เป็นวันแดดสวย และฉันอยากทำอย่างอื่นนอกจากเล่นข้างนอก ฉันบอกแม่ว่าฉันจะออกไปผจญภัย และฉันก็ออกไป! ฉันพบทางเดินในป่าที่อยู่ใกล้บ้านของฉัน และมันนำฉันไปสู่ความประหลาดใจที่ใหญ่ที่สุด: ฉันพบสนามเด็กเล่นเก่า!
สนามเด็กเล่นนี้มีชิงช้าที่เต็มไปด้วยฝุ่นและดูเหมือนจะไม่ได้ถูกใช้มานานนับปี ม้าหมุนที่มีนกเกาะอยู่ราวกับว่ามันคือม้านั่งส่วนตัวของพวกมัน และเครื่องเล่นหมุนที่มีหญ้างอกขึ้นมาผ่านมัน อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครมาที่นี่เพื่อเล่น และทุกอย่างดูเก่าและเศร้า “ฉันจะทำอย่างไรก็ได้ให้พวกเขาเล่นกันอีกครั้ง?” ฉันพูดกับตัวเอง
ทันทีที่ฉันเดินเข้าไปในสนามเด็กเล่นและวางเท้าของฉันบนม้าหมุน เกิดสิ่งที่น่าอัศจรรย์ขึ้น มีแสงวาบ ชิงช้าเริ่มเอี๊ยดอ๊าด และทุกอย่างเริ่มมีชีวิต! ชิงช้าโยกไปมาเอง สไลเดอร์เปล่งประกายใต้แสงแดด และม้าหมุนก็โยกขึ้นลงโดยไม่ต้องมีใครอยู่บนมัน
“ใครอยู่ที่นี่?” ฉันตะโกนออกไป ไม่มีใครตอบ แต่เครื่องเล่นทุกตัวกำลังยิ้มให้ฉัน “ฉันคิดว่าพวกเขากำลังบอกว่า ‘มาเล่นกับเราซิ!’” หัวใจของฉันเต็มไปด้วยความสุข ฉันกระโดดขึ้นไปบนชิงช้าและเริ่มแกว่งสูงขึ้น สูงขึ้น ฉันไปถึงสูงจนรู้สึกเหมือนสามารถสัมผัสกับเมฆได้! “ดีใจจัง!” ฉันตะโกน จากนั้นฉันก็ไถลลงมาตามสไลเดอร์ กระโดดข้ามขอบและ land ลงในกองใบไม้ราวกับมันเป็นหมอนนุ่มใหญ่ ขณะที่ม้าหมุนหมุนไปรอบ ๆ อย่างรวดเร็วจนเกือบจะถือไม่อยู่!
ทันใดนั้น ฉันได้ยินเสียงพูดว่า “ใครอยู่ที่นั่น?” มันเป็นเสียงที่ฟังแปลก ๆ แต่ฉันรู้ทันทีว่ามันคือเกร็ก เพื่อนซี้ของฉัน! “ตอนนี้การผจญภัยของฉันสามารถเริ่มต้นขึ้นได้จริง ๆ!” ฉันหัวเราะ เมื่อเกร็กมาที่นี่ ทุกอย่างก็หยุดนิ่งอีกครั้ง “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?” เกร็กถามด้วยตาที่กว้าง
“ฉันไม่รู้” ฉันตอบ “แต่ฉันอยากให้เธอเห็นสิ่งนี้!” ฉันแสดงให้เขาเห็นว่าทุกอย่างกลับมีชีวิตชีวาอีกครั้ง แต่ทว่ามันใช้ได้แค่ตอนที่ฉันเล่นคนเดียว “ทำไมเราไม่รอดูจนกว่าคนอื่นจะมา?” เกร็กถาม “ดีมาก!” ฉันตอบ “มาเรียกทุกคนกันเถอะ”
เมื่อทุกคนมาถึง เราทุกคนพยายามเล่นพร้อมกัน แต่สนามเด็กเล่นเก่าที่น่าสงสารนี้ไม่เคยชินกับความตื่นเต้นขนาดนี้ มันเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด และชิงช้าโยกไปมาแม้ว่าไม่มีใครอยู่ใช้งาน! “ฉันคิดว่าเราอาจทำให้มันเจ็บ” ซาร่ากล่าว และฉันรู้สึกเศร้า “มันมีชีวิตขึ้นมาเพียงเพื่อเธอ” เธอกล่าวต่อ “บางทีมันแค่อยากให้เธอเล่นอยู่คนเดียว”
ฉันพยายามแกว่งอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ดูเหมือนมันจะไม่ค่อยมีความสุข แต่อย่างไรก็ตาม ฝนก็ตกหนักขึ้น และเราทุกคนก็วิ่งกลับบ้าน “การผจญภัยของเราจบลงแล้ว” ฉันคิด “และไม่มีสนามเด็กเล่นให้เล่นอีกต่อไป”
วันถัดมา ฉันรู้สึกเห็นใจสนามเด็กเล่นนี้มากขึ้น ฉันบอกเพื่อน ๆ ว่าเราควรกลับไปดูกันว่าเป็นอย่างไร และพอฉันวางเท้าบนม้าหมุนสนิมอีกครั้ง ทุกอย่างก็เริ่มเสียงดังก้องด้วยความยินดี มันดูสวยงามมากขึ้นในแสงแดด และนกทั้งหมดต่างก็กำลังขับขานเพลงโปรดของมัน “ฉันคิดว่ามันรู้สึกดีใจที่ได้เห็นพวกเราอีกครั้ง” เกร็กกล่าว “และตอนนี้มันต้องการเล่นแล้ว!”
