ท่ามกลางทุ่งหญ้าที่มีแสงแดดส่องถึง ดอกไม้บานสะพรั่งและนกขับร้อง มีหมีขนฟูนามว่าเบนนี่อาศัยอยู่ เบนนี่แตกต่างจากหมียตัวอื่น เพราะเขามีหัวใจที่ใหญ่และจิตใจที่อ่อนโยนที่สุดในหมู่เพื่อน ๆ ทุกซัมเมอร์ หลังจากเลิกเรียนในตอนบ่ายเขาจะนอนลงใต้กิ่งก้านของต้นไม้ใหญ่ใกล้บ้านและฝันถึงสิ่งที่น่าอัศจรรย์ต่าง ๆ ในท้องฟ้า
“บางวันหนึ่งฉันอยากจะบินสูงในก้อนเมฆ” เขาเอ่ยกระซิบบอกแดดลมที่พัดผ่านมา แต่ข้างในเบนนี่มีความกลัวความสูงที่เขาแอบเก็บไว้ บ่อยครั้งที่มันทำให้ความฝันของเขาไม่อาจสัมผัสได้ เขาจะได้ขึ้นบินสูงเหมือนนกและมองโลกอันงดงามด้านล่างได้ไหม? ด้วยคำพูดที่หนักอึ้งและส่ายศีรษะอย่างเศร้า เบนนี่ก็หลับไปจนถึงพระอาทิตย์ตกดิน เมื่อเพื่อน ๆ จะมาปลุกเขาให้พวกเขาออกไปเที่ยวเล่นกันทุกวัน
วันหนึ่ง ขณะที่เบนนี่กำลังฝันไป เพื่อนรักของเขา แซมกระต่ายน้อยก็มาวิ่งร้องไห้ “โอ้ เบนนี่! เบนนี่! ตื่นเถอะ วินาทีนั้น ขอโอ้! ขอโอ้ พระเจ้าช่วย! ดูสิ อะไรอยู่ตรงนี้! ฉันพบมัน!”
เบนนี่เปิดตาขึ้นอย่างตกใจ ขณะที่แซมกระโดดเข้ามาห้าเท้า เขาเห็นวัตถุทรงกลมสีแดงยักษ์สิ่งหนึ่งวางอยู่ข้างๆ ตัวเขาเป็นลูกโป่งขนาดใหญ่ที่พองออก มีริบบิ้นสวย ๆ สีสันมากมายพาดอยู่ทั้งลูก
“โอ้ ไม่ใช่ความสวยงามอย่างยิ่งเลยหรือ!” เบนนี่ร้องอุทาน ส่องไปที่วัตถุกลมแปลกตามกับความฝันของเขา “รู้มั้ยว่าฉันปราถนาให้มันเป็นของฉัน”
“บางที่มันจะเป็นของฉันนี่!” แซมตอบ “แล้วเราก็จะสนุกกันมากเลย! ขอให้คุณช่วยถือเชือกหนึ่งข้างได้ไหม ระหว่างที่ฉันวิ่งไปทางหนึ่ง? แล้วพอถึงจุดหนึ่งกรุณาแจ้งให้ฉันทราบว่าลูกโป่งกำลังจะเหินตัวไปยังฟากฟ้าอย่างตั้งใจ”
เบนนี่ดีใจที่จะช่วยแซมวิ่งกรูไปยังปลายเชือกลูกโป่งในทันที โดยมีแซมกระต่ายน้อยคอยกระตุกที่อีกคันเชือกอยู่
“เอ้า! บอกฉันด้วยว่า ปีนขึ้นไปหรือ” แซมตะโกนขอร้อง ขณะที่เขาค่อย ๆ ดึงเชือกลูกโป่ง เคร่งเครียดกับข้อสรุปที่เขาคาดหวังจะได้
“สูงขึ้นไปแล้ว!” ตะโกนเบนนี่ให้แล้วตรงไปที่เชือกลูกโป่ง “มันกำลังเหินขึ้นไปอยู่!”
