กาลครั้งหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิที่งดงาม เมื่อต้นไม้เริ่มผลิดอก ผลิดอก และนกน้อยส่งเสียงร้องอย่างมีความสุข ทุกสิ่งในป่ากำลังตื่นตัว ตั้งแต่สัตว์เล็กที่สุดไปจนถึงต้นไม้และพืชใหญ่ที่สุด เมื่อหญ้าและดอกไม้ทำงานหนักที่สุด เช่นเดียวกับที่พวกเด็ก ๆ ทำในโรงเรียน แซมมี่ กระรอกน้อยจึงได้รวบรวมเพื่อน ๆ ทั้งหมดไว้ในที่เดียวเพื่อพูดคุยเรื่องสำคัญมาก
ในวันที่สดใสของฤดูใบไม้ผลิ เมื่อตอนเช้าแสงแดดแผดา เขาวิ่งขวักไขว่ในป่า และขอให้จิม ครวช่วยเหลือ โดยที่เขาไปทางซ้าย และจิม ครวไปทางขวา และพวกเขาก็บอกให้บิลลี่ กระต่าย และโทมี่ ชิปมังค์ และโจฮันน่า โทด และคนอื่น ๆ ให้รู้ข่าวสารดังนี้:
“ไปที่ต้นไม้ดอกเหลืองใหญ่ที่ปลายเขา เวลา 10 โมง”
เมื่อถึงเวลาสิบโมง ทุกคนมาที่นั่น ยกเว้นลูกกระต่ายบิลลี่ ที่ทุกคนรู้สึกคิดถึงอย่างมาก เพราะเขาคือเด็กน้อยที่น่ารัก และสุภาพ แต่ก็เป็นคนที่ขี้อาย และตอนนี้เขายิ่งขี้อายมากยิ่งขึ้น เพราะเขาเพิ่งได้ยินข่าวว่ามีสัตว์เลวร้ายในป่าที่ฆ่ากระต่ายอยู่
“ฉันอยากจะรู้” เขาพูดอย่างขี้อาย “ว่าเจ้าสัตว์ร้ายนี้กินอะไรเพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องไปอยู่ในที่ที่เขาอยู่ เพราะว่าพูดตรง ๆ ฉันมีความรู้สึกไม่สบายใจมาก และอยากให้แม่ให้ฉันอยู่ในรูของเรา ที่นั่นจะอุ่นและมีความสุข แต่จะพูดอย่างจริงใจ เธอใช้เวลาทั้งคืนออกไปดูว่าเธอจะไม่ได้ยินข่าวเรื่องกระต่ายตัวน้อยที่น่าสงสารที่โดนกัดหัวจนขาดท่อนั่งอยู่ที่ไหน เธอหาพบแต่ขนของสัตว์อื่น และรู้สึกเศร้าอย่างมหาศาล ที่เห็นผู้คนขอร้องให้ไปเขี่ยเข้าไปในรูของกระต่ายที่มีดอกเดซี่อยู่”
สัตว์และนกทั้งหมดหดหู่ และสั่นสะเทือน พูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามันเลวร้ายและพวกเขาก็แทบจะไม่สามารถมองไปที่จิมสีดำ ที่นั่งอยู่ในต้นยิวใหญ่ ด้วยตาของมันที่สดใสและปีกสีขาวโง่เขลา
“ฉันต้องการให้ทุกคนช่วยเรา” แซมมี่กล่าว “ที่รู้กันว่าจมูกของบิลลี่นั้นเฉียบคมที่สุดในบรรดาสัตว์ทั้งหมด พรุ่งนี้เช้า ตอนแปดโมงเราต้องการให้เขามาพบเราที่ต้นไม้ดอกแดงใหญ่บนยอดเขา และฉันต้องการให้ทุกคนเชิญเขามาโดยไม่มีความรู้ของแม่ของเขา ฉันจะเชิญเขา แต่ฉันอยากให้ทุกคนเชิญด้วย เพราะว่าถ้าฉันเชิญ เขาอาจกลัวไม่กล้ามาที่นี่ และมันจะสำคัญมากถ้าเราทุกคนเชื่อใจกัน”
“แต่” จิม ครวพูด “ทำไมไม่เขียนประกาศให้กระต่ายน้อยฟังล่ะ? จะไม่มีการทำให้ใครอารมณ์เสียในหมู่สัตว์ที่มีสี่เท้า”
“ฉันไม่เชื่อว่าเขาคือกระต่ายที่ถูกกิน” มิสโจฮันน่า โทดพูด “ฉันเห็นบิลลี่น้อยเข้าไปในครัว ขอเศษขนมปังเพื่อนำกลับไปให้พี่น้องของเขา และฉันก็เกือบจะหวังว่าพวกเขาจะหาเขาเจอ จริงไหม? เขาจะทำหน้าตาอย่างไร!”
