เบลล่าและสะพานสายรุ้ง

ในมุมสงบของโลกที่ดอกไม้บานสะพรั่งในสีสันที่สดใสกว่าสีเทียนที่สวยที่สุด และต้นไม้กระซิบความลับด้วยสายลมเบาๆ ฉัน เบลล่ากระต่าย กระโดดอย่างมีความสุขไปตามทางในทุ่งหญ้ามหัศจรรย์ของฉัน หัวใจของฉันเบาเหมือนเมฆปุยที่ลอยอยู่ข้างบน เมื่ออยู่ๆ อากาศก็เกิดการกระเพื่อมที่แปลกประหลาด

ตรงหน้าฉันมีโคลเวอร์ กระรอกตัวน้อย ยืนอยู่ สายตาของเธอกว้างและหัวใจตัวน้อยของเธอเต้นแรง “เบลล่า! มีบางอย่างไม่ถูกต้อง!” เธอส่งเสียงกระซิบ ราวกับใบไม้ที่สั่นในพายุ ก่อนที่เธอจะรวบรวมลมหายใจ เบนนี่นกตัวน้อยก็โฉบลงมา ขนนกฟูฟ่องและจงอยปากชี้ไปที่ท้องฟ้า

“มันคือฟลอปซี! เขาเชื่อมโยงตัวเองอยู่ใต้ต้นโอ๊กเก่า และตอนนี้เขาหาทางกลับไม่เจอ!” เบนนี่ร้องจิ๊บ จิ๊บอย่างร้อนรน

ฟลอปซี เพื่อนของฉัน มักจะหลงใหลในความมหัศจรรย์ของทุ่งหญ้า ไล่ตามผีเสื้อหรือมองเห็นเงาสะท้อนในแอ่งน้ำ แต่ทำไมเขาถึงไปอยู่ใต้ต้นโอ๊กเก่า ที่ซึ่งเงามืดเต้นรำด้วยความลึกลับและความซน เป็นสิ่งที่เกินความเข้าใจของฉัน

“เราต้องช่วยเขา!” ฉันประกาศ รู้สึกถึงการสั่นไหวในท้องที่ฉันไม่เคยรู้สึกมาก่อน

“แต่ว่ายังไง? ที่นั่นมืดมาก!” โคลเวอร์ถามเสียงเบาเกือบเป็นกระซิบ

ช่วงเวลานั้น เบนนี่พูดขึ้น “หลายดวงจันทร์ก่อน ต้นโอ๊กเก่าบอกฉันว่ามีสะพานที่ซ่อนอยู่ซึ่งสว่างจ้าเหมือนดวงอาทิตย์ มันเชื่อมโยงโลกของเรากับดินแดนของดวงดาวระยิบระยับ ถ้าเราข้ามมันในยามโพล้เพล้ มันจะนำเราไปหาฟลอปซี”

“จะปลอดภัยไหม?” ฉันถามด้วยหัวใจที่เต้นแรง เปรียบเหมือนเสียงสะท้อนของความกังวล

“มันเป็นการทดสอบความกล้า เบลล่า เหมือนตอนที่เราวิ่งแข่งข้ามทุ่งหญ้าในคืนที่ฝนตก” เบนนี่นึกถึง ทำให้ภาพความทรงจำปรากฏในใจฉันเหมือนกับแมลงไฟที่เต้นรำในยามค่ำคืนฤดูร้อน

ฉันสูดหายใจลึก ให้กลิ่นหญ้าเขียวขจีเติมเต็มปอด “ถ้าฟลอปซีมีปัญหา เราต้องรักษาเขาให้ปลอดภัย มา! ไปที่ต้นโอ๊กเก่า!” ฉันร้องขอ ขณะที่พยายามสร้างความกล้าหาญที่ฉันบางครั้งก็สงสัยว่าฉันมีอยู่จริงหรือไม่ เพื่อนอีกสองคนลังเลสักครู่ แต่แล้วโคลเวอร์ก็พูดขึ้นอย่างมุ่งมั่น “ถ้าเราทำด้วยกัน ฉันรู้ว่าเราทำได้” เบนนี่ร้องจิ๊บๆ ตอบรับ

เมื่อเราเข้ามาใกล้ต้นโอ๊กเก่า กิ่งก้านที่งอทอดตัวอยู่เหมือนนิ้วมือของยักษ์ที่หลับใหล เงามืดกระซิบรายรอบเรา แต่ฉันกับเพื่อนๆ เดินไปข้างหน้าอย่างแน่วแน่ เพื่อมุ่งสู่สะพาน

