กาลครั้งหนึ่งในทุ่งหญ้าที่สงบเงียบในคืนที่มีแสงจันทร์ ส่องสว่างด้วยหิ่งห้อยตัวน้อยชื่อว่าลูน่า ในค่ำคืนนี้ เธอและครอบครัวออกไปเพื่อนำแสงสว่างสู่โลก แต่เมื่อถูกดึงดูดโดยดาวที่เปล่งประกาย ลูน่าพลัดหลงและพบว่าตนเองอยู่คนเดียว เธอค้นหาครอบครัว แต่ได้แต่เห็นแสงที่แปลกตากะพริบรอบตัวรู้สึกกลัวและหมดหวัง เธอคิดในใจว่า “ฉันจะทำยังไงดีตอนนี้?”
ทันใดนั้นเอง มีจั๊กจั่นแก่ตัวหนึ่งใกล้ๆ ได้ยินความกังวลของเธอ “ไม่ว่าจะเห็นหรือไม่ก็ตาม” เขาพูดอย่างปลอบโยน “แสงของเธออยู่กับเธอตลอดเวลา เชื่อมันเพื่อกลับบ้าน.”
“แต่ฉันมองไม่เห็นแสงของฉัน” ลูน่าตอบพลางจิตใจเต็มไปด้วยความสงสัย
“หลับตาและเชื่อ” จั๊กจั่นกระซิบ ลูน่าจึงปิดตาน้อยๆ ของเธอและรอ ในตอนแรกทุกอย่างดูมืดและน่ากลัว แต่ไม่นาน เธอก็รู้สึกอบอุ่นจากภายใน มันส่องแสงอ่อนๆ เหมือนความทรงจำเกี่ยวกับการอยู่กับครอบครัวของเธอ หายใจลึกๆ ลูน่าจึงเปิดตาและให้แสงภายในฉายออกมา
ทันใดนั้น เธอก็สามารถมองเห็น! แม้ว่าเงารอบตัวจะดูแปลกแต่อีกต่อไปเธอก็ไม่รู้สึกกลัวอีก “ฉันทำได้” เธอพูดด้วยความกล้าหาญ และเริ่มบินไปข้างหน้าโดยเชื่อในแสงภายในตัวเอง ด้วยความมุ่งมั่น เธอบินผ่านหญ้าสูง ข้ามก้อนหินเล็กๆ และผ่านหยดน้ำที่เปล่งประกาย
การเดินทางของเธอดูเหมือนยาวนานและเหนื่อยล้า แต่ลูน่าไม่เคยเสียศรัทธาในแสงของเธอซึ่งเปล่งประกายสว่างขึ้นทุกนาที หลังจากที่เธอบินไปสักพัก เธอเห็นกลุ่มแสงที่สว่างจางๆ ใกล้ๆ หัวใจของเธอเต้นแรงด้วยความดีใจ! “บางทีนั่นอาจเป็นครอบครัวของฉัน!” เธอร้องออกมา เสียงของเธอก้องไปในคืนที่กระซิบ
เมื่อเธอบินเข้าใกล้ แสงเหล่านั้นก็สว่างขึ้นเรื่อยๆ จนเธอรู้ว่าพวกมันคือครอบครัวของเธอที่รออยู่ ใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความกังวล “ลูน่า! เราสูญเสียคนไปมากเพราะไม่มีแสงของเธอ!” พวกเขาร้องเพื่อแสดงความดีใจและโอบกอดเธอด้วยปีกที่เปิดออก
คืนแค่นั้นเอง ลูน่าได้เรียนรู้ว่าแม้ในช่วงเวลาที่มืดมิดและน่ากลัว การเชื่อมั่นในตัวเองสามารถนำทางกลับบ้านได้ จั๊กจั่นผู้ชาญฉลาดพูดถูก; แสงของเธออยู่กับเธอตลอดเวลา และดังนั้น ลูน่า เพื่อนตัวจิ๋วของเวลาโพล้เพล้ ได้เต้นรำในอากาศในยามค่ำคืน เปล่งแสงเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความหวัง เตือนให้ทุกคนรู้ว่าแสงภายในตัวสามารถนำทางกลับบ้านได้เสมอ ไม่ว่าคุณจะหลงทางไปไกลแค่ไหนก็ตาม