การบินว่าวไม่ใช่แค่กิจกรรม แต่เป็นการผสมผสานระหว่างความสนุกสนาน ความตื่นเต้น และศิลปะ แต่คุณเคยสงสัยไหมว่าในใจของว่าวมันเกิดอะไรขึ้นเมื่อมันโบยบินสูงขึ้นจากพื้นดิน? ให้ฉันเล่าเรื่องเกี่ยวกับเพื่อนของฉันชื่อ Kiki ที่เคยมีการผจญภัยที่น่าตื่นเต้นในวันลมพัดแรง
มันเป็นวันที่ใสสะอาดและฟ้าสีฟ้า และลมพัดพาไปในทางที่พอเหมาะ Kiki ว่าวมองไปรอบๆ ด้วยดวงตาที่เป็นประกายและคิดกับตัวเองว่า “นี่แหละคือวันที่สมบูรณ์แบบในการบิน!” เธอเริ่มจินตนาการถึงตัวเองที่เต้นรำอย่างสวยงามในท้องฟ้า กระพือผ่านเมฆฟูฟ่อง และเล่นสนุกกับนกที่บินอยู่ เธอยังฝันว่าจะได้ไปแตะต้องดวงจันทร์ถ้ามันเข้าใกล้เข้ามาอีกหน่อย
ว่าวอื่นๆ ต่างก็ถูกปล่อยให้ลอยไปพร้อมกับเจ้าของของพวกมัน Kiki มองดูพวกเขาที่ลอยไปในอากาศข้างๆ เธอแนะนำตัวเองและอธิบายว่า “ฉันชื่อ Kiki และวันนี้จะเป็นการบินครั้งแรกของฉัน” ว่าวส่วนใหญ่หัวเราะและนึกถึงประสบการณ์ที่พวกเขาเคยถูกโยนไปมาเหมือนใบไม้ในฤดูใบไม้ร่วง ว่าวที่กล้าหาญตัวหนึ่งเข้ามาใกล้แล้วกระซิบบอก Kiki ว่า “อย่ากลัวนะ; นี่เป็นการเดินทางที่น่ารื่นรมย์ เพียงแค่กอดลมไว้ แล้วเธอจะต้องตื่นเต้น” “ฉันอยากบิน” Kiki ตอบ
แต่ทันใดนั้นเธอก็คิดถึงเรื่องน่ากลัว: “แต่ถ้าฉันติดอยู่ในต้นไม้ล่ะ?” ว่าวอื่นๆ ได้ยินและหัวเราะดังออกมา พวกเขาบอกว่าเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทาง: “ถ้าเธออยากบิน เธอไม่สามารถกังวลเกี่ยวกับการติดอยู่ในต้นไม้หรือสายเชือกได้” ด้วยเหตุนี้สายเชือกของ Kiki จึงถูกดึง และเธอก็ลอยขึ้น “มันเป็นเพียงระยะทางสั้นๆ” มีคนรับรอง
แต่ด้วยการดึงแต่ละครั้ง Kiki รู้สึกเบาขึ้นเรื่อยๆ ในไม่นานเธอได้กล่าวอำลาพื้นดิน เพื่อนๆ กลายเป็นจุดเล็กๆ และเธออยู่สูงขึ้นบนท้องฟ้า เต้นรำได้อย่างมีอิสระ “ฉันบินแล้ว! ฉันกำลังบินจริงๆ!” เธอประกาศด้วยความสุข เธอไล่ตามเมฆและวาดรุ้งในท้องฟ้าที่สว่างไสว เธอหมุนด้วยเสียงเพลงจากเพื่อนๆ ของเธอ ซึ่งเป็นฝูงนกที่บินอยู่ข้างๆ
มันเป็นทุกอย่างที่เธอเคยฝันถึงและมากกว่านั้น ในช่วงเวลาหนึ่ง เธอกำลังพลิ้วไหวผ่านกลุ่มก้อนเมฆขาว และทันใดนั้นก็พุ่งผ่านสีน้ำเงิน สีน้ำเงินงดงาม สุดขอบฟ้าที่เธอมองเห็น บางครั้งลมจะโยกเธอไปมา แต่จู่ๆ ก็มีลมแรงพัดเข้ามาล้อมเธอ ทำให้หัวใจของเธอแทบจะหลุดออกจากร่างกระดาษเล็กๆ
“ฉันโง่มากที่กลัว” Kiki คิด “เพราะตอนนี้ฉันมีทั้งหมดนี้” และทันใดนั้นก็มีลมแรงมากกว่าที่เคยสัมผัส เธอพุ่งและหมุนไปในอากาศ เธอรู้สึกเหมือนร่างกายของเธอกำลังถูกฉีกออก หางของเธอช้ำและปีกกระดาษของเธอขาดออก เธอกลัวว่าในทุกขณะจะฉีกกระจาย แต่ดูเหมือนว่าเธอจะได้พักผ่อนสักพัก
มีช่วงเวลาหนึ่งที่เธอรู้สึกมั่นใจอีกครั้ง; เมื่อเธอมองไปรอบๆ เธอเห็นว่าวอื่นๆ บางตัวอยู่สูงมาก บางตัวไม่สูงนัก แต่ไม่มีตัวไหนอยู่ใกล้พื้นเหมือนที่เธอได้เห็นในตอนแรก
“เธอไม่กลัวที่จะติดอยู่ในต้นไม้เหรอ?” ว่าวเก่าตัวหนึ่งที่สวมเสื้อกั๊กกระดาษตะโกนถาม “ติดอยู่ในต้นไม้? เธอหมายถึงอะไร?” Kiki ตะโกนกลับพลางหมุนตัวไป