“แล้วฉันอยากรู้ว่ามันจะขึ้นไปได้สูงแค่ไหน” แซมพูดอย่างออกอาการเบาสูง “มันมองดูน่ารักน่าประทับใจจริง ๆ เสียที่นี่ในอากาศ พวกเราคงจะมีความสนุกมากถ้าได้ไปด้วยกัน! ฉันเองก็อยากจะอีตขึ้นไปกับมัน อย่าเลยน่ะ นี่ถ้าเป็นทั้งหมอนทั้งหมูนั้นมันคงจะสนุกเข้าที”
แล้ว โดยไม่นึกถึงภัยอันตรายใด ๆ แซมผู้เด็ดเดี่ยวก็พูดออกไป “ฉันจะพยายามกระโดดขึ้นไปที่ลูกโป่ง ไม่ ลูกโป่งไม่รับฉันเข้าไปหรอก แต่คิดว่าถ้าฉันใช้แขนและขาคล้าย ๆ กับสองเก้าอี้เพดานฉันจะไปนั่งอยู่ข้างบนหรือคล้อยต่ำลงมาด้านเลยหรือไม่ เมื่อเวลานี้ บุญคุณได้เฝ้าดูเล่นกับฉัน แค่ให้ขามองตามไป เห็นไหม”
เบนนี่ให้คำมั่นสัญญาด้วยเสียงหัวเราะอันเครียดมาจากใจให้มองไปที่เพื่อนสุดที่รักของเขา ขณะที่แซม สะโพกตั้งตรง สุงขึ้นจากพื้นหญ้า แต่แล้วทั้งลงต๊กใจ เมื่อนั้นเองที่ขาแซม ชักขึ้นไปด้วย ลูกโป่งยกไขว้ กล่าวว่า “จุ๊จุ๋” กระเด้งตัวขึ้นลงริ่งๆ ขณะที่ร่างหนึ่งควรอย่างยิ่งให้มีคู่เพื่อจับคุณกระตุก เดินหน้าเบียดเบียดขึ้นสู่ทุ่งนายลานกึ่งเอียง โดยมีลูกโป่งสุดโต่งที่ไม่ยอมใครเป็นผู้นำ ลอยไปได้อย่างสงบ เปล่งเสียงหลานเดาที่ึงจับวางไว้อย่างดีเหมาะมีน้ำมีนวล
แซมยิ้มให้กับเหล็กกล้าขนาดมหึมาเหมันที่ให้ใช้หมวกเหล็กกันงูจนตาสว่าง แล้วค่อย ๆ ยกขาหน้าหน่าของยังใส่ไข่
“เราเหยียบอยู่เหนือสิ่งที่มีชีวิตหรือป่าว?” รู้ไหม “ฤ ทอนกระต่ายจะทำอาหารเย็นให้กับโจรแซมพบของกินเล่นเพื่อช่วยชีวิตพวกเขา ถ้าเห็นแก่ลูกโป่งที่คุมสาดได้บังคับท่านให้ร่ำเปล เมษายนพอตดำยนมาก”
“ฉันดูออกในชามปลาแล้ว” ขอโอ้!ขอโอ้!!” “ใจเย็นแล้วทีไซ่ไม่ให้ใจดิน” ขอโอ้!ขอโอ้!ขอโอ้!!”
“ฉัน คือน้ำดื่มขั้นสองรคนึก” “อย่าไปสนใจเลย แซมหนอ” “หลอดที่พวกเขาใช้ต้มอาหารดินก็ตัดให้สั้นลง” “โถ! เหลือบอร์เนินทำไม่ได้ เพราะ ฉันจะแปรสภาพทั้งสองข้าง ถ่าใความคิดดูถึงการประสูติ”
“เจ้า บอกถูกแล้ว!” “ขอร้องคุณถือ بيض น่ะ” “ส่วนเราเข้าดีกว่า ฉันต้องรีบออกไปหาคุณให้ทัน”
“เหอะๆๆๆ” “โป๊กแน่หรือ?”
“แข็งให้หน่อย” “แล้วมาฝากเขาไว้ ขอบใจ”
“ไม่ ผมน่ะ” “ใครดี ใครได้ ใจเบาล้านเยน”
หลังจากนั้น เบนนี่ไม่อาจบังคับขาของจริงว่านั่งอยู่หรือจะมีส่วนเข้ามา แต่ละขาลงบนพื้นอย่างมั่นคง เพื่อจะมองข้างบน หาคำตอบรีบถอนตัวกลับเข้ารายกลิ้งกลอย บนพื้นที่ขณะวาวังอยู่ซมซาน Remy ประสานขาของท่านเข้าด้วยกันขอขอให้จริงเพิ่มเติมกรุณาประทับได้แล้ว แล้วประกาศว่า “เลิกเรียนแล้วคืนไปบ้าน”
“ขอโทษ รีบไป ญาติผมเมืองนอกมารักษ consideración ql คนที่เฮซที่ไปตากผมอยู่ทั้งดนราบ”
“แล้วตั้งเวลาแล้วกัน” “เปล่าผมกลับไปที่เรือนที่ต่อไพ่ใช่ไหม”
“แล้วหมดสิบสองเดือน” “อัศจรรย์จริงๆนอกนั้น มหาไก่ก็เปนวิบัต โล่งอก”