ในวันถัด ๆ มา เรากลับมาที่นี่เพื่อเล่นกันทุกคน ม้าหมุนยังหมุนได้รวดเร็วจนทำให้เราต้องจับมือกันหมุนไปรอบ ๆ จนกลายเป็นม้าหมุนใหญ่ ก่อนที่เราจะรู้ตัว สนามเด็กเล่นเก่าก็ดูมีความสุขมากจริง ๆ เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและเด็ก ๆ อื่น ๆ
ฉันจะบอกให้คุณรู้ว่าเด็ก ๆ ไม่ใช่เพียงผู้เดียวที่ชอบเล่น ฉันเห็นหญ้าที่ยิ้มในขณะที่เราวิ่งอยู่ และผีเสื้อทั้งหมดกำลังเต้นรำอย่างมีความสุข หน้าร้อนนั้นเป็นฤดูกาลที่มีความสุขที่สุดสำหรับสนามเด็กเล่นทั้งหมด และเราทุกคนสาบานว่าจะให้มันอยู่ตลอดไป
แต่จงจำไว้ว่าหน้าร้อนไม่ได้อยู่ตลอดไป; และไม่นานก็ถึงฤดูฝนที่แปลกประหลาดที่เรารู้จักกันดี ซึ่งเราไม่เคยได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอก ฉันรู้สึกเสียใจมากสำหรับสนามเด็กเล่นที่ไม่มีใครเหลือให้เล่นที่นั่นอีกต่อไป; และเช้าวันหนึ่ง ฉันตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมมัน เมื่อฉันเดินไปตามทางเก่าและเห็นเพื่อนที่รักของฉัน ดำดิ่งและเศร้าเหมือนเดิม น้ำตาฉันก็ไหลออกมา ฉันไปนั่งบนชิงช้าหลังจากนั้นทุกเครื่องเล่นก็กระโดดด้วยความสุข
ไม่รู้สึกสุขแบบนั้น ฉันคิดว่าเพื่อน ๆ ก็ต้องรู้สึกเหงาเช่นกัน; ดังนั้นฉันจึงกลับบ้านทันทีและพาสะใภ้และลูกพี่ลูกน้องของฉันมาที่นี่ ฉันบอกพวกเขาว่า “สนามเด็กเล่นนี้เป็นของเรา เราต้องกลับมาที่นี่ทุกวันเพื่อเล่น เพื่อช่วยทำให้มันมีชีวิตอยู่ตลอดไป” ทุกคนดูเหมือนพอใจมากกับความคิดนี้ ยกเว้นไจมี่ที่แค่ยักไหล่เล็กน้อยและไม่พูดอะไร
ในขณะที่เราเล่นกันอยู่นั้น ฉันพยายามอย่างยิ่งที่จะอธิบายความคิดของฉันให้เขาเข้าใจ จนทำให้เท้าของฉันได้รับบาดเจ็บ ฉันกระโดดขึ้นร้องออกมา; และเมื่อไม่มีใครในกลุ่มที่กระโดดและวิ่งอยู่นั้นสนใจหรือตอบสนองต่อสิ่งที่ฉันพูด ฉันพยายามอธิบายความคิดของฉันให้กับสนามเด็กเล่นเอง—วิ่งเล่น, เลื่อน, และทุกวิธีที่ฉันพยายามแสดงให้มันเห็น จนกระทั่งฉันเหนื่อยและล้มลงอย่างหมดแรงและสูญเสียเวลามากกว่าหนึ่งหรือสองนาที
