กระรอกขี้อิจฉา

ในวันฤดูใบไม้ร่วงที่สวยงามในป่าแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยใบไม้สีทองและแดง ได้มีเจ้ากระรอกตัวน้อยชื่อ Sammy กำลังทำตัวดูไม่ดีและไม่สบอารมณ์อยู่ เขาคลานไปมาอยู่บนกิ่งไม้ของต้นไม้ สะบัดกิ่งไม้และฉีกใบไม้ที่เขาผ่าน จนถึงกับไม่ทำให้มีเกาลัดซึ่งเขาเจอในการเดินทางให้กับชายตัวเล็กที่น่ารักในชุดกระโปรงแดงและขาว ผู้มักจะไปเรื่อยในป่าและทุ่งนาช่วงนี้ของปี โดยทอดขนมและน้ำแข็งให้กับสัตว์ตัวเล็กๆ ที่กำลังยุ่งอยู่ในฤดูหนาว

เมื่อ Sammy เห็นนกสีน้ำเงินชื่อ Bella ที่นั่งอยู่บนกิ่งใกล้ๆ เขาก็ทำเพียงขมวดคิ้วและบ่นมากขึ้นเท่านั้น เขาไม่รู้หรอกว่าเช้าวันนี้ Bella ช่วยให้เขากลับมามีเสียงได้; เพราะว่านายหญิงของ Sammy ได้ดุเขาอย่างรุนแรงในคืนก่อนหน้านั้นเนื่องจากเรื่องแกล้งทำบางอย่าง ทำให้เขารู้สึกกลัวและวิตกจนไม่สามารถส่งเสียงร้องได้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เมื่อ Bella รู้เช่นนี้ เธอจึงไปนั่งอยู่บนหลังคาของเพื่อนบ้านและร้องเพลงเสียงหวานด้วยเสียงที่ไพเราะมาก เพลงที่บอกซ้ำๆ ว่า:

“ลองพูดหน่อยนะ กระรอกที่น่ารัก
คุณไม่คิดว่าหัวใจคุณจะละลายหรอกเหรอ?
ถ้าคุณไม่พูด จะมีนกตัวเล็กน้อย
ที่จะเศร้าใจและหัวใจละลาย”

และเมื่อการร้องเพลงนี้ไม่สามารถทำให้เขาพูดได้ เธอก็กระโดดลงไปเกาะอยู่ที่ขอบหน้าต่างและพูดว่า “ฉันมีชีวิตที่มีมนต์ขลังและไม่สามารถตายได้หรือเปล่า? หรือคุณจะเต้นอยู่บนขอบหน้าต่างแล้วสอนฉันพูดออกเสียงว่า ‘น้องสาวดีๆ ฉันขอขอบคุณคุณ?’ “ แต่โชคดีเป็นของนายหญิงของ Sammy ที่ละลายลง “โอ้ ให้เรียกชายที่มีหม้อทองแดงใหญ่เถอะ” เธอร้องในสภาพตื่นเต้น และ Sammy กลับมามีชีวิตชีวาในทันที

ดังนั้น เมื่อ Sammy ได้ยิน Bella ร้องเพลง เขาจึงรู้สึกไม่พอใจจริงๆ และไม่ได้แสดงให้เห็นถึงเหตุการณ์ของทั้งสองเลย แต่เขากลับพูดว่า “หยุดร้องเพลงเถอะ นกสีน้ำเงิน,否则ฉันจะทำให้กระดูกของคุณหักทุกชิ้น หรือฉันนี่ไม่ใช่กระรอก”

“นี่มันเป็นวิธีที่ดีในการขอบคุณเพื่อนมากเลยนะ” Bella กล่าว แต่ Sammy ก็ยังคงเพียงแค่ใบ้แต่บอกรอบว่าเขาไม่ต้องการ

“ร้องเถอะ Bella” คุณ Mister Bluebird กล่าวเมื่อเขาได้ยินทั้งหมดนี้ “ร้องเถอะ ตอนนี้ยังไม่หนาว อากาศไม่ได้หนาวมากพอที่จะทำให้โดนถึงคอของฉัน”

แต่ไม่เป็นไร Sammy ยังคงรวมขนฟูของเขาเข้าใกล้กันและปีนขึ้นไปที่ยอดกิ่งด้วยความยุ่งเหยิง และเมื่อมันเริ่มมีฝนตกหนักเหมือนกับพายุเฮอริเคน เจ้ากระรอกตัวน้อย Sammy ก็เปียกโชกไปทั้งตัว

