ในเช้าซันยของวันที่มีแดดในหุบเขามิสติก ขณะที่เสียงกระซิบของลำธารนับพันทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยเพลงที่ร่าเริง หมาจิ้งจอกตัวน้อยนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ นี่คือฟินน์ สัตว์ที่สดใสและคล่องแคล่ว แต่ถึงแม้เขาจะดูอยากรู้อยากเห็นและฉลาดมาก แต่เขาก็ยังรู้เรื่องน้อยกว่าบรรดาสัตว์แก่ที่อยู่รอบตัวเขา
ฟินน์พยายามเรียนรู้สิ่งใหม่ในตอนเช้าทั้งวัน และเขาเพิ่งได้ยินมาว่ายูนิคอร์นจะต้องผ่านหุบเขานี้ไม่ไกลจากที่เขานั่งอยู่ จากนั้น แมวสีคัลลิโกตัวน้อยพูดขึ้นว่าเธอมั่นใจว่ายูนิคอร์นจะไม่มีวันมาใกล้สัตว์เบื่อหน่ายอย่างเธอ ฟินน์จึงตอบอย่างดูถูกว่าเด็กผู้หญิง-เทวดาแบบนั้นไม่ใช่ประเภทที่ยูนิคอร์นจะมาสนใจเพราะมันรู้ดีที่สุดว่าสิ่งใดเหมาะสมสำหรับมัน นอกจากนี้ เขายังมีหลายสิ่งต้องคิด
แต่เขายังคงสอบถามผู้คนเกี่ยวกับสัตว์ที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ จนกระทั่งสุดท้าย–
“อย่าถามฉันอีกนะ ฟินน์!” นกเค้าแมวตัวใหญ่ที่กำลังอยู่กับลูกนกสองฝูงบนกิ่งไม้ใกล้ๆ กล่าว “ฉันไม่สามารถบอกอะไรเพิ่มเติมได้จริงๆ ฉันไม่เคยเห็นยูนิคอร์นเลย”
“แต่คุณต้องเคยได้ยินใครบางคนพูดถึงมันสิ” ฟินน์กล่าว
“ได้ยินใครพูดถึงมัน! ฉันน่าจะบอกได้เลยว่า!” นกเค้าแมวตอบ เปิดตาของเธอกว้าง “โถ่ มีหนังสือมากมายในทุกภาษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ตั้งแต่แอพโพลอนิอุสถึงเวเทวาล! แต่การพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่คุณไม่รู้มันไม่มีประโยชน์เลย มันน่าเบื่อสำหรับคนฟัง ลูกๆ ของฉันรู้อยู่แล้ว ฉันบอกลูกแต่ละตัวให้รีบให้มากที่สุดแล้วพวกมันอาจไปที่ไหนก็ได้”
“แต่ขอให้บอกฉันเถอะ,” ฟินน์ร้อง “ยูนิคอร์นมีประโยชน์อะไร?”
“โอ้! ฉันไม่รู้,” แม่เค้าแมวพูด “ฉันคิดว่ามันก็ดีนะในที่ของมัน ยังไงก็ตาม พวกเขาวิ่งขึ้นไปบนต้นไม้บ้าง พวกเขาบอก”
ฟินน์ไม่อยากขอข้อมูลเพิ่มเติมกลัวจะทำให้เค้าแมวเบื่อ แต่มีบางอย่างต้องผ่านเข้ามาในทางนั้น เขาหยุดทันที ตั้งหูของเขาขึ้นและหอนเสียงสั้นๆ
“มันคืออะไร? มันคืออะไร?” แม่เค้าแมวถาม ขยับขนของเธอ ฟินน์ไม่ตอบ แพะที่ฟินน์รู้จักดีเดินเข้ามาและเขาพูดว่า “ไม่มีสัตว์สองตัวที่เหมือนยูนิคอร์นหรอก นี่คือคำพูดของแพะ! มาเถอะตามฉันไป”
