เอ็ดดี้นกอีมูรักบ้านของเขาในทุ่งหญ้าออสเตรเลียที่กว้างใหญ่ซึ่งดินสีแดงทอดยาวไปใต้ท้องฟ้าสีฟ้า แต่เอ็ดดี้แตกต่างจากนกอีมูตัวอื่น ๆ ขณะที่พวกมันพอใจที่จะเดินเที่ยวใกล้สระน้ำ เขามักจะมองไปที่ขอบฟ้าที่ระยิบระยับ คิดว่ามีอะไรอยู่เบื้องหลังนั้นบ้าง
วันหนึ่งที่แดดออกเต็มที่ fueled by ความอยากรู้ เอ็ดดี้ตัดสินใจว่าได้เวลาที่จะผจญภัย “ฉันต้องค้นพบโลกที่อยู่ไกลออกไป” เขาคิดในใจ พลางกระพือปีกด้วยความตื่นเต้น ในเช้าวันรุ่งขึ้น เขาตะโกนลาก่อนครอบครัวและเพื่อน ๆ ของเขา “ฉันจะไปสำรวจ! มีโลกทั้งใบรอคอยฉันอยู่!”
“อย่าวิ่งออกไปไกลเกินไปนะ!” บิ๊กมาม่าอีมูอุทานมา ซึ่งยังไม่แน่ใจว่านี่เป็นความคิดที่ดี แต่เอ็ดดี้ตั้งใจแน่วแน่ เขาวิ่งไปได้เร็วที่สุดเท่าที่ขาที่ยาวจะพาเขาไปได้
ในช่วงแรก ทุกอย่างยังคงเป็นดินสีแดงเหมือนเดิม แต่แล้วเขาก็พบกับภูเขาที่บรรจงทาสีด้วยสีชมพูและสีส้ม เขาชื่นชมกับน้ำตกที่เปล่งประกายไหลลงมาจากหน้าผาสูง แต่ละหยดระยิบระยับเหมือนอัญมณี ระหว่างทาง เขาได้พบกับสัตว์ที่เป็นมิตรหลายตัว
“เอ็ดดี้ เจ้าไปไหน?” คำถามจากจิงโจ้ตัวหนึ่งที่เขาเจอใกล้ริมน้ำ
“ฉันไม่แน่ใจ แค่อยากสำรวจ” เอ็ดดี้ตอบ “แล้วเจ้าล่ะ?”
“ฉันหวังว่าจะได้พบกับดาราภาพยนตร์ให้กระโดดด้วย—หรืออย่างน้อยที่สุดคนที่มีกระเป๋าที่ดี” จิงโจ้หัวเราะก่อนที่จะกระโดดไปอย่างร่าเริง ปล่อยให้เอ็ดดี้เดินทางต่อไป
วันเปลี่ยนเป็นสัปดาห์ เอ็ดดี้ฟังเรื่องราวจากจิงโจ้แก่และเล่นซ่อนหากับกลุ่มโคอาลาที่เจ้าเล่ห์ ทุกวันนำมาซึ่งประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่เติมเต็มหัวใจเขาด้วยความสุข เขาเห็นป่าไม้ของต้นไม้สีขาวล่องหน และทุ่งดอกไม้ป่าเต้นตามสายลม ในหุบเขาที่งดงาม เขายังได้เห็นฝูงฟลามิงโกเป็นครั้งแรก!
“แต่ไม่มีอะไรสวยงามไปกว่าขอบฟ้า” เอ็ดดี้คิด ขณะที่มันทาสีตัวเองด้วยสีสันสดใสระหว่างพระอาทิตย์ตก “ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าเบื้องหลังมันซ่อนความมหัศจรรย์มากมายขนาดนี้?”
อย่างไรก็ตาม เอ็ดดี้ยังประสบกับความท้าทาย มีหลายคืนที่เขารู้สึกเหงาและอยากอยู่ใกล้ครอบครัว คืนหนึ่งที่มีลมแรง เขาจึงนั่งอยู่ใต้โขดหิน “โอ้ ฉันคิดถึงคนที่ฉันรัก” เขาถอนหายใจ ขณะที่ลมพัดพาเสียงเพลงกล่อมจากความทรงจำที่ห่างไกล ในค่ำคืนเช่นนี้ ช่วยให้เขาเรียนรู้คุณค่าของบ้านและมิตรภาพ
ในที่สุด หลังจากหลายนเดือนของการท่องเที่ยว เอ็ดดี้ไปถึงที่ที่เหมือนกับสุดขอบของแผ่นดิน — ชายหาดทรายขาวทอดยาวข้างทะเลฟ้าใส “นี่จะต้องเป็นสุดปลายของโลก!” เขาตะโกน ขณะที่เขาจุ่มเท้าในน้ำ นกเพลิکانเล่นซนก็โฉบลงมา
“สวัสดี! เจ้าหลงทางหรือเปล่า?” มันถามด้วยรอยยิ้ม “เจ้าดูเหมือนจะไกลจากบ้าน”
เอ็ดดี้อธิบายการเดินทางของเขา เพลีการับ nods “ดูเหมือนว่าเจ้าจะต้องกลับบ้าน การผจญภัยมันน่าทึ่ง แต่ไม่มีที่ใดเปรียบได้กับบ้าน”
ขณะที่เอ็ดดี้เตรียมตัวกลับ เขาตระหนักว่าประสบการณ์ที่เขาได้สะสม มิตรภาพที่เขาก่อตั้งขึ้น และความงามที่เขาได้เห็นได้เปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดกาล เขาค้นพบโลกมากมาย — และในขณะเดียวกัน เขาเข้าใจว่าการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือความปรารถนาที่จะกลับบ้าน
ด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความทรงจำและจิตวิญญาณที่ได้รับการรีเฟรชจากการผจญภัย เอ็ดดี้นกอีมูจึงวิ่งกลับข้ามภูมิประเทศที่เขาได้เคยผ่านมาก่อน ขอบฟ้าที่แต่ก่อนเป็นสัญลักษณ์ของสิ่งที่ไม่รู้กลับรู้สึกเหมือนการกอดอันอบอุ่นที่ต้อนรับเขากลับ
เมื่อเขากลับถึงบ้านกับคนที่เขารัก บิ๊กมาม่าอีมูจึงกางปีกออกกว้าง และกอดเขาอย่างอบอุ่น เอ็ดดี้รู้ทันทีว่าการสำรวจนำไปสู่การค้นพบตัวเอง และบางครั้ง บทเรียนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการผจญภัยคือการรู้คุณค่าของสิ่งที่มี
และตั้งแต่นั้นมา ทุกครั้งที่เอ็ดดี้มองไปยังขอบฟ้าเบา ๆ เขาจะนึกถึงว่าทั้งโลกนั้นสวยงามไม่ว่าจะในความผจญภัยหรือในความรัก