บรูโน่ มังกรที่น่ารัก

เมื่อครั้งหนึ่งในเมืองเล็กๆ ที่ห่างไกล มีมังกรน่ารักชื่อบรูโน่ บรูโน่มิได้มีลักษณะเหมือนมังกรน่ากลัวตัวอื่นๆ ที่อาศัยอยู่บนโลกเลย เขาคือมังกรที่ไม่เหมือนมังกรคนอื่นๆ แต่ชาวเมืองกลับเห็นเพียงมังกรและกลัวอย่างมาก

ทุกค่ำเมื่อพระอาทิตย์ตก บรูโน่จะเหยียดปีกของเขาและแหวกว่ายในสระน้ำใกล้หมู่บ้าน และในทุกเย็นเมื่อเขาพยายามจุ่มเท้าลงในน้ำ ชาวบ้านที่กลัวก็จะวิ่งหนีเข้าบ้าน ไม่ออกมาอีกจนกว่าบรูโน่จะเดินลึกเข้าไปในป่าและนอนหลับ

เช้าวันหนึ่ง บรูโน่รู้สึกประหลาดใจมากเมื่อได้ยินเสียงเล็กๆ ที่พูดกับเขา เขามองขึ้นไปและเห็นเด็กชายตัวน้อยคนหนึ่งยืนอยู่เบื้องหน้า มองเขาอย่างจริงจังโดยไม่กลัว บรูโน่ยิ้มและพูดว่า “สวัสดีครับเด็กชายตัวน้อย ผมดีใจที่ได้พบคุณ ผมไม่มีเพื่อนเลยในเมืองนี้ ดังนั้นผมจะขอทำให้คุณเป็นเพื่อนของผม ถ้าคุณต้องการ”

“ผมไม่กลัวคุณหรอกครับ คุณมังกร ผมรู้ว่าคุณเป็นคนดี แม้ว่าชาวเมืองจะไม่เชื่อก็ตาม ผมมาที่นี่บ่อยๆ ขณะที่พ่อทำงาน และบางครั้งก็เห็นคุณว่ายน้ำ เมื่อวานนี้ผมพยายามให้ดอกกุหลาบกับคุณที่ผมเก็บมาบนทาง ผมไม่เข้าใจว่าทำไมชาวบ้านถึงกลัวคุณ พวกเขาน่าจะรู้สึกอับอาย แต่ตอนนี้ผมจะไปจับดอกไม้ให้คุณนะ” เด็กชายตัวน้อยถอดหมวกออก

บรูโน่ประหลาดใจมากเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้จากเด็กเพียงคนเดียว และเมื่อหมวกและหมวกของเด็กชายมักมีลักษณะที่คล้ายกัน บรูโน่จึงไม่รู้ว่าเขากำลังคุยกับเด็กชายคนไหน แต่คุณสามารถจินตนาการถึงความประหลาดใจของเขาเมื่อเห็นว่าผู้มาเยี่ยมของเขาไม่ได้คิดจะไปไหนเลยในขณะที่เขาพูดอยู่

อีกไม่นาน เด็กชายก็กลับมาพร้อมกับดอกเดซี่และดอกไม้ป่าหลายๆ ดอกในมือของเขา

“นี่!” เขาตะโกนอย่างร่าเริง “ตอนนี้คุณสามารถใส่มันที่บนหัวแทนมงกุฎหนามที่น่าสงสารของคุณได้”

บรูโน่รับดอกไม้ด้วยนิ้วหัวแม่มือและนิ้วกลางสองนิ้ว เพราะกรงเล็บของมังกรมีลักษณะเช่นนั้น

“โอ้! คุณดูสวยงามมากเลยตอนนี้” เด็กชายกล่าว

“คุณจะอยู่กับผมนานกว่านี้อีกนิดไหม?” บรูโน่ถาม

“โอ้! ใช่ครับ”

“ชื่อคุณคืออะไร?” บรูโน่ตั้งคำถาม

“จิอาโคโม”

“ถ้าอย่างนั้นคุณต้องนั่งลงบนกรงเล็บของผม ซึ่งเหมือนกับเก้าอี้ใหญ่”

“แต่ผมไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้” จิอาโคโมบอกเขา “พ่อส่งผมมาซื้อ นม และถ้าผมไม่ไปเร็วๆ นมจะไปบูด”

“ผมจะไปกับคุณและช่วยถือ นมกลับบ้าน” บรูโน่สมัครใจทันที

“โอ้! ไม่; ไม่; ไม่!” จิอาโคโมร้อง “คนขายนมจะหนีไป และผู้คนจะขว้างก้อนหินใส่คุณ ไม่ ไม่, ผมไม่สามารถลองทำเช่นนั้นได้”