แล้วว่าวที่เก่ากว่าที่มีพู่ที่มุมของร่างกายว่าวที่ดูเหมือนเริ่มต้นชีวิตด้วยสีขาว แต่ตอนนี้ซีดจางและพันกัน ดูน่าขำมากจน Kiki ถามเขาอย่างมีน้ำใจว่าเขาอยู่ที่ไหน
“ฉัน,” เขาตอบ “ฉันไม่สามารถบอกได้แน่ชัดว่าฉันเป็นใคร ฉันติดอยู่ในต้นไม้เป็นเวลาหลายปีแล้ว”
“แล้วมันเจ็บไหม?” Kiki ถามด้วยความรู้สึกเสียใจสำหรับว่าวแก่
“เจ็บไหม? ไม่ แค่ความรู้สึกของฉันเท่านั้น เพราะเป็นว่าวที่บินที่จับฉันไว้ แต่ฉันไม่สามารถบอกได้ว่ามันทำให้ฉันมีความสุขหรือไม่ เมื่อไหร่ที่เด็กเก่าในกางเกงตะกร้ามาโยนหินและสิ่งของอื่นๆ เพื่อจะได้จับหางฉัน—แต่พวกเขาก็ทำไม่ได้ ดังนั้นฉันจึงอยู่ที่นี่ แต่มันทำให้ฉันท้อแท้มากจริงๆ บินไปที่ไหนก็ได้; บินไปที่ไหนก็ได้ แค่หลีกเลี่ยงต้นไม้ และอย่าพลาดโอกาสในการเพลิดเพลินกับการบินอย่างเต็มที่”
“ตอนนี้ฟังดูมีเหตุผลมากขึ้น” Kiki ตอบ “แต่ตอนนี้ฉันเหมือนจะเจอต้นไม้แล้ว”
เมื่อมองลงไป เธอพบว่าตัวเองสั่นเทาไปมา อยู่ต่ำมากแต่ยังอยู่ห่างออกไปบ้าง บนปลายกิ่งยาวๆ เหมือนกับแอปเปิ้ลสีแดงตัวเล็ก
“เป็นเพียงเวลาที่มีอาหารเท่านั้น” ว่าวบอก “ตอนนี้รีบไปซะในขณะที่มีเวลา หรือเธอจะต้องอยู่กับฉันเป็นเพื่อน” แต่ตอนนี้หางของ Kiki ถูกเสียบแน่นในรอยแตกของกิ่งไม้ เธอพยายามอย่างเต็มที่ในการปลดมันออกมา โดยการเตะ ดัน และบิดตัว แต่ก็ไม่เป็นผล
จนถึงตอนเย็นเธอถึงจะหลุดออกมา แต่โชคดีสำหรับเธอ คืนนี้ไม่มีลมพัดเลย ไม่มีต้นไม้ที่เธอจะติดได้ง่าย หรือไม่เช่นนั้นสายไฟก็จะทำให้การบินของเธอจบลงเร็วมาก ขณะเคลื่อนไหวเพื่อให้เท้าหลุด เธอ滑ามและถอยกลับไปเกือบจะถึงที่เดิม แต่จากนั้นเธอก็บินขึ้นอีกเล็กน้อยแล้วกลับมาใหม่ เตะๆ และคลายหางของเธอ และจากนั้นเธอก็บินขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับกล่าวคำอำลาว่าวโดยไม่มีต้นไม้ใต้ตัวเธอ
ในช่วงเวลาที่เหลือของเย็นนั้น เธอเดินเล่นในละแวกนั้น รักษาตัวให้ต่ำกว่าหลอดไฟถนนหรือต่ำกว่าแสงจันทร์ที่ยังคงร้องเพลงกล่อมเธอไปยังดินสีน้ำตาลและหลังคาสีดำ
“มันยังไม่ค่ำเกินไป” เธอคิดขณะหลับรอบๆ ข้างคอของปล่องไฟ แต่การคิดถึงสิ่งที่เธอเห็นในวันนั้นทำให้เธอมีความฝันว่ามีกิ้งก่าหลายตัวเข้ามาหายใจอยู่รอบๆ ด้วยปีกเย็นๆ ชุ่มน้ำเรซิน; กิน กิน จนพวกเขาเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ—จนดูเหมือนว่าเธอเองกำลังลอยอยู่เหนือทะเลและเขา โดยที่ดอกไม้ตื่นขึ้นมาก่อนเธอเข้าสู่มา และปล่อยพลั่งพาลาอยู่เหนือทุ่งโคลเวอร์ และลำต้นที่มีใบเขียวจะต้อนรับเธออีกครั้งด้วยร่มเงาที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขา
Kiki ว่าวตื่นขึ้นช้าในเช้าวันถัดไป ดวงอาทิตย์อยู่สูงบนท้องฟ้าและยิ้มทักทายเธอ ข้างๆ เธอมีทุ่งเขียวขจีที่มีจุดแดงและขาวเด่นขึ้นมา ดึงดูดสายตาเธอ เนื่องจากเธอไม่เคยเห็นสิ่งแบบนี้มาก่อน
ด้านหนึ่งของทุ่งนั้นคือทะเล สีน้ำเงินสุดๆ พร้อมกับนกทะเลที่บินอยู่ข้างบน และนี่คือจุดเริ่มต้นของ Kiki ว่าว ทุกสิ่งชี้ไปทางเหนือ