ในป่าจังเกิล สัตว์ทั้งหลายอาศัยอยู่ด้วยความสุขสันต์ โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างแต่ละอย่าง แต่มีความแตกต่างอย่างหนึ่งที่ทำให้ลีอสิงโตไม่สามารถเข้ากับคนอื่นได้ นั่นคือเสียงคำรามที่น่ากลัวของเขา ทุกครั้งที่เขาเปิดปากพูด ทุกคนจะวิ่งหนีไป เพราะต่างก็กลัวที่จะถูกโจมตี
ดังนั้นลีโอจึงเริ่มฝึกซ้อมพูดว่า “มoo,” “อิ๊ง,” “วาฟ,” และ “ฮู,” โดยไม่ให้ฟันของเขาโผล่ออกมา และเมื่อเขาทำได้สมบูรณ์แบบแล้ว เขาก็ตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมสัตว์ทั้งหลายและขอให้พวกเขาเป็นเพื่อนของเขา
“สวัสดีตอนบ่ายครับคุณผู้หญิงและคุณผู้ชาย” เขากล่าว ขณะที่พวกเขามองหน้าเขาด้วยความประหลาดใจ “ผมมาที่นี่เพื่อแสดงความเคารพต่อพวกคุณ และถ้าเป็นไปได้ ผมอยากจะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขในอนาคต”
ไม่มีสัตว์ตัวใดตอบกลับ แม้แต่เจ้าวัวแก่พูดกับสามีว่า:
“ฉันมั่นใจว่าเราควรปฏิบัติต่อเขาเหมือนกับศัตรู”
ลีโอตระหนักว่าเขาเป็นคนที่คุยไม่เก่ง และด้วยเหตุนี้เขาจึงเงียบ ต่อมาจึงเห็นหมูตัวเล็กวิ่งผ่านไป จากนั้นปากของเขาก็เริ่มน้ำลายยืด และเขารีบพูดว่า: “มีใครอยากร่วมทานอาหารเบา ๆ กับผมไหม?”
แต่การฝึกซ้อมก็มีผลดีในการลดขนาดปาก และในครั้งนี้เขาก็ไม่แสดงเขี้ยวทำให้เจ้าหมูแก่ตะลึงและพูดว่า:
“ฉันไม่เคยคิดว่าสิงโตจะมีมารยาทที่ดีและสุภาพเช่นนี้ ให้เราร่วมไปที่บ้านของเขาและรับการเชิญชวนที่เขาเสนอ”
และพวกเขาทั้งหมดก็เดินไปยังต้นไม้และถูกลีโอเชิญเข้าบ้าน และเขาได้จัดอาหารที่ถูกปากจากกระรอกและกระต่ายและอาหารอร่อยอื่นๆ แล้วพวกเขาก็สนุกสนานกับการสูบซิการ์ขนาดใหญ่ของเขาและดื่มน้ำมะนาวและกาแฟที่เขาเสนอ จนอยู่จนดึกคืน
ในที่สุดแขกก็ลุกขึ้นเพื่อกลับบ้าน และลีโอนำพวกเขาไปที่ประตู และเมื่อพวกเขากล่าวลากัน เขาก็มีเพียง “ราตรีสวัสดิ์” เพื่อขอบคุณพวกเขาที่มาเยือน และสัตว์ทุกตัวรู้สึกพอใจกับการอยู่ร่วมกับเขา
แต่หลังจากลีโอได้เห็นเพื่อน ๆ ไปที่ประตูแล้ว เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้นกับเขา ท้องฟ้ากลายเป็นดำครื้มและฟ้าแลบเริ่มปรากฏและฝนตกลงมา ในขณะนั้นเสียงฟ้าร้องดังกังวานไปทั่วป่า ถึงแม้ลีโอเองก็รู้สึกหวาดกลัวกับพายุที่เกิดขึ้นในทันที และไม่รู้ว่าจะหาที่ปลอดภัยจากอันตรายที่คุกคามเขาอย่างไร
แต่โชคดีที่มีคบเพลิงและบันไดยืนอยู่ข้างประตู ดังนั้นลีโอจึงหยิบมันขึ้นมา และในเวลาเพียงสองนาทีเขาก็ปีนขึ้นไปบนต้นไม้ใหญ่ได้ พร้อมกับบันไดและคบไฟ
ในขณะเดียวกัน เหล่าสัตว์ที่เป็นแขกของเขาก็กำลังเผชิญกับพายุอย่างเต็มที่ ถึงแม้ว่าความกล้าหาญของสิงโตจะแสดงออกมาเมื่อเขาพบว่าสัตว์อื่น ๆ ต่างก็สั่นเทาจากความกลัว มดก็กำลังสั่นอยู่ในรังของพวกเขาด้านล่าง ขณะที่ลมพัดต้นไม้ไปมา สิงโตจะประพฤติตนอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้?
