กาลครั้งหนึ่งในป่าแห่งเวทมนตร์อันงดงาม ในหุบเขาที่เต็มไปด้วยดอกไม้เวทมนตร์และบ่อที่มีระยิบระยับ มีม้ายูนิคอร์นตัวน้อยชื่อ Sparkle เธอมีผมสีทองชมพูสว่างที่สุดและดวงตาที่เปล่งประกายเหมือนท้องฟ้าสีฟ้าสดใส Sparkle รักหุบเขาแห่งเวทมนตร์ของเธอและต้องการเล่นกับเพื่อนๆ แต่โอ้! เธอรู้สึกกลัวมากว่าเธอไม่มีพลังเวทมนตร์เลย แล้วจะร้องเพลง เต้นรำ และเล่นกับเพื่อนๆ ได้อย่างไร หากเธอไม่มีเวทมนตร์? โอ้!
แต่ Sparkle มีเพื่อนสัตว์ตัวน้อยมากมาย ที่บอกเธอทุกวันว่าเธอมีเวทมนตร์มากเพียงใด กระต่ายน้อยได้แต่งตัวให้เธอในมอสและแนะนำเธอให้รู้จักกับสัตว์ที่สวยงามในป่า นกนางแอ่นสีฟ้าพักอยู่บนผมสวยๆ ของเธอและปลอบลูกนกตัวน้อยให้หลับด้วยเสียงเพลงอันมีมนตร์ของเธอ และนางฟ้าดอกไม้ทั้งหมดมองลงมาที่หุบเขาอันน่ารักของเธอในยามพลบค่ำแล้วพูดด้วยเสียงที่ดังว่า “เธอช่างมีเวทมนตร์เหลือเกิน!” แต่เฮ้อ! ตลอดทั้งวันเธอเหมือนจะทำอะไรที่มีเวทมนตร์ไม่ได้นเลย
วันหนึ่ง ขณะที่เธอยืนมองออกไปที่หุบเขาแห่งเวทมนตร์ของเธอและพยายามนึกถึงสิ่งใหม่ๆ ที่เพื่อนๆ จะได้ชื่นชม เธอรู้สึกถึงมือเล็กๆ นุ่มๆ สัมผัสที่ไหล่ของเธอ และเมื่อเธอหันไป เธอเห็นเพื่อนสัตว์ตัวน้อยสี่ตัวยืนอยู่ข้างๆ เธอ กระต่ายสองตัว บีโบะและโมโมะ สก๊อยตัวน้อยชื่อท็อปซี่ และนกนางแอ่นตัวน้อยชื่อซิสเตอร์ทวีตตี้ เธอให้กอดพวกเขาแน่นและเริ่มร้องเพลงและเต้นรอบบ่อน้ำระยิบระยับ และดอกไม้ป่าที่สีน้ำเงินที่ปกคลุมหุบเขาเล็กๆ ของเธอ
“แต่โอ้!” Sparkle กล่าวหลังจากเต้นได้ไม่นาน “ฉันกลัวว่าเวทมนตร์ของฉันจะหายไป ฉันไม่เคยรู้สึกเหนื่อยขนาดนี้มาก่อนในชีวิต” และเธอก็เอนตัวลงนอนบนเตียงมอสที่นุ่มนิ่มของเธอ
“โอ้! เธอเพิ่งทำสิ่งที่มีมนตร์ยิ่งใหญ่มาก” บีโบะกล่าว ซึ่งเพิ่งกลับมาจากการเยี่ยมหมู่บ้านนางฟ้า
“ฉันทำอะไรได้บ้าง บีโบะ? ฉันทำอะไรได้บ้าง?” Sparkle ร้องออกมา
“เมื่อเธอร้องเพลงและเต้นรำ ดอกไม้เวทมนตร์ทั้งหมดก็มีชีวิตขึ้นมาและสิ่งมีชีวิตตัวน้อยในป่าและน้ำก็วิ่งออกมาฟังเสียงอันไพเราะนี้ ซึ่งจริงๆ แล้วเสียงนี้สามารถมาจากม้ายูนิคอร์นได้เท่านั้น” บีโบะตอบ
“โอ้ บีโบะ เธอคิดเช่นนั้นหรือ?” Sparkle ถาม ระหว่างค่อยๆ ลุกขึ้น
“ใช่ ใช่ และปลา ที่ไม่สามารถออกมาได้ ก็กรีดร้องออกมาจากก้นบ่อระยิบระยับว่าพวกมันจะทำสิ่งที่ดีมากมายทันทีที่สามารถออกมาได้ และสัตว์ตัวน้อยทั้งหมดต่างก็ร้องพร้อมกันว่า ‘ยกโค้งของมงกุฎขึ้นอีกครั้งเถอะ รูปเจ้ารัก และให้เราเห็นโลกอันน่าอัศจรรย์ และเราขอสัญญาว่าจะทำสิ่งที่ดีเท่าที่เราจะทำได้ในขณะที่เราอยู่ข้างนอก’ และนั่นคือสิ่งที่ดีมาก”