แต่สนามเด็กเล่นที่น่ารักนี้ไม่เหมือนหนึ่งในที่เรา Stockwell Gardens มีแค่สไลเดอร์และชิงช้า คุณรู้ใช่ไหม มันมีจิตใจเป็นของตัวเองและทำให้ทุกอย่างเล่นได้อย่างชาญฉลาดจนเมื่อในที่สุดมันปล่อยให้ฉันหลุดออกไป ในช่วงเวลาเกือบมากกว่าสามสิบวินาทีไม่มีสิ่งใดที่สามารถเห็นได้รอบม้าหมุนเว้นแต่ชายผ้าขาวขนาดใหญ่ที่เย็บเข้ากับกางเกงของฉันและเสื้อที่ซ่อมแซมอย่างดีที่ฉันสวมอยู่ คุณเข้าใจไหม? ม้าหมุนนี้เหมือนกับเครื่องเล่นอื่น ๆ ตอนนี้ไม่เพียงมีล้อที่หมุนอย่างรวดเร็ว แต่มันยังประดับประดาด้วยธงและสีที่คุณนึกออกและดูเหมือนเป็นซากเรือล่มญี่ปุ่นมากกว่ายี่สิบนาที
ฉันคิดว่าทุกอย่างสงบลงแล้ว และพยายามนั่งขึ้นอธิบายทั้งเรื่องให้เด็กคนอื่น ๆ เมื่อถ้าคุณจะเชื่อ,พวกเขาคิดว่าฉันถูกพัดขึ้นกลางมหาสมุทรโดยพายุไซโคลน และทันใดนั้นก็กอดฉันอย่างแน่นจนฉันคิดว่าอีกวินาทีสองวินาทีข้างหน้าจะระเบิด นั่นเด็กชายทรงผมตรงคนหนึ่งที่ชื่อไจมี่ เป็นคนเดียวที่ยืนอยู่ โดยเฉพาะฉันทำให้ดีที่สุดที่จะอธิบายให้เขาเข้าใจ และดีใจที่พบว่าเขาสบายดี—ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
พายุยังคงโหมกระหน่ำในตอนนี้ และทวีความรุนแรงขึ้นทุกชั่วโมง สิ่งที่อยู่รอบตัวเราเต็มไปด้วยวัตถุที่หมุนวนอย่างรุนแรงรอบสนาม และชวนให้เกิดฝันร้ายที่น่ากลัวที่เพื่อนแต่ละคนดูเหมือนจะกลายเป็นพัสดุสุดน่ารัก รวมถึงชายหลายนายที่ดูวิตกกังวลซึ่งถือผ้าห่มอุ่น ๆ และผ้านวมพูดว่าเราปลอดภัยจากพายุไซโคลน และเสนออะไรก็ตามจากขวดที่ไม่มีใครรู้จักอีกด้วย
“แต่มันมาได้อย่างไรจากซากที่เรากำลังเห็นอยู่ข้างหน้า หรือที่ฉันควรจะพูดว่าสิ่งรอบตัวที่ซากเหล่านั้นมาจากไหน?” ฉันถามพวกเขาอย่างแข็งขัน
“ทำไม คุณจะคิดว่าอย่างไร? ที่สวน Stockwell หรือ Alexandra Palace? คุณไม่เห็นหรือ? ที่นี่คือสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าเป็นม้าหมุนที่ยิ่งใหญ่ ดีที่สุดและเลวร้ายที่สุด ขอให้คุณจำไว้อีกครั้งว่าไม่มีล้อไหนที่หมุนทั้งนั้น และเรามีการแสดงของมันหรือครึ่งหนึ่ง! ไม่ ไม่! ขอให้คุณบอกว่าเราอยู่ที่ไหน?”