ยูนิคอร์น ปรากฏว่ามีความสามารถที่ไม่ธรรมดา รวมถึงความสามารถในการงอกปีกซึ่งทำให้มันสามารถลอยผ่านอากาศเหมือนนกหรือเดินทางผ่านภูเขาที่ชันหรือแม่น้ำได้อย่างรวดเร็ว มันกำลังบินอยู่ต่ำในวันที่จะไปเยี่ยมชมพระราชวังคริสตัลที่มีชื่อเสียงในฝั่งตะวันตกเมื่อมันบินขึ้นเหนือหุบเขา ขาวและเปล่งปลั่ง ฟินน์เห็นมันเกือบโดยสัญชาตญาณ หยุดหายใจ และก้าวขึ้นไปตามทางอย่างเงียบๆ เมื่อทันใดนั้น ยูนิคอร์นส่งเสียงแปลกๆ ฟินน์ตั้งหูและหอนออกมาด้วยความร่าเริงมากกว่าคำตำหนิ
ยูนิคอร์นไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย; มันแก่มากและหูของมันได้ยินไม่ดีและยิ่งไปกว่านั้นมันยังเริ่มตามองไม่เห็นแล้ว
อย่างไรก็ตาม เมื่อฟินน์เข้าใกล้เขาได้ยินเสียงหนึ่งพูดจากอีกด้าน และรู้ว่ามันมาจากยูนิคอร์น
“ฟินน์ ผู้จิ้งจอก ไม่อยู่ที่นี่หรือ?” เสียงนั้นพูดด้วยหางเสียงที่ชัดเจนแต่เศร้า
“มันเป็นตัวฉันจริงๆ,” ฟินน์ตอบโดยตั้งหู “และฉันมีความสุขมากที่รู้ว่าเป็นคุณ เพื่อนของฉัน ยูนิคอร์น ที่ทำให้ฉันแทบจะร้องไห้เพราะมีความสุขเมื่อได้ยินเสียงของคุณ”
“อา! คุณเสียใจที่ไม่ได้เห็นปีกของฉันใช่ไหม?” ยูนิคอร์นถามด้วยความไม่พอใจเมื่อถูกเข้าใจผิดว่าเป็นสุนัขโดยนกเค้าแมวที่ฉลาด “อา! มันน่าสนใจมาก และน่าสนใจจริงๆ! แต่ฉันกลัวว่าฉันจะไม่มีโอกาสได้เห็นมันอีกแล้ว”
“โอ้! ฉันหวังว่าไม่จริงๆ!” ฟินน์กล่าว
“ฉันไม่รู้ ฉันกลัว ฉันกลัว!” ยูนิคอร์นถอนหายใจ “ฉันมีความสุขมากเมื่อกี้นี้ที่บินอยู่เหนือสถานที่ที่ฉันเกิด และฉันก็รู้สึกมึนงงขึ้นมากกว่าเมื่อก่อน และแย่กว่านั้น ฉันหลงอยู่บนภูเขาเหล่านี้และไม่สามารถหาทางกลับบ้านได้”
“อา! ฉันจะพูดอะไรเพื่อปลอบใจคุณได้?” ฟินน์ถามด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความรู้สึก “ในตอนแรกมันเป็นเรื่องกวนใจมากจนฉันลืมคิด แต่ฉันคิดว่าคงต้องไปทางนี้,” เขาพูดต่อ “การมองเห็นของคุณแย่มากและการได้ยินของคุณก็แย่จริงๆ มันไม่ดีเลย ทำให้คุณสุขภาพไม่ดี แต่ฉันยังเยาว์วัยและว่องไว และฉันจะพาคุณไปพระราชวังคริสตัลเร็วๆ นี้ ถนนค่อนข้างชัน แต่ฉันคุ้นเคยกับมัน ถ้าคุณยินดี ฉันจะไปด้วย”
“ขอบคุณ ฟินน์ที่รัก มันใจดีจริงๆ,” ยูนิคอร์นตอบ “แต่เป็นที่รู้กันดีในหนังสือประวัติศาสตร์ของสัตว์ที่ยิ่งใหญ่ โดยดาวิด ซึ่งคุณจะค้นพบเองหากคุณลอง หน้าที่ของผู้ที่ถูกเล่าเรื่องเกี่ยวกับผู้อื่นจะช้าในขณะที่ผู้ที่ไม่ได้ยินเรื่องราว (และสัตว์ไม่ค่อยได้ยินเรื่องราวที่เหมาะสม) จะยังคงเยาว์วัยและว่องไว ไม่; มันจะไม่มีประโยชน์ ฉันกลัวจริงๆ ว่าฉันจะต้องยอมแพ้ในความหวังทั้งหมด”