จากนั้นสัตว์ตัวน้อยทั้งหมดก็ร้องเพลงและเต้นรอบๆ ฮีโร่ตัวน้อยของเรา และเธอรู้สึกมีความสุขสุดๆ จนกระทั่งบางครั้งความกังวลเก่า “เธอมีเวทมนตร์หรือไม่?” ก็เริ่มกลับมา
แต่เธอก็ลุกขึ้นท่ามกลางเพื่อนตัวน้อยและเริ่มเต้นอีกครั้ง
“เธอจะไม่พักหรอ รักของเรา Sparkle?” เพื่อนทุกคนของเธอถาม “พักเถอะนะ”
แล้วพวกเขาก็ยื่นดาวสีขาวตัวเล็กๆ และดาวสีน้ำเงินตัวเล็กๆ ให้เธอ มันกลายเป็นว่าพวกเขาทั้งหมดพักเหนือเธอเหมือนดอกไม้ในท้องฟ้าสีฟ้า และไม่นาน โมโมะก็ส่งเสียงเรียกจากบนฟ้า “โอ้เพื่อนน้อย ดอกมอสได้หนาแน่นขึ้นเหนือหัวของเธอแล้ว และนกนางแอ่นตัวเล็กๆ ก็ร้องเพลงกล่อมที่ไพเราะ ดังนั้นปิดตาชมพูทองของเธอลงและนอนหลับให้สบายสักยาวนาน”
ดังนั้นเธอจึงปิดตาที่สวยงามของเธอและโดยไม่ต้องยากลำบาก เธอก็ตกลงไปในนิทราที่เป็นสุขอันมีเสน่ห์ ซึ่งมักจะมาเยือนสิ่งมีชีวิตที่มีเวทมนตร์ และตรงไปยังหมู่บ้านนางฟ้า ม้ายูนิคอร์นที่เปล่งประกายของเราไปที่นั่น เธอหัวเราะ พูดคุย เต้นรำ และร้องเพลงกับผู้อยู่อาศัยที่สวยงามในดินแดนแห่งนั้นเป็นเวลาหลายวัน โดยไม่เคยคิดถึงโลกเล็กๆ ด้านล่าง จนกระทั่งวันหนึ่ง เธอรู้สึกนึกถึงมันขึ้นมา เหมือนกับที่คุณจะนึกถึงความฝันที่แสนสุข
“ตอนนี้นะ” นางฟ้านอนกล่าว “วิ่งไปบอกโมโมะว่ามิตรภาพของเธอ Sparkle ส่งความรักมา และถ้าเธออยากจะขอให้บีโบะ บองโก้มาหาเธอสองถึงสามวัน ฉันจะยินดีที่จะต้อนรับเพื่อนเก่าของเธอ”
แล้วเธอก็กลับไปยังดินแดนที่สวยงามของเธอ และยังคงร้องเพลง หัวเราะ เต้นรำ และเล่นอยู่ แต่เธอต้องดูว่ามันจะไม่เป็นไปได้เลยหรือที่จะยิ้มให้สว่างกว่าดาวสีน้ำเงินสดใสของโมโมะสักนิด
ดังนั้น, เธอจึงปลิวไปในอากาศและพยายามที่จะไม่เอียงเตียงของเธอในขณะที่ชั่งน้ำหนักขึ้น เร็วๆ นี้เธอจะมีสีบราวน์ขึ้น เข้าข้ามไปยังร่างกายสีขาวของเธอและขึ้นไปสู่ผมทองชมพูที่ทอดยาวของเธอ และเธอก็ส่องแสง และเธอก็ส่องแสง สร้างความประทับใจให้โมโมะอย่างมาก เพราะเธอเป็นสิ่งที่โมโมะเรียกว่า รวยในสีฟ้าและสีขาวแล้วเรื่อยไปของเธอ ก็หมายถึงการให้สีทางด้านร่างกายของเธอ และตาม tails ของเธอพลิ้วไหว เธอจึงบินลงไป ผ่านก้อนเมฆอ่อนนุ่ม ลงไปเรื่อยๆ จนเจอระเบียงสีน้ำเงินและแสงแดด ที่ที่โมโมะกับบีโบะกำลังจะโบกผ้าเช็ดหน้าเล็กๆ ขาวใสให้กับหัวทองของพวกเขาและร้องว่า “บัวเรีย -า อย่าลืมว่าเบอร์เรีย-า” และพวกเขาก็ทำเมื่อจมูกตัวน้อยของพวกเขาได้กลิ่น
“สเตฟ ตาปีเรีย ลิสตรุ๊ม ฟรอมาลเฮดิ คุก-ครี!” โมโมะพูดออกมา
“สวัสดีตอนเช้า! เฟอรี่สปาร์คเกิล อยู่ที่นี่หรือ? สวัสดีคับเฟอรี่สปาร์คเกิล! ตอนนี้บีโบะ นายรู้ไหมว่าใครให้เราร่างกายสีขาวและสีน้ำเงินที่สวยงามเหล่านี้? ใคร? ใครคือคนที่ให้มันเรามาตั้ง?”
