต่าเดินตามมาอย่างช้าๆ แต่มั่นคง พร้อมที่จะแสดงบทบาทของเขาไม่ว่านานเท่าไหร่
พวกเขาตรวจสอบทุกเส้นทางและสำรวจทุกซอกทุกมุมของป่า แต่ก็ยังไม่มีเบนนี่
“ฉันรู้แล้ว,” ริกกี้กล่าว ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยความคิด “ทำไมเราไม่ทำเสียงให้เขารู้ว่าเราอยู่ที่ไหน? เมื่อฉันยังเป็นกระต่ายตัวน้อย แม่ของฉันบอกว่าสเสียงดังทำให้คนอื่นเข้ามาใกล้เรา”
เพื่อนๆ ของเขาพยักหน้า ยอมรับแผนสุดฉลาดนี้ ริกกี้เริ่มเหยียบเท้าและตบพื้นในขณะที่ลีล่ากระซิบและขับร้อง และทอมมี่เป่าลมใส่เปลือกหอยขนาดใหญ่ที่เขาพบ แต่ก็ยังไม่มีเบนนี่
พวกเขาพักเบรกเพื่อดื่มน้ำจากลำธารที่มีน้ำใสและเย็น ทุกคนแบ่งการเก็บน้ำใสๆใส่ใบไม้และเทใส่ก้อนหินที่กลวงจนเก็บได้พอใช้
ทันใดนั้น พวกเขาก็ได้ยินเสียงกรอบแกรบในต้นไม้ มันคือตัวเบนนี่ที่เกือบจะระเบิดด้วยความดีใจและโล่งใจเมื่อเห็นเพื่อนๆ ของเขา “โอ้ ฉันคิดถึงพวกเธอมาก! ฉันกลัวว่าพวกเธอจะลืมฉัน!” เขากล่าว
“เราจะไม่มีวันลืมเบนนี่เพื่อนที่ดีของเรา” ลีล่ากล่าว
“เห็นไหม เบนนี่ เรากำลังทำเสียงเพื่อบอกให้คุณรู้ว่าเราอยู่ที่ไหน” ริกกี้พูดขณะที่เขาดื่มจากถ้วยใบไม้
“แล้วตอนนี้เรากลับบ้านกันเถอะ” ทอมมี่เพิ่ม “และอย่าไปเดินเล่นห่างจากเพื่อนอีกเลย จำไว้ว่าการอยู่ด้วยกันนั้นดีที่สุดเสมอ!”
ดังนั้น ด้วยหัวใจที่เบาและมีความสุข พวกเขาทั้งหมดจึงวิ่งกลับผ่านป่าและออกไปอีกด้านหนึ่ง ซึ่งพวกเขารู้สึกขอบคุณสำหรับเพื่อนที่ดีและการมีอยู่ร่วมกัน
การเชื่อใจเพื่อนของคุณสามารถนำไปสู่ผลลัพธ์ที่น่ามหัศจรรย์