เมื่อเขายืนเอียงดู Bella ที่อยู่เบื้องล่าง ก็พบว่าหลังของBella เปียกแฉะไปหมด รวมถึงลำคอที่สวยงามของเธอที่แข็งจนแทบจะขยับไม่ได้ Bella จึงกระโดดอย่างรวดเร็วไปยังฐานกิ่งไม้ใกล้เคียง ใกล้กับที่ที่ Sammy นั่งอยู่ และพยายามแนบแน่นกับอกอุ่นของเขาให้มากที่สุด

แต่ Sammy กลับบ่นและตำหนิว่า Bella ไม่สามารถร้องเพลงเพื่อให้เขารู้สึกอบอุ่นและสบายใจได้ และเมื่อเธอกระซิบว่าเธอทำเช่นนี้เพื่อทำให้เขาอบอุ่นเอง เขากลับตำหนิเธอมากขึ้นเพราะว่าเธอไม่ยอมทำเพื่อเขา

หากว่า Sammy เพียงแค่พูดคำดีๆ กับ Bella สักครึ่งคำหนึ่ง เขาก็คงจะเปิดใจให้เธอรับฟังทุกข์ร้อนของเขา ในช่วงที่เขาเคยเป็นกระรอกในเมืองอยู่ในกรงในห้องซึ่งจากหน้าต่างที่สว่างเขาเกือบจะมองขึ้นไปไม่เห็น เสียงหวีดหวิวจากรถม้าจะทำให้ Bella รู้สึกสงสารเขามาก แต่ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เธอจึงพูดกับตัวเองซ้ำๆ ว่า “ฉันทำอะไรผิด ถึงต้องได้รับการทำแบบนี้จากเขา? โอ้ ไม่มีวันนั้นอีกต่อไป!”

และเธอได้รักษาที่นั่งของเธอให้ใกล้ชิดกับสามีที่เป็นนกหัวขวานของเธอจนกระทั่งพายุจะผ่านพ้นไป แต่กระรอกตัวไหนก็ไม่มีใครดีขึ้นเลยจากการที่เธอเปียกโชกลงไป เหตุนี้เมื่อสุดท้าย Sammy เห็นว่าเขาแห้งจึงสั่นตัวและโชว์ตัวเองโดยแสงจันทร์ขณะที่เขาวิ่งตามแมลงหวี่ ทุกส่วนของบ้านของเขาทั้งหมดแม้แต่ถึงนายหญิงของเขาที่นอนร้อนจนแทบจะไม่สามารถสัมผัสได้ “ฉันสามารถให้เธอกินขนมชิ้นใหญ่ได้!” Sammy กล่าว “ถ้าฉันให้เธอทั้งร้อยที่แหลมเหมือนกับนกที่ขนัสเหล่านี้ คงจะไม่มีใครได้เป็นสังคมอีกต่อไป”

และร้องด้วยเสียงที่เหมือนน้ำไหล “พยายามพูดนะ นกสีน้ำเงินผู้รัก ใจตลอดเวลา” เขาเผ่นลงไปที่ขอบหน้าต่างของ Bella ซึ่งเธอได้ส่งหางของเธออยู่ก่อนแล้ว และนั่งบนมันเริ่มขูดกับชุดเหลืองและน้ำเงินที่รัดคอของเด็กหญิงผู้ดูแลเธอ และร้องเพลงด้วยเสียงว่า “ลองพูดนะ กระรอกที่อร่อย ขณะที่จานดอกไม้พิงที่หน้าต่างของคุณมีและเป็นและจะมีตลอดไป!”

“ลองพูดเถอะ ฉันฟื้นคืนชีพแล้ว!” Bella ส่งเสียงมาอย่างร่าเริงเมื่อได้ยินข่าวดีและเสียงที่เต็มไปด้วยกำลังใจ “ตลอดเวลาฉันยังเปียกอยู่”

“ขนของฉันกลับกลายเป็นสีเขียว” Sammy กล่าวด้วยความเจ็บปวดอย่างมาก

และเธอก็เอาทั้งหมดที่อยู่ในใจของเขาออกมาจนได้ และ Bella ก็หัวเราะและทวีดเสียงออกมาเกี่ยวกับทั้งหมดนี้ ขณะที่ Sammy ค่อยๆ ทบทวนเหตุการณ์อันเลวร้ายในใจของเขา