“โอ้ ไม่นี่คือผู้หญิงที่ใจดีมากใจดี ซึ่งอาศัยอยู่ไกลมาก”
“โอ้ นายหมายถึงโมโมะ เพื่อนรัก นางฟ้าที่มีผมทองใช่ไหม?” คัมพลูซิเฟอร์ที่มักจะตีหลังคาครัวให้สีดำด้วยเบียร์พูดขึ้น
“แน่นอนว่ามันคือโมโมะ และนายต้องพูดเหมือนว่าคุณไม่ค่อยใส่ใจว่ามีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่; เพื่อให้โมโมะรู้ว่านายมีความเหมาะสมสำหรับดินแดนของนางฟ้า และเฟอรี่สปาร์คเกิลจะอยู่ที่นี่กับโมโมะและเพลิดเพลินทั้งสองคนจนกระทั่งกูชิ มัมโบ้จัมโบ และสนัฟฟี่กลับมาอีกครั้งพร้อมกับเค้กและอะมอนทิลลาดอ์-ซังการ์! แต่ที่สำคัญกว่านั้น พริบบัคตอนนี้ มันนอนอยู่ที่แขนของฉัน แต่เราไม่ควรทำให้มันดี”
ดังนั้นเฟอรี่มิริพริบจึงนั่งตรงข้ามบีโบะที่มีสีบราวน์ เมื่อลมพัดจุณคุณลง ยันผ่านมา ถึงจะมีคนที่นั่งอยู่บนกำแพงเมฆ แน่นอนว่า กับความดันสูงทำให้สีสันดูดีเป็นพิเศษ
ขณะนี้นกน้อยท็อปซี่ได้บอกบีโบะให้กลายเป็นผีเสื้อเล็กๆ บีโบะก็จะบินขึ้นไปสูง และกล่าวว่านั่นเหมือนกอดกับพระอาทิตย์ทองซึ่งทำให้เขารู้สึกมีความอุ่นใจที่มากขึ้นให้กับน้ำผึ้งทอง. โมโมะจึงตะโกนว่า “อัธบีแอ้มซูน้องนรดิตตู!” เมื่อเขาเห็นบีโบะที่สวมย้อมสีกระเดื่องสีฟ้าและสีขาวจากรุ้งสายรุ้ง จนถึงพวกเขาคือนกแปลกประหลาดคนอื่นๆ
ม้ายูนิคอร์นของเราไม่สามารถต้านทานได้ทันใดเลย แค่หลับอยู่ และดูเหมือนความอ่อนหวานตามความสวยให้กับชีวิตให้แก่เพื่อนน้อยทั้งสองที่เคยติดอยู่ ทั้งจึงตกยากลำบากในความมืดเมฆ อาจจะบินไปสู่โลกใหม่ที่ยังเก็บไว้ในความทรงจำเรื่องราวเก่า เมื่อมันทำให้สวยงามที่สุดในชีวิตของเขาที่เป็นห่วงในความสุขสร้างเสริมบรรยากาศให้เกินห้วงเวลา
“มันไม่ใช่แค่ควัน” นางฟ้านอนกล่าว “มันรวมถึงแสงสว่างสีขาวที่ส่องให้กับสิ่งใหม่ที่เด่นชัดที่สุดในเส้นใยแห่งจักรวาลที่จะมาช่วย” “และนี่คือจบเพลง”