ในอ่าวที่เงียบสงบซึ่งมีแสงอาทิตย์อ่อน ๆ ส่องตามผมของเขา ฟินน์ชาวประมงยืนอยู่พร้อมกับเบ็ดของเขาที่พุ่งไปยังความลึก เขาหมกมุ่นอยู่ในความคิดในขณะกำลังเตรียมเหยื่อจนหญิงสาวตัวผอมที่มีดวงตาสีเข้มที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายเดินไปมาอยู่ที่ท่าเรืออาจจะผ่านไปหลายสิบครั้งโดยไม่ทำให้เขาสะดุ้ง เธอจ้องมองอยู่ที่น้ำ ขณะที่เธอต่อเนื่องใบสาหร่ายทะเลเข้ากับชุดของเธอ
“สวัสดีตอนเช้า ฟินน์ แมคคอย” เธอพูดในที่สุด “คุณจะไม่กล่าวสวัสดีตอนเช้ากับฉันหน่อยเหรอ?”
ฟินน์ยิ้มให้เธอด้วยความฝันลอย ระหว่างที่ความคิดของเขายังคงห่างไกล
“สวัสดีตอนเช้า เอลิซาเบธ” เขาพูดอย่างเฉื่อยชา จากนั้นเขาเสริมว่า “โอ้ ฉันเกลียดที่เห็นคุณ” เขากล่าว ขณะมองไปที่เหยื่อด้วยความสั่นสะเทือน “แต่ฉันคิดว่าฉันคงต้องใส่คุณแล้ว”
เขาใส่ดอกเดซี่ที่มีกลิ่นหอมลงบนเหยื่ออย่างระมัดระวัง ขณะที่เอลิซาเบธมองดูเขาด้วยความมุ่งมั่นและสงสัยบางอย่าง
“ฉันอยากรู้ว่าคุณเห็นอะไรที่ฉันเห็นหรือเปล่า?” เธอพูด
ฟินน์เงยหน้าขึ้นและเห็นทะเลสีน้ำเงินทรงพลัง ชายหาดสีทอง หินสีน้ำตาล และบ้านขาวเล็ก ๆ ที่มีดอกมะลิต้นเลื้อยอยู่ที่เฉลียง ขณะที่ใบหน้าที่มีความสุขของผู้คนที่เขารักมากที่สุดในโลกยิ้มออกมาจากหลังคา “ฉันเห็น” เขาตอบ “ที่สวยงามริมทะเล”
“ฉันเห็นพระราชวัง” เอลิซาเบธกล่าว ขณะเธอโค้งร่างเหนือขอบราว “ลองคิดดูแสงอาทิตย์ที่ส่องแสงบนบันไดหินอ่อนและทะเลที่คลื่นกระทบกับเสา”
เธอโยนดอกสาหร่ายลงไปในน้ำและพึมพำเพลงทะเลที่น่าเบื่อ
“บางครั้งฉันสงสัย” เธอพูด “ว่าปลาต่าง ๆ จะคิดว่าเรามาที่นี่เพื่อตามหาสวรรค์หรือไม่”
ฟินน์รู้สึกเบื่อหน่าย เขาเงยหน้าขึ้นอย่างว่างเปล่า “มันเป็นน้ำหยดระยิบระยับในแสงจันทร์ที่พวกมันตามหา” เขากล่าว “นางฟ้าชอบหยดน้ำในยามค่ำคืนจากต้นฮาเซล และปลาต่างก็มาไกลและใกล้เพื่อตามหาหยดน้ำ”
“ผู้ที่ใกล้สวรรค์ที่สุดย่อมจะมีหยดน้ำมากที่สุด” เอลิซาเบธกล่าวด้วยความรำพึง
ฟินน์รู้สึกเบื่อหน่าย “แต่ฉันต้องไปแล้ว” เธอกล่าว ขณะที่เธอวางมือของเธอลงที่ไหล่ของเขา
ฟินน์สะบัดมือของเธอออกอย่างยอมแพ้
“โปรดให้พระเจ้า” เขาพูดกับตัวเอง เพราะเขาคือชาวประมงที่มีความเชื่อมั่นมากที่สุดที่เคยมีมา “วันนี้ฉันจะจับปลา ที่ถ้าฉันปล่อยมันไป มันจะทำให้ทุกความปรารถนาของฉันเป็นจริง”
เขาหยุดชั่วขณะเหมือนอยู่ในภวังค์ “ฉันกลัวว่าความปรารถนาที่ฉันต้องทำให้จริงเป็นครั้งแรกจะเป็นการแต่งงานของฟินน์ แมคคอย และเอลิซาเบธ”