และแล้วมันก็มาถึง—สะพานประกอบด้วยสายรุ้งที่ไหลหลาก แสงระยิบระยับ และสีสันที่สดใสจนอุ่นใจ “มันสวยงาม” โคลเวอร์อัศจรรย์ใจ ดวงตาของเธอส่องแสงด้วยความประหลาดใจ

“จำไว้นะ เบลล่า” เบนนี่กล่าว “เมื่อใดก็ตามที่คุณกลัว มองไปที่เพื่อนสำหรับพลัง”

ด้วยคำพูดเหล่านั้นที่ส่องประกายอยู่ในหัวใจของฉัน ฉันกระโดดอย่างกล้าหาญขึ้นไปที่สะพาน สีสันโอบกอดฉันราวกับการกอดอันอบอุ่น โคลเวอร์และเบนนีก็ตามมาหลัง

ทุกครั้งที่กระโดด ฉันรู้สึกน้อยลงในฐานะกระต่ายที่กลัวและมากขึ้นในฐานะนักผจญภัยที่กล้าหาญที่สุดในทุ่งหญ้ามหัศจรรย์ทั้งหมด เราข้ามอาณาจักรทีละอาณาจักร สูงขึ้นเรื่อยๆ จนเรามาถึงสถานที่ที่รู้สึกเหมือนบ้าน—ทุ่งหญ้าที่ดอกไม้ทุกดอกบานสะพรั่งตลอดไปและแสงอาทิตย์เต้นรำบนกลีบทุกกลีบ

“ดู!” โคลเวอร์ร้องตื่นเต้น ชี้ไปที่ผลไม้ที่ประดับอยู่ใต้ต้นไม้ที่เปล่งประกาย

กระโดดอยู่ใต้ต้นไม้ที่ประดับประดาด้วยผลไม้ที่เปล่งแสงดาวคือฟลอปซี หูของเขาชูและดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ฉันกระโดดไปข้างหน้า หัวใจเล็กๆ ของฉันเต็มไปด้วยความโล่งใจ “ฟลอปซี! พวกเราห่วงใยคุณมาก!” ฉันอุ้มเขาด้วยเท้าฟูฟ่องของฉัน

“โอ้ เบลล่า! โคลเวอร์! เบนนี่!” เขาร้องเสียงแหลม อิ่มเอมไปด้วยความสุขจากใบหน้าตัวน้อยของเขา “ดูสถานที่ที่สวยงามนี้!”

“เราได้มาที่นี่เพื่อพาเจ้ากลับบ้านนะเพื่อนรัก” ฉันพูดอย่างนุ่มนวล แม้ส่วนหนึ่งของฉันจะอยากสำรวจแผ่นดินสายดาวนี้ต่อไป

“แต่ฉันไม่อยากไป” ฟลอปซีบ่น “ฉันพบสิ่งที่น่ามหัศจรรย์มากมาย!”

ชั่วขณะนั้น สายรุ้งเหนือหัวกระพริบ และเสียงกระซิบเบาๆ ก็ผ่านมา “การเดินทางทั้งหมดนำกลับสู่ความรัก เจ้าฟลอปซี” มันดูเหมือนจะกล่าว “ด้วยทุกการผจญภัย หัวใจของเจ้าขยายมากขึ้น แต่จงจำเพื่อนที่ช่วยเจ้าหาทาง”

ดวงตาของฟลอปซีโตขึ้น ความเข้าใจสุกสว่างในหัวใจ “เธอพูดถูก! ถึงเวลาแล้วที่จะกลับบ้าน!” พร้อมกับนั้น เรารีบกลับข้ามสะพานสายรุ้ง หัวใจของเรายิ่งเต็มมากขึ้น

เมื่อเรามาถึงที่ขอบทุ่งหญ้ามหัศจรรย์ แสงอาทิตย์ลดต่ำลงบนขอบฟ้า ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างมีสีทองและสีชมพู

“ด้วยกัน เราสามารถเอาชนะทุกสิ่ง” ฉันถอนหายใจ ขณะดอกไม้ใหม่รอบตัวเราในทุกคำพูด พร้อมที่จะเต้นรำกับชีวิต

ด้วยหัวใจที่พึงพอใจ ฉันตระหนักว่าแม้ในช่วงเวลาที่เรากลัวมากที่สุด มันก็คือสายสัมพันธ์แห่งมิตรภาพที่มอบความกล้าหาญให้เราออกผจญภัยแม้กระทั่งในกิจกรรมที่กล้าหาญที่สุด

English 中文简体 中文繁體 Français Italiano 日本語 한국인 Polski Русский แบบไทย