“ไปเถอะ! คุณไม่ พูด ใช่ไหม?” ฟินน์คิดในใจ และตั้งหูอีกครั้งฟังอย่างตั้งใจ “ฉันจะต้องบอกว่าฉันได้ยินอะไรที่ดูคล้ายกับสิ่งที่คุณพูดเมื่อไม่นานมานี้: แต่คุณจะไม่เล่าเรื่องเก่าให้ฉันฟังได้บ้างหรือ เพื่อที่เราจะได้ประโยชน์จากมันด้วยกัน? เขาบอกว่าการฟังเรื่องเล่าอาจดีสำหรับน้ำใจในเวลาต่อมา”
“ไม่ใช่แน่นอน! ไม่ใช่แน่นอน!” ยูนิคอร์นร้อง “โธ่ ฉันคงใช้เวลานานมากในการทำมัน ฉันจะไม่มีทางกลับบ้านขณะที่คุณคงต้องนั่งลงและหลับไปก่อนที่ฉันจะพูด ‘สวัสดี’ มีสิ่งหนึ่งที่ฉันอาจบอกคุณ ‘อย่าฟังเรื่องราวใดๆ เลย’; แต่มันดูเหมือนจะสายเกินไปสำหรับคุณ!”
“สายเกินไปจริงๆ!” ฟินน์ถอนหายใจ “แต่ไม่เป็นไรเลย ขอให้ฉันลองพาคุณไปหาผู้เป็นเพื่อนคุณให้ได้ถ้าหากไม่มีอะไรทำได้เลย”
“ฉันจะลอง,” ยูนิคอร์นกล่าว “แต่ฉันกลัวว่ามันจะไม่เป็นประโยชน์”
ฟินน์จึงถอดนิ้วเท้าหลังหนึ่งของยูนิคอร์นซึ่งมันภูมิใจมาก และผูกผ้าลายไหมรอบนิ้วเท้าอีกข้างหนึ่ง และยังมีมาลัยขนมหวานเกือบยี่สิบเส้นรอบคอของมัน เพราะเขาคิดว่าถ้าเขาแขวนมาลัยเหล่านี้ที่ประตูพระราชวังคริสตัลเพื่อเจ้าของหมาป่าผู้พิทักษ์มันคงจะทำให้สัตว์ต่างๆ มีความสุขเป็นพิเศษ และตัวเขาเองจะเสียใจเมื่อได้รับข่าวที่หมาป่าใหม่จะนำมาบอก เขาจึงนำมันลงไปตามทางภูเขาที่ชัน
คำถามอีกหนึ่งคำถามที่ฟินน์คิดว่าถูกต้องและยุติธรรมที่จะถาม คือสาเหตุที่ทำให้ยูนิคอร์นได้ยินเสียงน้อย ฟินน์ถาม ยูนิคอร์นบอกเขาว่ามันน่าสนใจจริงๆ แต่มันไม่ค่อยดื่มน้ำเมื่อไม่มีสัตว์อยู่ใกล้ และถ้ามีมันก็จะไม่ดื่ม ถ้าหากได้ฟังเรื่องราวจึงค่อยๆ เลิกดื่ม จนกระทั่งนิสัยนี้กลายเป็นนิสัยใหม่ จากสิ่งหนึ่งไปสู่อีกสิ่งหนึ่ง ยูนิคอร์นได้เกินขีดความจุของเยื่อหุ้มที่บางเฉียบซึ่งรายล้อมหูภายนอก และตั้งแต่นั้นมามันก็ค่อยๆ สูญเสียการมองเห็น แต่สิ่งเหล่านี้มันบอกว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่
แล้วทันใด ฟินน์ก็ท่องบทเพลงที่เขาเคยได้ยินวนไปวนมา จนกระทั่งเมื่อตอนไม่นานมานี้ เคยสอนโดยผู้สอนเพลงแถวสตีนเวค ซึ่งเป็นกวีที่เก่าแก่และมีชื่อเสียง และในเวลาเดียวกันก็เป็นบทกวีที่ชาญฉลาดและมีความไพเราะ เหมาะเจาะมากกับยูนิคอร์นที่ไม่เคยลืมมันจนกว่ามันจะมีชีวิตอยู่
