เคยมีครั้งหนึ่ง เด็กชายคนหนึ่งชื่อโรจีที่มีห้องที่เต็มไปด้วยของเล่นที่น่าทึ่ง แต่ในบรรดาของเล่นทั้งหมดนั้น สิ่งที่เขารักมากที่สุดคือหมีเท็ดดี้ เท็ดดี้ไม่ใช่หมีธรรมดา; เขาเป็นหมีที่พิเศษ ขนของเขานุ่มนิ่มเหมือนขนเป็ด ตาของเขาส่องประกายเหมือนลูกปัดสีดำ และหูของเขาก็ถูกสร้างมาอย่างดีเพื่อฟังเสียงเล็ก ๆ รอบตัวเขา
คืนหนึ่งเวลาที่ทุกคนหลับสนิท เกิดเหตุการณ์ลึกลับขึ้น เท็ดดี้เพิ่งจะนอนอยู่บนหมอนของโรจีเมื่อเขารู้สึกถึงความรู้สึกแปลกประหลาด เหมือนถูกดึงโดยเชือกลับที่มองไม่เห็น เขาพบว่าตัวเองลอยออกจากหน้าต่างและลอยอยู่ในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดาว ข้างล่างเขาคือบ้านที่เขารัก ซึ่งเล็กจนแทบไม่สามารถมองเห็นได้
“ไม่รู้ว่าฉันกำลังจะไปไหน” เขาคิดในใจ
เขาเดินทางอย่างรวดเร็วผ่านอากาศในยามค่ำคืน เห็น景ที่น่าทึ่งซึ่งไม่มีใครเห็น ดาวตกพุ่งไปทั่วท้องฟ้า แต่เท็ดดี้กลับรู้สึกปลอดภัยอย่างที่สุด เหตุการณ์นี้ทำให้เขาสงสัยว่าอาจจะเดินทางไปยังขั้วโลกเหนือเพื่อพบซานตาคลอส แต่แทนที่จะเป็นเช่นนั้น เขากลับพบว่าตัวเองอยู่ในอากาศเย็นสบายของคืนในเขตร้อนจากที่ไกล
“โอ้ พระเจ้า!” เขาอุทานเสียงเบา “ฉันกำลังจะไปยังดินแดนที่ห่างไกล!”
เขาลอยต่ำลง ๆ จนในที่สุดเขาก็อยู่บนพื้นดินในสวนที่ดูแตกต่างจากสวนของโรจี ที่นั่นมีดอกไม้รูปทรงแปลกตาและมีสีสันที่หลากหลาย และมีต้นไม้ยักษ์ที่ลำต้นใหญ่เกือบตั้งอยู่จนคนสองคนต้องใช้แขนโอบรอบเพื่อให้ครบ
“นี่สวนของใครนะ” เท็ดดี้พูดกับตัวเอง “ฉันอยากให้มีใครสักคนมาบอกฉัน หรือแค่เขย่าฉันนิดหน่อยเพื่อให้รู้ว่าฉันไม่ได้อยู่ในฝัน”
ความปรารถนาของเขาถูกเติมเต็มครึ่งหนึ่ง เพราะทันใดนั้นมีเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่สวมรองเท้าเปิดหัวออกมาวิ่งจากบ้านสีน้ำตาลน่ารัก ๆ เสื้อของเธอเป็นสีเหลืองสดใสมีลายทางสีชมพูและร่มแดดสีแดงสดของเธอก็เข้ากันดีกับรองเท้าสีแดงใหญ่ของเธอ ผมของเธอเป็นลอนยุ่งเหยิง ซึ่งทำให้ดูสดใสด้วยโบว์ที่ติดอยู่หลายสิบอัน
“โอ้ ดูเหมือนว่าพร้อมรับแขกแล้ว!” เท็ดดี้คิดขณะมองเธอ “ถ้าเพียงแค่โรจีมาอยู่ที่นี่ด้วยของเล่นดี ๆ ของเขาเพื่อเล่นด้วยกัน!”