“ที่สวน Stockwell หรือ Alexandra Palace? แต่ธงและท่านที่มีขวดในมือ?” อย่างน้อยพวกผู้หญิงที่อยู่ใกล้กันนั้น ฉันดีใจที่สามารถรู้สึกน้ำตาซึมสูงด้วยความยินดี
“สำหรับธงที่ท่านพูด สนามเด็กเล่นของเราขับขานแค่ชุดธงแรกที่เป็นเอกลักษณ์จากต้นจนจบโดยไม่หยุดแม้แต่น้อย เพราะมันมีน้ำหนักที่ผิดข้าง ซึ่งสร้างเรื่องราวสองส่วน”
จากนั้นฉันก็รู้ว่าพวกเรากำลังพลิกกลับและถูกขว้างขึ้นจากม้าหมุนสนามเด็กเล่น โดยทั่วๆ ไปทั้งวันทุกเวลา จากตอนกลางวัน แต่ไม่ขยับเหมือนว่ามีเพียงสองดอกไม้เหมือนที่ถูกนิทานตำนานกล่าวไว้มีใบไม้ที่คลุ้มคลั่งที่ทะเลและโลก
เหมือนที่เกิดขึ้นเสมอ ฉันกับดอกไม้ตัวน้อยของฉันไม่ได้รู้สึกอะไรจากการหมุน! แต่ว้าว ดีใจจริง ๆ ครับ ฉันไม่เคยรู้สึกหมุนแบบนี้! อาจจะรู้สึกไม่ใช่เพียงแต่ความเจ็บปวดแต่ก็เป็นความรู้สึกแปลก ๆ หมุนรอบหัวเล็ก ๆ ของฉัน รู้สึกแน่ใจว่าเราจะกลับไปอีกครั้งอย่างที่ควรจะเป็น: หากเพียงเราสามารถมีชีวิตอยู่ที่นี่อีกครั้งให้ทันก่อนที่วันและคืน—ไฟค้นหาเช่นกันกำลังสงบลง!
วันและคืนเริ่มหมุนจากทิศตะวันออกไปตะวันตก—ซึ่งเรากลับมาเป็นเหมือนฝันที่สวยงามราวกับฝันอันรักยิ่งเต็มไปหมดจนกระทั่งนัดนั้นถูกเติมเต็ม
เราไม่มีร่มที, แต่น้อยนิดเราทุกคนโด้ได้ตั้งใจรับน้ำฝนให้ลงต่ำได้ขณะที่แดดก็อุ่นอยู่ข้างออบอย่างราบรื่น แต่อย่าลืมม้าหมุน, ที่มีความสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด
ฉันจะไม่ขยายหรือบอกเล่าเรื่องราวของทุกช่วงเวลาของฉันในช่วงเวลาสั้น ๆ นี้; และฉันจะไม่ลืมว่า สนามเด็กเล่นของเรา - ม้าหมุนสนามเด็กเล่น - ที่อาจรู้สึกในขณะนี้ ถูกพันกันยิ่งกว่าคนอื่น ในครอบครัวต่อครอบครัว หรือแป้งแทนที่จะถูกจัดระบบอย่างทั่วไปรายการทั่วโลก โดยการพบทุ่งหญ้า
ในที่สุดฉันก็เห็นว่าในกอไม้กีบแห่งนี้มีอ่างสบายให้ที่นั่งอยู่รอบข้างด้วยกิ่งไม้เก่า พร้อมทั้งมีหญ้าที่ต้องปีนขึ้นไปสูงบนที่ตั้งดังนั้นจึงดีกว่านั่งอยู่ในท้องฟ้า ถ้าไม่แล้วนั่งบนท้องฟ้าเหนือหรือที่นั่งที่นุ่มนวลดั่งหมอน แต่มันอาจจะเย้าหมายกลางวัน ไม่การันตีให้กับสัตว์อื่น ๆ
หลายครั้งที่เรายังได้เติบโตเมื่อไร้ชีวิตจิตใจสิ่งรอบตัว การขยับเข้าใจดีเราบอกกันครั้งแล้วครั้งเล่าเซิร์ฟเวอร์เพียงรอบเดียวหรืออยู่บ่อยใดในสามารถหาคนอาศัยอยู่ในกระบัวฮัมบูร์กหรือไม่?
ประตูในเช้าวันข้างจะเผยแพร่สัญญาณจะบอก ฉันจะกลับไปได้ไหม? เกิดขึ้นหลายร้อยครั้ง?
มิฉะนั้น แม้ว่าวิธีการที่จะพูดกล่าวความรักยังเป็นหมด ทุกคนต้องการภาวนาเป็นเสียงนิดๆ ที่กระซิบศูนย์กลางด้วยนะ ในขณะที่บ่งบอกปัญหาพอพอดีที่เซฟอยู่กับเหล่าผู้เสี่ยงภัยокат
เสียงธนาคารจำนวนมากที่ภูมิประเทศมอบเงินเท่าที่รักเพียงแต่ไม่อารมณ์แม้แต่เล็กน้อยให้เกิดสิ่งดีจะเริ่มพูดเรื่อยๆเป็นเล่มที่มีลูก เป็นผงมลทินใหญ่ที่ควรไว้ใจที่ไม่มีอย่างอื่นที่ขอมาช่วยต้นไม้มีความน่ากลัวที่ควรจะแยกเป็นเรื่องธรรมชาติ
เกิดเพิ่มการ์ดได้ไหม?