“และตอนนี้” ฟินน์กล่าวในที่สุดเมื่อเขาท่องจบ “มีอะไรที่น่าพอใจเกี่ยวกับมัน ที่ฉันเริ่มมันด้วยความหวังที่จะช่วยให้คุณสามารถถอดความเศร้าตรงนี้ที่เราคุยกันอยู่ แม้ว่าฉันจะไม่ต้องการมันเลย ฉันเองก็หายดีอย่างสมบูรณ์และมีความรู้สึกแตกต่าง”
“ความรู้สึกที่ดีทั้งหมดในโลกไม่สามารถดำรงอยู่ได้โดยไม่มีพื้นฐานที่เป็นที่พอใจ!” ยูนิคอร์นตอบเย็นชา “ฉันไม่เห็นว่ามันช่วยลดอาการอ่อนเพลียทางร่างกายจากฉันลงได้ และอาการที่หูซ้ายยังคงเน้นย้ำตนเองอยู่; นอกจากนี้มันก็ไม่ได้ปลอบฉันมากนักที่จะรู้ว่ามันทำให้สัตว์ที่ดีอย่างคุณซึ่งควรเติบโตไปแบบมีอายุยืนยาวเต็มไปด้วยคุณค่าจดจำสิ่งแวดล้อมในชนบท เผชิญความหมดหวังอยู่ในสภาพเช่นนี้”
“แต่ฉันหวังว่าไม่จริงๆ ที่จะเกิดขึ้น!” ฟินน์ยังคงกระซิบตลอดทาง เป็นมิตรกับยูนิคอร์น แต่ความจำที่ไม่ดีของเขาไม่อาจระงับอาการผิดปกติ ทำให้เขาได้รับแรงต้านที่ต่ำต้อยเมื่อทำได้ ในเมื่อมันเกิดขึ้นโดยสมบูรณ์แล้ว มันกลับสร้างความรู้สึกเศร้าเป็นอย่างมากเมื่อฟินน์ต้องไปข้ามสะพานที่ยาวออกไป และลื่นไหลไปด้วยเส้นทางมากมาย
เขาทดสอบและอธิบายให้กับผู้ทดสอบ จนกระทั่งเห็นถึงสิ่งที่เขาไม่สมควรให้ไว้ในราชสำนักที่ได้รับความสวยงามและอังกฤษ ภายใต้สะพานวอเตอร์ลู โดยที่เขาหยุดทำไปทุกขั้นตอนในที่อันแรก อันสุดท้าย และอื่นๆ ที่ทำจือมวล เรียกร้องสิ่งที่ดีที่สุดที่พบได้ทุกเมื่อ
ฟินน์จึงเข้าไปอย่างปลอดภัยจริงๆ เมื่อต้องการให้เวลากลับมาเพื่อให้ทุกคนออกจากพระราชวัง เขาก็ยิ้มผู้วางมือลงพร้อมอธิษฐานตรงข้ามกับบ้านของดันจนถึงตีสอง ตอนนี้ กลายเป็นเรื่องยากมากในการเข้าใกล้พระราชวัง โดยไม่ต้องพูดว่า ยูนิคอร์นได้ทำให้เห็นได้ว่าเกิดอะไรขึ้น แม้ว่าทั้งหมดนี้จะทำให้มันแย่ลงไป
ทุกคนต่างพยายามอย่างดีที่สุด ฟินน์ก็พร้อมที่จะเสนออีกครั้ง แต่การทดลองก็ไม่ไร้ผล ผู้คนถูกโยนไปมาจากทิศตะวันออกสู่ทิศตะวันตก โดยเฉพาะคนอื่นๆ ที่สูงกว่านี้มาก โปร่งและตรงแนว ที่ได้รับการทำให้ดีโดยการลดระยะทาง แทนที่มันจะทำให้หวัง ฟินน์มองดูและรู้สึกว่าตนอยู่ในสภาพที่มีแต่ความสิ้นหวัง
ในที่สุดไม่มีสิ่งมีชีวิตเหลืออยู่ เมื่อดันซึ่งทุกคนมีธุรกรรมอยู่ที่สโมสรนี้และเป็นที่รับรู้ให้ผ่านนั้นช้า รู้สึกเศร้าเมื่อได้กลับไปและพูดกลับไปเพื่อทำให้สิ่งต่างๆ เปลี่ยนแปลง.