ในอีกชั่วขณะเด็กหญิงตัวเล็กก็กระโจนผ่านเท็ดดี้ไป waving ร่มแดงของเธอ ข้ามไปยังตะกร้าที่เต็มไปด้วยดอกไม้ด้านฝั่งตรงข้ามของสวน เท็ดดี้มัวแต่สงสัยว่าทำไมเธอถึงรีบออกไปถึงไม่ได้สังเกตเห็นอีกหนึ่งรูปลักษณ์เล็ก ๆ นั่นคือเด็กหญิงอีกคน แต่เธอแตกต่างจากคนแรก เธอสวมชุดไหมที่สวยงามทำจากสีสันที่สดใส ผมสีน้ำตาลของเธอเงางามและเรียบซึ่งนอนอยู่บนศีรษะเหมือนหมวก แต่สิ่งที่ดึงความสนใจของเท็ดดีก็คือปีกที่แปลกประหลาดที่เติบโตจากบ่าเธอ
“ทินกี้อยู่ไหน?” เด็กหญิงตัวเล็กถามด้วยความวิตกกังวล มองไปรอบ ๆ พร้อมไม่เห็นเท็ดดี้
“นี่คือชื่อของเด็กหญิงอีกคน; ทินกี้และทิลลี่น่าจะทำให้เรียกว่า ทิงเกิล-ทิล” เท็ดดี้คิด แต่ก่อนที่เขาจะมีโอกาสได้พูดความคิดของเขา ทิลลี่ได้วิ่งผ่านเขาไป ปีกสีทองของเธอพัดอยู่ ในอีกชั่วขณะเธอก็หายไปท่ามกลางดอกไม้ แต่เป็นเพียงนาทีเดียวเพราะทันทีที่ทินกี้เห็นว่าเธอไม่เป็นอะไร เธอก็วิ่งกลับออกมาอีกครั้ง
“เธอเห็นทิลลี่มั้ย?” เธอตะโกนด้วยเสียงดังจนแทบจะทำให้หูของเท็ดดี้แตก “แล้วมีใครเห็นเดรอปหรือเปล่า?”
“เดรอป! เดรอปคือใคร?” ทิลลี่ถาม ขณะที่เธอกลับมาแล้ว
“เดรอปคือหมาของฉัน ที่ตามเธอไปอย่างดอกไม้” ทินกี้ตอบ “ฉันคิดว่าเขาอาจจะกัดปีกของเธอ!”
“เดรอปฉลาดกว่านั้น” ทิลลี่กล่าว “เขารู้ว่าเขาอาจทำร้ายเธอ ฉันไม่ได้พบเขาตั้งแต่เช้าจนเย็นในสวนแปลกนี้”
“เดรอป!” ทินกี้ตะโกน “เดรอป! มาเถอะ เดรอป!”
“เห่า!” เสียงลึกตอบมาจากที่ไหนสักแห่งในโลกใต้
“เห่า!” ทิลลี่ตอบกลับเสียงดัง “ถ้าหากเธอเป็นหมาน้อยที่ดีพอ เราก็จะเล่นด้วยกัน แต่ฉันคิดว่ามีเห็บที่น่ากลัวอยู่บนตัวเธอใช่มั้ย? ดังนั้นเธอจึงไม่อยากออกมา”
แต่ว่าทินกี้และทิลลี่ก็พันตัวเองด้วยเถาวัลย์ที่มีใบเขียวและคลุมเหนือไหล่และขาของพวกเธอ ในอีกชั่วขณะพวกเธอก็หายไปท่ามกลางลำต้นของต้นไม้ โดยมีแค่ส่วนแคบของท้องฟ้าเหนือหัวพวกเธอให้มองเห็น
“เธอแน่ใจว่าเรามีเถาวัลย์พอ” ทินกี้ตะโกนด้วยเสียงดังที่สุดที่ทำได้ “เมื่อวานฉันออกไปนิดเดียวก็สิบไมล์ และพวกเขาบอกว่าตอนนี้มันไม่น่าจะอยู่ห่างแค่สามไมล์จากที่นี่”
“มันรู้สึกเหมือนเราเติบโตขึ้นแทนที่จะยืดตัว” ทิลลี่ตอบ “แต่เธอกล้าออกไปโดยไม่บอกฉันยังไง?”
“ฉันกล้าไปทำหลายอย่างโดยไม่บอกเธอ” ทินกี้ตอบอย่างดูถูก “และถ้าเธอไม่ใช่เฟอรี ฉันคงไม่มีวันบอกเธอ”