เมื่อเวลาผ่านไปทุกข้อโต้แย้งของจิอาโคโมไม่มีผลต่อบรูโน่ ผู้ที่ต้องการไป ในที่สุด เด็กชายก็ชี้ไปที่เมืองและวอนเขาอย่างน่าสงสารว่าอย่าไปที่นั่น จากนั้นบรูโน่สารภาพว่าเขาชอบจิอาโคโมมาก และสัญญาว่าจะไม่ไป แต่เขายังคงรู้สึกเศร้าเมื่อเด็กชายจากไป และไม่มีอะไรทำ นอกจากว่ายน้ำในสระ กลับไปพักผ่อนในถ้ำที่เขาอยู่ในป่าสน แล้วกลับสู่ถิ่นของเขาที่เขาค้นพบมาก่อน ในวันถัดมา บรูโน่ตื่นเช้า เก็บช่อดอกไม้ขนาดใหญ่ และออกไปพบจิอาโคโมอีกครั้ง

บรูโน่มีความสุขมากที่จะได้เห็นจิอาโคโมอีกครั้งจนลืมเรื่องของตัวเอง และด้วยช่อดอกไม้ที่ใหญ่ขนาดนี้ มันจึงเป็นสิ่งที่มีความสุขที่สุดในโลก

“ผมได้นำช่อดอกไม้มาให้คุณ” เขาพูดกับเด็กชายผู้ที่เขารู้สึกอายจากความดีใจ

“ผมรับดอกไม้จำนวนมากอย่างนี้ไม่ได้” เขากล่าวพร้อมน้ำตาในดวงตา

“คุณต้องการมันไหม?”

“โอ้! ใช่ ผมอยากได้มาก แต่ผม—”

“แต่คุณมีมากจนไม่สามารถถือมันกลับไปได้”

จิอาโคโมยิ้มและรู้สึกอายอีกครั้ง เขาเติมตะกร้าขนาดเล็กที่เขามีด้วยช่อดอกไม้ ขณะคัดเลือกดอกไม้ที่ไม่ค่อยแตกหักที่จะถือได้ดีที่สุด

“ตอนนี้ผมจะไปให้อาหารแม่” เขากล่าว “จากนั้นผมจะกลับมาเพราะผมอยากจะบอกคุณหลายอย่าง คุณจะไม่ไปไหนใช่ไหม?”

“ผมจะไม่ขยับจากที่นี้นะ จิอาโคโม”

เมื่อจิอาโคโมซ่อนตัวอยู่ในเมืองอย่างปลอดภัย บรูโน่ออกไปว่ายน้ำรอบๆ สระด้วยความสุข

“อา!” เขาพูดกับตัวเอง ขณะมองดอกไม้ที่ตกแต่งหมวก “ทำไมผมถึงไม่สามารถนำหมวกดอกไม้มาถึงบ้านของจิอาโคโมและซ่อนไว้ในนั้นได้?”

บรูโน่หันซ้ายขวา ไม่มีใครอยู่ เขาจับหมวกดอกไม้ในกรงเล็บของเขา ยกตัวขึ้นด้วยขาหลังและเริ่มเดินไปทางเมือง โดยวางหมวกดอกไม้อย่างทะนุถนอมไว้ที่อกของเขา

“ตอนนี้” เขาพูด “ผมกำลังจะไปที่เมือง”

แต่คุณไม่สามารถจินตนาการได้ว่า เมื่อเขาอยู่ห่างจากเมืองเพียงห้าก้าว ทุกคนกลัวมากเพียงใด ขณะที่บรูโน่อยู่ใกล้เพียงนิดเดียว ทุกคนคิดว่าการสิ้นสุดของโลกมาถึงแล้ว เสียงระฆังดังขึ้นอย่างหนัก ผู้คนมารวมตัวกันที่โบสถ์กับพระ ทั้งหมดสวดภาวนา สองพระร้องเรียก ว่า:

“จิอาโคโม! จิอาโคโม! เราจะถูกฆ่า; รีบมาที่นี่! จิอาโคโม! โอ้! วิ่งเร็วๆ เหมือนสายฟ้า จิอาโคโม!”

สองหมวกของเด็กชายจะหมายความว่าเป็นอย่างไรเมื่อพระนึกถึงฤดูใบไม้ร่วงที่ยาว กันเมื่อเขาเข้าไปในโบสถ์ เพื่อลุ้นฟังข่าวที่นั่น?