แต่เด็กหญิงที่ยืนฟังอยู่กล่าวว่า “ตอนนี้ หาก Bella จะเข้าใกล้ขอบหน้าต่างและช่วยหยิบหนูนำแข็งมา ขอให้เธอไปช่วยจับปลาทองของฉันที่ติดหัวอยู่และคิดว่าเธอไม่อาจออกไปได้มากไปกว่าที่พ่อแม่ของเธอเคยบอก— คำนี้เพียงอย่างเดียวก็ทำให้เธอผ่านทะเลและดินแดนมาได้ ไม่มีใครเคยนำหนูนำแข็งไปใช้เช่นนี้เลย”

ดังนั้น โดยใช้ Bella นกสีน้ำเงินเป็นเบ็ด เธอยืนอยู่และช่วยปลาทองออกจากน้ำก่อนที่เธอจะออกจากห้องเรียนเก่าและออกจากบ้านขาว เมื่อเช้าวันถัดไป Bella ก็บอกลากับปลาทองนี้อย่างน่ารัก คุณเห็นไหมว่าเธอกำลังฟักไข่อยู่ในที่หลบภัยจากสีฟ้าและทองของเธอ

เธอพยายามหมดใจเพื่อหวังให้มันชัดเจน แต่การเคลื่อนไหวที่น้อยนิดของเธอก็ทำให้ตัวเธอเองรู้สึกไม่สบายใจ และน้องสาวน้อยที่น่าขบขันนี้และเธอพูดคุยกันจนเกือบหมดแรง เพราะการหาวของ Lady-Klippa-bug ที่อยู่ไกลๆ ทำให้ไม่สะดวกใจเลย

“ในขณะที่เธอเป็นแบบนี้” คิดน้องสาวน้อย “การจัดระเบียบเป็นเรื่องสำคัญ สืบทอดกันไปมา เหมือนเรา” เพียงแต่พูดออกมาแค่เล็กน้อยเกี่ยวกับม่านของบ้านของตัวเอง เท่านั้นเอง

“ฉันได้เก็บพืชนี้มาแล้วพันครั้งและหลายพันครั้ง ที่ต้องระวัง! ต้องระวัง! ให้เข้าไปในบ้านผู้หญิงให้ถูกต้อง อย่างแน่นอน!”

ดังนั้นในเช้าวันนั้น Sammy ก็ได้รับบทเรียนที่เลวร้ายมากขึ้นอีก เพื่อให้แน่ใจว่าเขายังถูกใจจนวิ่งหนีไปตามเหตุการณ์ของการแต่งงานของน้องสาวน้อยของ Willow ที่เขาตั้งอกตั้งใจให้ได้ยินอย่างดุเดือด ทั้งที่คาดการณ์ไม่ถึงเลยสำหรับการใช้ชีวิตของคนที่น่ารักและจงรักภักดี บนดอกไม้ให้ให้เดาได้ยากในที่ที่บอกไว้เป็นเรื่องในชีวิตที่มีความสุขที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น เพื่อเหตุผลที่ทำให้เขารู้สึกผิดหวัง

แต่คุณแม่ที่มีปัญญาได้มีที่อยู่หลังพุ่มไม้และหัวเราะอย่างเต็มที่จนกระทั่งท้องของเธอแน่น “คุณจำไม่ได้หรือว่าแผนของลูกน้องต้นไม้มีการบอกใบไม้ กุหลาบ และผลไม้ที่เป็นลักษณะเดียวกัน รวมถึงความคิดเห็นของ Dingy-Pocket-Money? ฉันอดหัวเราะไม่ได้ รู้ไหม!” สำหรับ Master Dingy ที่กำลังติดอยู่ในวงการข่าว “หมอกขาวหนาแน่น กับ เขาพินตัน” “คุณสองคนหมายความว่าอย่างไรกัน?” เป็นคำถามที่สาววัยชรารวยมากถาม “และคนแก่จะต้องระมัดระวังมากกว่าไม่ใช่หรือ?”

ดังนั้น นี่คือเรื่องราวในหมู่สัตว์ของป่า และจากนั้นลองไปถามคุณผู้หญิงที่เคยดูแลฝนของน้อง Lilac นั้นดู

English 中文简体 中文繁體 Français Italiano 日本語 한국인 Polski Русский แบบไทย