เขามองไปที่เอลิซาเบธด้วยความพึงพอใจและเธอก็มองไปที่ฟินน์ด้วยความพึงพอใจเช่นกัน จากนั้นพวกเขาก็เริ่มเดินไปด้วยกันอย่างเงียบ ๆ ตามชายหาดที่ลาดเอียง หยุดทุกนาทีหรือสองนาทีเพื่อโยนก้อนหินที่ซึ่งเปลือกหอยนิ่มเริ่มยื่นหัวออกมาจากกระแสน้ำที่ลดลง ทั้งคู่ดูไม่สนใจที่จะพูดคุย ทั้งคู่มีเชื้อสายไอริชแท้จริง และต่างก็เป็นผู้ขายปลาอย่างสงบเสงี่ยมจากอีกฟากหนึ่ง
“เช้านี้อากาศดีจริง ๆ” ฟินน์กล่าว “เช้านี้ดีจริง ๆ”
“มันดีเกินไปที่จะยืดเยื้อ” เอลิซาเบธกล่าว “มีฝนจากสวรรค์ตกลงมา”
ฟินน์คุ้นเคยกับการที่ความคิดของเขาถูกตีความ บางคนอาจพูดว่าเบี่ยงเบน ไปในลักษณะนั้น คลื่นที่ขึ้นลงในทะเลตรงหน้าเขาคือหลักฐานที่แน่นอนในใจของเขาซึ่งพยายามจะบอกถึงสภาพที่ถูกกดขี่ของนางฟ้าประมงหญิงผู้นั้น เช่นเดียวกับผู้สอนหน้าซีดที่มีความเชื่อที่ไม่เคยคลอนแคลนในความจำเป็นที่จะต้องปฏิรูปพระเจ้าและรัฐ รวมถึงการเปลี่ยนสวีเดนให้กลายเป็นสวรรค์ ความเชื่อมั่นนี้จึงฝังอยู่ในใจของฟินน์ว่าเป็นเรื่องแน่นอนว่าฝน น่าจะมาจากตาของเอลิซาเบธ ที่ทำให้เกิดการวุ่นวายบนท้องทะเล
เขาสูดไหล่และถอนหายใจ “เมื่อฉันมีเสื้อผ้าสำหรับอธิษฐานอยู่ในมือ ฉันสามารถทนกับฝนเล็กน้อยได้” เขากล่าว และดื่มน้ำหยดที่มีคุณค่าต่อปลาในแสงจันทร์
เขาเริ่มเดินต่ออย่างช้า ๆ เอลิซาเบธก็ยังคงคิดลึกอยู่เช่นกัน มันรูปร่างยากที่จะบอกว่าความคิดนี้เกี่ยวกับอะไร แต่ต่างฝ่ายต่างก็เข้าใจเป็นอย่างดี พระอาทิตย์เปล่งแสงอาบผิวของใบเรือเก่าแก่ของเรือบริงเกรย์ ซูซาน เทอร์รี่ ขณะมันพายอย่างมีฝีมือผ่านน้ำที่เรียบ และแสงสว่างก็ทุกข์ทรมานลงทีละหนึ่ง ขณะที่ฟินน์ทอดมองที่กลางน้ำซึ่งทิ้งกระแสของปลาไว้เบื้องหลังอย่างรังเกียจ เขามองไปที่พิกหน้าตั้งอยู่ที่มาร์โครมีย(ร้านค้า) ที่มีปลาซาร์ดีนชั้นหนามากมายซึ่งเขาต้องใช้เบ็ดนี้และเหยื่อสำหรับการประมงที่ตลาดมิฉะนั้นเขาจะไม่สามารถไปที่การเดินทางตกปลาแห่งทะเลที่ไม่มีผู้สนับสนุนในวันพรุ่งนี้
ฟินน์มองไปที่เรือที่แล่นอยู่บนผืนน้ำ—เรือกู้ภัย เรือพายแมรี่ และปีเตอร์ที่มีน้ำหนักดำน้ำ เขาจ้องมองไปที่เรือเล็ก ๆ ลำหนึ่งที่ติดอยู่ในคลื่นน้ำแล้วไม่สามารถหลุดออกไปได้ มันดูตลกมากกว่าทุ่งหญ้าที่อยู่ในละครสัตว์ มีไส้เดือนผิวกระดูกที่มีอารมณ์โกรธนั่งอยู่ที่ท้ายเรือเหมือนกำลังคิดถึงสิ่งที่ต้องพูด แต่ “คนพูด” ก็กำลังเร่งเร้าเขาด้วยความใกล้ชิดที่น่าตกใจต่อศูนย์แห่งแรงโน้มถ่วง ถึงแม้ว่าอุปกรณ์เรือทุกชิ้นจะถูกทำลาย ที่ต้องตัดปลอดภัยและโค้งอย่างรวดเร็ว พวกมันเผยความรู้สึกด้วยเสียงอึกทึกขณะที่ฟินน์จึงจับปลาได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับปีกและพิณที่วนอยู่ที่ท้องอย่างเช่นมันคาดหวังว่าจะได้รับไปร่วมพิธีบัพติสมา