จิอาโคโมผู้เดียวที่ไม่รู้สึกกลัว เดินไปอย่างกล้าหาญ คิดว่าสิ่งนี้จะทำให้ชาวบ้านรักบรูโน่มากยิ่งขึ้น

ฝูงชนเป็นจำนวนมากอีกฝั่งของเมือง บรูโน่ไม่ค่อยชอบท่าทางของผู้คน พวกเขาดูทุกข์ใจและกลัว และเขาอยากจะวิ่งกลับไป แต่เขานึกถึงจิอาโคโมที่กำลังจะมาถึงในขณะนี้

“ผมขอพูดนะ เพื่อน” เขาพูด มองไปที่ชายคนหนึ่งซึ่งดูเหมือนว่ามีฐานะดี “ช่วยได้ไหมว่าคุณเห็นด้วยกับมัน”

ชายร่ำรวยหันมาด้วยความกลัวและเห็นบรูโน่ เขาลุกขึ้นอย่างสั่นๆ และพูดว่า “คุณต้องการซื้อทรัพย์สมบัติอะไร?”

“ดอกไม้ช่อหนึ่งให้จิอาโคโม” บรูโน่ตอบ

เงินจำนวนเล็กน้อยดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับเขา และเขายื่นกรงเล็บออกไป กรงเล็บของบรูโน่และมือของชายร่ำรวยปะทะกันเหมือนดาบสองเล่ม

“ที่ร่ำรวยกว่าชายใดก็ตาม จะเชื่อกันอย่างแน่นอนที่จะสั่น” บรูโน่คิด

เพื่อไม่ให้เจ็บปวดน้อยที่สุด ชายเศรษฐีก็หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมา และเช็ดน้ำตาน้ำตาอย่างตระหนก จากนั้นเขาให้บรูโน่เงินด้วยมือหนึ่ง และนำดอกไม้อีกมือหนึ่งมาให้

“เอาสิ่งที่คุณต้องการ” ท่านสามารถเดาได้ว่าหมายถึงอะไร; “ผมเป็นคนทำลายทั้งเชื้อสายของตัวเอง”

“แต่ฟังผมก่อน” ผู้คนตะโกน; “บอกเขาว่าเราจะได้รู้ว่าเขาพูดว่าอะไร”

นักบวชสองคนที่สั่นกลัวข้ามตัวเองแล้วสวดมนต์

“ฟังนะ คุณพระ” บรูโน่พูด “มีเด็กชายคนหนึ่ง จิอาโคโม ที่ฉลาดและเฉลียวฉลาด คนนี้คุณน่าจะรู้จัก ขอให้เรียกเขามาที่นี่”

เมื่อจิอาโคโมปรากฏตัว ทุกคนก็เงียบและตั้งใจฟังเขา

“จริงๆ แล้ว ขอให้เขาขออะไรจากคุณ” บรูโน่พูดกับจิอาโคโม

“โปรดเถอะ คุณมังกร อย่าให้คุณร้องไห้” ทุกคนคิดว่าบรูโน่หมายถึงการพูด

“แล้วคุณจะต้องดื่มเราทั้งหมด” จิอาโคโมกล่าวอย่างประหลาดใจ “พูดว่านี่เกี่ยวอะไรกับคุณ”

แต่บรูโน่ ที่เห็นใจจิอาโคโมอย่างแท้จริง ไม่ตั้งใจจะทำร้ายเขา

“ฝากช่อดอกไม้นั้นให้เราเถอะ” บรูโน่กล่าว “และนำเงินนี้ไปเป็นของคุณ มันเป็นของคุณแล้ว”

น้ำตาของจิอาโคโมแห่งความดีใจเริ่มไหลออกมาอย่างเสรี ดังนั้นจิอาโคโมจึงซื้อหมวกดอกไม้ที่สวยงามให้ตัวเอง มอบบางส่วนให้บรูโน่ และกลับมาที่ภูเขา

“นี่โลกนี้มันโง่เขลาเกินไปสำหรับเรา” บรูโน่บ่น

แต่แล้วฝนก็เริ่มตก ขณะที่ผู้คนที่รอดชีวิตในเวลาเดียวกันมีแต่ความสงสารต่อวิญญาณที่ทุกข์ทรมาน เขาพูดอย่างนั้นต่อไป

“โอ้!” เขาร้องอีกหลายครั้ง “จอห์นนี่ของผมไม่ตรงต่อเวลา แต่ผมจะไปหาเขา ขอบคุณพระเจ้าด้วย”