ดังนั้นเขาจึงคิดว่าควรจะทำตัวให้ถูกต้องโดยการคำรามขอความช่วยเหลือ แต่เมื่อใคร่ครวญแล้ว เขาก็คิดว่าควรไม่ทำให้สัตว์น้อยเหล่านั้นตื่นตระหนกเขาจึงไม่คำราม แต่เริ่มลงบันไดอย่างเงียบ ๆ เพื่ออธิบายว่า การตอบโต้อย่างรวดเร็วนั้นมักจะพร้อมเสมอเพื่อเผชิญกับอันตรายที่เกิดขึ้นในทุกวัน
หมูฟังด้วยความสนใจ และทันทีที่เขาพูดจบคำ พายุฝนก็เมียบังเกิดฟ้าแลบและตามมาด้วยเสียงฟ้าร้องดังอีกครั้ง แต่ยังไม่มีคำขอบคุณจากหมูเลย
“มึง!” ลีโอร้องเสียงดัง “ตอนนี้มึงไม่มีอะไรต้องกลัวแล้ว เสียงฟ้าที่มึงได้ยินคือเสียงของฉัน และถ้ามึงไม่เลือกพิจารณาความคิดของมึงให้ดีขึ้น ฉันอาจทำให้ฝนตกหนักลงอีก”
ต่อคำสบประมาทนี้เจ้าหมูแก่ตอบเพียงว่า: “ขอให้ฉันไม่ต้องกินอีกเลย ถ้าฉันเคยกล่าวคำใดที่ทำให้ท่านไม่พอใจ”
แต่เสียงที่ออกมาจากปากของสิงโตก็ทำให้เขาตระหนักว่า หากเขาสามารถเปลี่ยนสถานที่กับหมูไร้เดียงสาได้ อาจช่วยสร้างความรู้สึกดี ๆ ระหว่างกันได้ แต่ก่อนที่เขาจะพยายาม เขาพูดกับเธอด้วยเสียงที่อ่อนโยน
“ฉันขอโทษที่ทำให้คุณตกใจในวันนี้ แต่มันเป็นพายุที่ทำให้ฉันตกใจและเปลี่ยนเสียงของฉันจากเสียงสัตว์ทั่วไปมาเป็นเสียงของสิงโต”
จากนั้นหมูตัวน้อยก็รู้สึกอายที่ไม่ได้ตอบลีโอด้วยมารยาทที่มากกว่านี้ “มันไม่ถูกต้องของฉัน” เธอกล่าว “แต่ความกรุณาของคุณในวันนี้ยิ่งใหญ่เกินไป ดังนั้นฉันขอให้คุณจงเป็นอย่างที่คุณต้องการอย่างที่เป็นก็ตาม”
มีเสียงคำพูดที่พูดซ้อนกันอยู่บ้าง และไม่นานหลังจากนั้น ก็เริ่มมืดค่ำ และเปลวไฟก็กลายเป็นควัน
ดังนั้นพวกเขาทั้งหมดจึงไปนั่งอยู่หน้ากองไฟเพื่อแบ่งอาหารกัน และลีโอได้มื้ออาหารที่ดีที่สุด และจากนั้นก็ร้องบอกว่า “เฮ้ยสำหรับอาหารค่ำ!” ซึ่งทำให้ทุกคนตะโกนด้วยเสียงดังว่า “แปลกใจสำหรับเฮ้ย!” และหลังจากนั้นพวกเขาก็ออกไปที่ทุ่งนาร้องเพลงรอบๆ คอกหมูจนถึงรุ่งสาง