มันเป็นการเปิดเผยที่สมบูรณ์เป็นปลา “นกเพลิกัน” ขนาดใหญ่ หน้าตาที่วาบหวิวส่องแสง โครงร่างที่มีสีสันสดใสจากแทบทุกส่วนของมันที่มีพื้นที่ยาว ซึ่งแสดงถึงความสวยงามที่ไม่มีใครเทียบได้ของภาพพอร์ตเทรตของความรักของฟินน์ในเอลิซาเบธ เมื่อเธออยู่ระหว่างชุดที่ไม่มีสาหร่ายทะเล; แต่สิ่งนี้ไม่ใช่เลย สำหรับฟินน์มันไม่ต่างจากปลาในรายการที่เขาได้ศึกษา
เขาโยนปลากลับลงไปโดยไม่มอง ขนาดที่เขาเพียงแค่ให้สัมผัสเบา ๆ ให้มันเกิดรสชาติที่แตกต่าง สำหรับฟินน์ชาวประมงความรู้สึกอายจะติดตามปลาที่จับได้เช่นเดียวกับที่นกมากมายติดตามคำตัดสินที่ระมัดระวังของคณะลูกขุน และตอนนี้เขากำลังปีนไปตามหินแต่ไม่แปลกใจเลยที่ซ่อนใบหน้าที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงในหน้าแห่งทะเล
“นั่นคือปลา” เขาคร่ำครวญในที่สุด “ออก, ออกและไปที่น้ำสีฟ้า! ฉันไม่ได้นึกว่าปลานั้นจะบินไปไกลเหนือคอร์กเพื่อทำให้ทุกความปรารถนาของฉันเป็นจริงไหม?”
เขาจำได้ว่ามีความสุขหรือไม่มีความสุข ทั้งสองอย่าง بص нехмнаяและในเดี๋ยวนี้ในทุกคืนหน้า เขาจำทุกกฎข้อบังคับ แต่เสียไปข้อเดียว—ว่าปลาทุกตัวที่อยู่ในความดูแลของรัฐบาลพิกเทลต้องสวมเสื้อผ้าที่สวยงามก่อนเข้าสังคมในเมือง
“ฉันเรียกว่านี่คือความไม่ยุติธรรมที่น่าสยดสยอง” ฟินน์กล่าว โดยที่จิตใจของเขาพังทลายไปอย่างเด็ดขาด เปลี่ยนแปลงในแบบเดียวกับที่เขาเสี่ยงออกจากจานพอทที่ทั่วทุกละแวกบ้าน เดินจากการประเมินค่าที่ย่อมเป็นไปได้ให้กลายเป็นทองเหลืองหนาหนักและการละเว้นที่เป็นเสาไอดอลจากชายฝั่งอีกด้วย
เขายืนอยู่ในพื้นที่ที่เย็นสบาย เขาขีดเขียน “ศูนย์” บนทราย เขายืนอยู่ในพื้นที่ที่ร้อนและสะอาด และแต่ละ “ศูนย์” ดูดำไปในลักษณะที่หมุนรอบรอบ ๆ เขาหมุนรอบตัวเองเหมือนกับ “หมุน” อย่างไม่มีที่สิ้นสุด อีกทั้งเส้นทางก็เลี้ยวลงเหมือนงูและฟินน์ก็ต้องลังเลว่าจะรออีกสองชั่วโมงที่น่าสะพรึงกลัวหรือจะเริ่มต้นไม่รอช้า
เขาเริ่มบ่นเสียงดัง และทันใดนั้นก็อัปยศตัวเองจึงปิดปากของเขาเสียงดัง คลื่นที่ระลอกในท้องฟ้าเริ่มปรากฏในน้ำ ขณะที่ปลาได้ร่วงตกลงไปทีละรายละเอียด และค่อย ๆ คลี่คลายตัวเองออกจากความมืดในบันทึกและถังและเศษผ้าที่ฟินน์ได้ตั้งคำถามอย่างภาคภูมิใจ