“บิลลี่น้อยคือคนที่ต้องพาเราขึ้นไปที่ที่กระต่ายถูกกัดหัว” แซมมี่บอก
“แต่เราจะหาสัตว์นักล่าในฝันตัวนั้นได้ที่ไหน?” โทมี่ ชิปมังค์ถามด้วยฟันที่สั่น เพราะเขาตกใจจริง ๆ
“นั่นคือเหตุผลที่ฉันขอให้เธอ มาจ์ จารบี ดูออกมาร่วมกับบิลลี่ ว่ามีช่องม่านเหนือใหญ่ที่อยู่ใต้ต้นยิวใหญ่ ซึ่งฉันรู้ถ้าหากเขาแค่รู้บ้านของเขา ฉันจะไม่บอกว่าใครคือคนที่ฉันคิดว่าเป็น จนกว่าเราจะได้ทำการสืบสวน แต่ฉันจะบอกคุณว่า มันมี ‘ชาย’ ตัวหนึ่งที่ยิ่งใหญ่ แต่โชคร้าย ทุกคนและทุกอย่างต้องไปบนดวงจันทร์ เว้นแต่ว่าเขาจะหยุดอยู่ที่บ้านในที่ที่เขาอยู่ตอนนี้ และพูดถึง ‘การแขวน’ พวกเขาก็กำลังแขวนเขาในตอนที่ทุกคนอยู่ที่นี่ เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าเขาคือใคร และถ้าพวกเขารู้ เขาก็ยังจะปล่อยเขาไว้อยู่ดี เพราะพวกเขาจะพูดว่า เพื่อนคนนี้! มันคือเรื่องธุรกิจ ทุกคนต้องมีชีวิตอยู่!”
“แต่เขาไม่อาจเป็นเขาได้” มาจ์กล่าว “เขาจะอยากได้หัวกระต่ายทำไม?”
“ดีแล้ว” แซมมี่บอก “ฉันไม่เคยได้ยินเขาพูดว่าเขาอยากได้หัวกระต่าย แต่ฉันไม่เคยได้ยินเขาพูดว่าเขาไม่ต้องการ และมันก็เป็นไปได้ คุณเข้าใจไหม? นั่นคือทั้งหมดที่ฉันพูดเกี่ยวกับมัน ตอนนี้ จอห์นนี่ เรน ฉันต้องการให้คุณถอดเสื้อสูทสีเงินและหมวกกลมเล็กน้อยออก และจากนั้นฉันจะใช้บริการของคุณ”
“ฉันจะทำ” จอห์นนี่ทันทีตอบ “และดีใจที่ได้มีโอกาสนี้ ฉันคิดว่ามันคือเรื่องเลวร้าย” และเขาก็ทำอย่างนั้นทันที
“ถ้านี่มันเป็นเรื่องธุรกิจ” บิลลี่น้อยพูด “ฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะกล้าหญิงพ่อแม้แต่แค่สงสัย”
“แต่คุณไม่รู้จักโลก” แซมมี่พูดเสียงแผ่ว “ฉันคิดว่าเขาอยู่ ‘บนดวงจันทร์’ ตอนนี้ แต่ฉันมั่นใจว่าเขาจะขอบคุณเราสำหรับอาหารเช้าแสนอร่อยที่กวางรออยู่ในรู เพราะเหตุว่าบิลลี่น้อยหลุดเข้าไปในที่ที่เรามักใช้ขนมในครัว สอดคล้องกับประตูของคุณเฮ้!—นายหนูนกเขา ที่อยู่ที่นั่นอย่างเข้มแข็งไปยังแม่น้ำและแสงอาทิตย์ และพอใจกับตาของเราและกลิ่นของน้ำลงในที่ลึกๆ”
เมื่อบิลลี่รู้เรื่องนี้ ก็รู้สึกดีใจที่คิดว่าเขาสามารถช่วยเพื่อน ๆ ได้ในทางนี้ พร้อมที่จะมาพรุ่งนี้เช้า แม้ว่าจะไม่รู้เรื่องราวที่แท้จริง เพราะเช้าวันถัดไป น่ากลัวมาก!
ทุกอย่างเป็นไปอย่างรวดเร็ว ใน อีกสองสามชั่วโมงก็สามารถทำได้ทั้งหมด นายหนูนกเขาจึงต้องนั่งที่โต๊ะและจัดการกับบัญชีให้เร็วที่สุด และเขาทำงานกระตือรือล้นในทั้งวัน ดังนั้น ธุรกิจที่มึงดูในกำมือของเขาก็ต้องถูกจัดการอย่างเหมาะสม และเมื่อ หุ่นกระบอกทำหน้าที่ในคืนเดียวกัน เจ้าหญิงพานซีก็จำเป็นต้องอยู่รับประทานอาหารร่วมกับพี่ชายของเธอในขณะที่พวกเขานั่งอยู่ที่โต๊ะขนาดใหญ่ และรอให้ทุกคนทานขนมหวานเป็นแบบจากนั้น และดาวเต็มดวงยามค่ำคืนที่สูงขึ้นก็บอกให้พวกเขาเห็นและฟังเสียงบิลลี่น้อยด้วยกันอยู่ในความดูลให้เชื่อได้ว่า มันมีสิ่งที่เรียกว่ารองเท้าในที่อาจอยู่ในคืนนั้น
ในคืนที่เงียบสงบ รอฟอัน หนุ่มหมายเลขที่รอง เทพองค์สวรรค์ได้ขึ้นไปท่องเที่ยวบนเส้นทางที่สดใสทุกคนที่มีอยู่ไม่ว่าจะได้รับสองตู้ไปพรรค์ก็เยอะแยะ และมีเลขที่อยู่ในสายน้ำสนุกสนานกันอยู่
และท่านทราบไหม? เมื่อเวลาผ่านไปก็จะมีบิลลี่น้อยผู้กล้าหาญคนหนึ่งที่เดินตามความจริงแต่อาจนึกไม่ถึงว่า หากเรามีหลอดสัมผัสในการรับฟังและส่งผ่านตามความเป็นจริงต่อกันไม่ว่าจะเป็นหรือต่อออกไปจนทำให้จำต้องมีความกลัวใดๆ เพียงให้รับรู้สีหน้าหรือฟังจากฟินย์แสนสนุกสนานให้มีรวมถึงแนวทางต่าง ๆ ด้วย ความเชื่อที่ว่าต่อไปนี้คือการเชื่อมต่อของความทรงจำ!