บรูโน่พูดเพียงเล็กน้อยและก้าวไปอีกก้าวหนึ่ง เมื่อเสียงฟ้าร้องที่ดังกระหึ่มดังขึ้นและแยกต้นโอ๊กก่อนโบสถ์เป็นสองท่อน ทุกคนยังคงตั้งใจสวดอ้อนวอนอยู่กับพื้น และบรูโน่ก็มีความสุขมากกว่าเมื่อเห็น บราจนเห็นเป็นการประหลาดใจ ผ่านไปหนึ่งหรือสองนาที ฟ้าผ่าลงที่ยอดหอระฆังและรอบๆ เหล็กที่ลงมา ทั้งหมดก็สั่นไปด้วยความระมัดระวัง

บรูโน่ไม่เข้าใกล้ใครเลยนอกจากจิอาโคโมที่กำลังทำงานอย่างตั้งใจ ฝนตกลงมาจากหลังคาเหล็ก ฝนนี้ไหลลงเป็นลำธารข้างๆ จิอาโคโม เติมหมวกของเขาด้วยน้ำและไหลผ่านรางน้ำที่เกือบจะล้น

แต่ก่อนที่จิอาโคโมจะเข้าใจ มันเกิดการตกของหลังคาที่กำลังคร่ำครวญ และมีเครื่องรางร้ายเกิดขึ้น น้ำจากรางนี้ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ มันไหลออกโดยเต็มไปด้วยอารมณ์

น้ำที่เบาที่สุดนี้ทำให้เป็นทางเดินที่สูงราวเทียนก่อนจะลงที่ขาของจิอาโคโม แต่บรูโน่ก็ปกป้องเขาด้วยปีกอันกว้างใหญ่ของเขา ซึ่งมาถึงไม่ช้ากว่าขอบเขตที่แข็งแกร่ง

ตอนนี้ ขณะที่ทุกคนถูกผสมน้ำจากฟ้าอันมืดมน น้ำดำก็ไหลเข้าหามนุษย์และดับทุกเสียงของพวกเขาด้วยความมุ่งมั่น บรูโน่ผู้เป็นคนสุดท้ายที่ซึมซับตัวเอง ยังมีความทรงจำว่า ขณะที่ตัวเขายังมีเลือดแดงอยู่ มีคนเกือบพันคนแทบถูกน้ำร้อนของเขาจนทำให้หายใจไม่ออก

พระอาทิตย์ทำให้เสื้อผ้าของพวกเขาแห้งอย่างรวดเร็ว และทุกคนยกกระโปรงขึ้นก่อนบรูโน่

จากนั้นจิอาโคโมวิ่งไปหลังบรูโน่ ผู้ซึ่งเพื่อการให้คำปรึกษาเปิดกรงเล็บหลังทั้งสองของเขา เพราะเขาอ่อนล้าและเปียกชุ่ม ผู้คนทั้งหลายทนฝนไปจนกว่าจะมั่นใจว่าบรูโน่ไม่มีอะไรขาดแคลน

ซาตานที่เหนื่อยล้าขึ้นไปที่ภูเขา ก้าวเดินเหมือนกับจิอาโคโม จิอาโคโมวิ่งตามเขาและหัวเราะคุยเกี่ยวกับสิ่งที่ซาตานเคยเล่าให้เขาฟัง

“โอ้! บรูโน่” เขากล่าว “เสียงอะไรกันที่ผ่านไปอย่างเร็วเมื่อกี้ ก่อนหลังคาจะพังลงบนหัวของผม ใกล้ที่น้องชายจะอยู่นั่น?”

“ฟ้าร้องสามครั้งนั้น”

“โอ! ขอบคุณ” จิอาโคโมกล่าว

“แต่ยังขอบคุณเป็นสองเท่าหลังจากตกปลา”

“โอ! ใช่”

“ครั้งแรกกล่าวว่า ‘wn langweilig! ผมตายมาแล้วห้าครั้ง’ และครั้งที่สองมันเรียกมันเองว่าเป็น Panzer-korsica ต่อต้านหลังคาวาติกัน”

คำตอบนี้ทำให้จิอาโคโมรู้สึกขบขัน และเขาไม่ได้สนใจภาพวาดของผู้หญิงที่แก่และอิ่มเอม ขณะเดียวกันเขาก็ยกตามองขึ้นไป และเขากลับรู้สึกเด็กโดยแท้จริง

เท้าของเขาทั้งสองนั้นมีหนามแหลมคมเจ็บอยู่

ในคืนนั้น บรูโน่ร้องไห้เหมือนที่ผู้เผยพระวจนะแท้จริงสามารถร้องไห้ได้

English 中文简体 中文繁體 Français Italiano 日本語 한국인 Polski Русский แบบไทย