ในลานป่าที่สงบสุข เต็มไปด้วยดอกไม้สดใส เสียงนกที่ร้องอย่างมีความสุข และผีเสื้อที่เต้นรำ มีชิปมังก์ชื่อชิปปี้อาศัยอยู่ ชิปปี้ตัวเล็กแต่มีพลังมาก รักบ้านของเขาท่ามกลางต้นไม้สูงและมอสอ่อน ทุกเช้าเขาจะออกวิ่งเพื่อหาเมล็ดพันธุ์และเกาลัด เพื่อนำไปฝังไว้สำหรับฤดูหนาว
แม้จะมีความกระตือรือร้น ชิปปี้กลับมีปัญหาเกี่ยวกับความมั่นใจในตนเอง ขณะเห็นสัตว์ใหญ่ช่วยเหลือในช่วงวิกฤตของคุณมิร์เทิล ชิปปี้รู้สึกว่าตนเองนั้นเล็กน้อยเกินไป “ชิปมังก์ตัวเล็กอย่างฉันจะทำอะไรได้?” เขาคิด รู้สึกไร้ค่าต่อสถานการณ์
อย่างไรก็ตาม คุณมิร์เทิลได้ปลอบโยนเขา จำไว้ว่าขนาดไม่ใช่กำหนดความกล้าหาญ แรงบันดาลใจแม้ยังไม่แน่ใจ ชิปปี้ตัดสินใจช่วยขุดอุโมงค์กับสัตว์อื่น ๆ ด้วยการขุดแต่ละครั้ง เขากลับรู้สึกมั่นใจมากขึ้น เรียนรู้ได้เร็วและมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ
ทันใดนั้น ท้องฟ้าก็มืดลงเมื่อคุณหมาป่าและลูกชายของเขาเข้ามาในลาน ทำให้สัตว์ต่าง ๆ ตื่นตระหนกและเกิดความสับสน ในช่วงวิกฤตนี้ ฟลินท์ นกตัวกล้าหาญ ถูกติดอยู่ในพุ่มไม้ขณะที่คุณหมาป่าเข้าใกล้ ชิปปี้ถูกกระตุ้นด้วยความกล้าหาญตามสัญชาตญาณ เขารวบรวมสัตว์อื่น ๆ และวางแผน
“ตามฉันมา!” เขาร้องออกไป วิ่งเข้าไปในพุ่มไม้และจับฟลินท์ด้วยปากเล็ก ๆ ของเขา ดึงด้วยแรงทั้งหมดที่มี พอคุณหมาป่ากระโจนมา ชิปปี้ปล่อยนกและกระโดดไป ทำให้หมาป่าตกใจและให้ฟลินท์มีเวลาหนีที่มีค่า
ความกล้าหาญและความฉลาดของชิปปี้ช่วยชีวิตฟลินท์และเปลี่ยนโฉมสถานการณ์ต่อต้านคุณหมาป่า นำไปสู่การจากไปของเขา สัตว์ในป่าหาเสียงเชียร์ เมื่อรู้ว่าฮีโร่สามารถมาในแพ็คเกจเล็ก ๆ ชิปปี้รู้สึกมีความสุขและมั่นใจใหม่ ขณะที่เขายอมรับคำชมจากเพื่อน ๆ เขารู้ว่าเขาได้ทำให้โลกของเขาแตกต่างออกไปอย่างมีนัยสำคัญ
จากวันนั้นเป็นต้นไป ชิปปี้ไม่ได้ถูกเรียกเพียงแค่ชิปมังก์อีกต่อไป เขาได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญและเป็นการเตือนใจว่าสัตว์ทุกตัว ไม่ว่าจะเล็กแค่ไหน สามารถเปล่งประกายในยามพบกับ challenges คำสอนของเรื่องราวของชิปปี้มีความหมายมากมาย: อย่าประเมินพลังของความกล้าหาญและความมุ่งมั่นต่ำเกินไป และจงเชื่อเสมอว่าคุณสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้